
20 เมษายน 2566 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นางสาววทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองพรรค ลงพื้นที่ย่านบางรัก ช่วยนางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตพระนครป้อมปราบ สัมพันธวงศ์ ดุสิต บางรัก หาเสียง โดยได้เดินทักทายพ่อค้าแม่ค้าริมข้างทางและประชาชนที่สัญจรไปมา พร้อมแจกใบปลิวแนะนำตัวผู้สมัคร ฝากให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 ทั้งคนทั้งพรรค
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หวังว่าประชาชนจะให้การตอบรับพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง โดยเฉพาะนางเจิมมาศ ที่ทำงานในพื้นที่มาอย่างยาวนาน แล้ววันนี้ก็ดีใจที่พี่น้องประชาชนยังเข้ามาทักทายแสดงความผูกพันกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเชื่อว่าประชาชนจะเห็นการทำงานของนางเจิมมาศ มาตลอด และจะให้การสนับสนุน โดยยอมรับว่าการแข่งขันในการเลือกตั้งครั้งนี้รุนแรงมากและมีหลายปัจจัย ที่มีผลต่อการตัดสินใจประชาชนแต่เรายังคง เน้นย้ำในความเป็นประชาธิปัตย์
ด้าน น.ส.วทันยา กล่าวว่า จากที่ได้ลงพื้นที่สัมผัสได้ถึงการตอบรับที่ดีมากขึ้น และบรรยากาศที่อบอุ่นจากการให้การต้อนรับของประชาชนกับทีมงานของพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะในเขตนี้ของ นางเจิมมาศ มีความมั่นใจอย่างยิ่ง เพราะเจ้าตัวได้ทำงานและพิสูจน์ให้กับประชาชนได้เห็นมาตลอด 4 ปี ว่าแม้จะไม่มีตำแหน่งทางการเมือง และแม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่มี ส.ส.ในเขต กทม.
แต่การทำงานได้พิสูจน์ให้เห็น และสิ่งที่อยากบอกไปยังประชาชน คือ การพิสูจน์ความสม่ำเสมอในการทำงาน ซึ่งเป็นจุดที่สำคัญมากในการที่เราจะต้องเลือกตัวแทนที่เขาต้องมีความหนักแน่นในเรื่องอุดมการณ์ทางการเมือง และความตั้งใจในการทำงานที่พิสูจน์ได้ด้วยความสม่ำเสมอในการทำงาน
และมองว่าการที่อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 3 คน และเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรีถึง 2 คน มาช่วยหาเสียงเป็นการแสดงถึงความตั้งใจของพรรคประชาธิปัตย์ที่เห็นถึงคุณค่าของประชาชน เห็นคุณค่าในการลงพื้นที่ถามวิถีของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งถือว่าเป็นจุดยืนและเจตนารมณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่สำคัญมาก
น.ส.วทันยา ยังกล่าวถึงนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า นอกจากจะมีนโยบายที่แก้ไขปัญหาประชาชนระดับประเทศแล้ว ยังมีปัญหาของประชาชนในระดับท้องที่ ระดับพื้นที่ ซึ่งก็เป็นหนึ่งส่วนที่ ส.ส. หรือสมาชิกของพรรคได้สะท้อนในการทำนโยบายของพรรค เพื่อนำเสนอในการเลือกตั้ง และโดยเฉพาะใน กทม. ที่มองว่ามีปัญหาหลายภาคส่วน จึงจะเห็นได้ว่าในส่วนของ กทม. เรามีนโยบายแยกเฉพาะ กทม. อย่างเช่น
การแสดงจุดยืนในการต่อสู้กับฝุ่น PM 2.5 และการบริหารจัดการเรื่องน้ำท่วม น้ำแล้ง อย่างเมื่อวาน (19 เม.ย.) ตนได้ไปในพื้นที่ทุ่งครุ่-ราษฎ์บูรณะ ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะน้ำท่วมน้ำแล้ง แต่ยังมีเรื่องของปัญหาน้ำเค็ม ทำให้สวนส้มบางมดที่เป็นความภาคภูมิใจของคน กทม. ปัจจุบันเริ่มน้อยลง เพราะปัญหาของน้ำเค็มทำให้ต้องปรับเปลี่ยนจากสวนส้มมาเป็นสวนมะพร้าว
นอกจากนี้ น.ส.วทันยา ยังได้เชิญชวนให้ประชาชนติดตามการปราศัยใหญ่วันที่ 23 เมษายนนี้ ที่อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ ซึ่งเป็นการปราศรัยในโซนฝั่งธน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ จะจัดเวทีทุกครั้งเมื่อมีการเลือกตั้ง