การหาเสียง"เลือกตั้ง 66" แต่ละพรรคการเมืองกำลังดำเนินการหาเสียงอย่างเข้มข้น ท่ามกลางผลสำรวจของสำนักโพลต่างๆทยอยออกมา เมื่อโฟกัสพื้นที่เมืองหลวง เป็นพื้นที่ชี้วัดสำคัญต่อการกำหนดอนาคตประเทศ โอกาสนี้ "รายการคมชัดลึก" โดย "วราวิทย์ ฉิมมณี" ได้สัมภาษณ์ "สุรนันทน์ เวชชาชีวะ" อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
"วราวิทย์" คุณสุรนันทน์มองแนวโน้มของ 33 เขตนี้อย่างไรครับ
"สุรนันทน์" มองยากมากครับ จริงๆแล้วสนามกรุงเทพฯค่อนข้างจะวิเคราะห์รายเขตลำบากมาก ช่วงที่เราดูปีที่แล้วมันค่อนข้างชัดเพราะว่าเขตไม่ถูกแบ่งอย่างนี้ การแบ่งเขตใหม่ของกกต.ครั้งนี้ ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในหลายจุด อย่างเขตหนองจอกเมื่อก่อนเป็นเขตเดียว ตอนนี้แบ่งเป็นสองเขต เขตมีนบุรีถูกแบ่ง ฝั่งธนมี 5 เขต 5 แขวงเป็นหนึ่งเขตเลือกตั้ง เพราะฉะนั้น ทุกคนก็ปรับตัวจะเห็นได้ว่ามีผู้สมัครหลายคนถอนตัว เพราะว่าเคยเดินอยู่พื้นที่นี้ถ้าไปบอกพื้นที่นี้เค้าไม่เคยเดินก็คิดว่าสู้ไม่ได้เค้าก็ถอย
เพราะฉะนั้น ถ้าวิเคราะห์หลายตัวยังต้องดูอีกสักพัก ซึ่งคะแนนทุกคะแนน ตกไม่ได้เลยแล้วก็มีปัญหาอีกก็คือคนละเบอร์ พรรคเบอร์หนึ่งผู้สมัครเบอร์หนึ่ง โชคดีอย่างที่คนกรุงเทพฯเคยมีประสบการณ์นี้แล้วก็คือเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
"วราวิทย์" แต่ว่าธรรมชาติของกรุงเทพ ไม่ได้ยึดกับกระสุนหรือตัวบุคคลมากเท่ากับกระแสของพรรคใช่ไหม พอจะคาดการณ์ได้ไหมถึงแม้คนนี้จะมีปัญหาเรื่องการแบ่งเขตบ้าง แต่กระแสพรรคยังไงก็นำตัวผู้สมัคร เป็นแบบนั้นหรือเปล่า
"สุรนันทน์" ธรรมชาติของกรุงเทพฯ มีสองธรรมชาติธรรมชาติที่สู้กันหนัก คือธรรมชาติในชุมชน เพราะว่าในชุมชนต่างๆต้องยอมรับว่าก็มีหัวคะแนนเป็นผู้นำชุมชนที่กว้างขวางในชุมชนนั้น การมีผู้นำชุมชนนี่แหละคือหัวคะแนนที่ทำให้ผู้สมัครต้องไปสู้กันตรงนั้น แต่กระแสคือพวกที่เรียกว่าบ้านมีรั้วบ้านตึก ยุคสมัยนี้ คือคอนโด คนรุ่นใหม่ซึ่งหลังๆถ้าประเมินไม่ผิด คือ ฐานของ"ก้าวไกล"เพราะคนรุ่นใหม่ที่ซื้อคอนโดหรือเช่าคอนโดอยู่ลงมาก็จะเลือกคนรุ่นใหม่ เพราะฉะนั้นพวกนี้อยู่กับกระแส แต่ละพรรคจะมีจังหวะ รอบนี้ประชาธิปัตย์อาจจะยังไม่กลับมาเกิด เพราะว่ารอบที่แล้วหายไปเลย
"วราวิทย์" สัดส่วนที่"คุณสุรนันทน์"ให้ระหว่างบ้านรั้วกับชุมชนที่เป็นคะแนนจัดตั้งผ่านหัวคะแนนน้ำหนักมันอยู่ทางไหนมากกว่ากัน
"สุรนันทน์" พูดลำบากครับเพราะว่าต่อสู้กันในชุมชนเสียงค่อนข้างจะแตก
"วราวิทย์" แต่ว่าในชุมชนอาจจะมีการจัดตั้งได้ผ่านหัวคะแนนได้แต่ก็หลายพรรคเข้าไปถึงเหมือนกัน
"สุรนันทน์" ทุกคนเข้าถึงทุกคนที่มีฐานเดิม อย่าง"เพื่อไทย"ต้องยอมรับว่าเข้มแข็งเพราะฐานเดิมตั้งแต่พลังธรรมมาไทยรักไทย พลังประชาชน แล้วก็การต่อสู้ในเชิงประชาธิปไตยในกรุงเทพค่อนข้างเข้มแข็ง ลงไปในตลาดลงไปในผู้มีรายได้น้อยจะเป็น"เพื่อไทย"ซะเยอะ แต่ในฐานของประชาธิปัตย์เองซึ่งเมื่อก่อนเข้มแข็งกลับถูกแตกออกมาแต่ออกมาสมัยพลังประชารัฐ ความตกต่ำของพรรคประชาธิปัตย์ยุคนั้นแล้วตอนนี้ รวมไทยสร้างชาติดึงหัวคะแนนของประชาธิปัตย์ออกไปก็กระจายไปในฝ่ายอนุรักษ์นิยม
"วราวิทย์" แสดงว่าตัวชี้ขาด ยังอยู่ที่กลุ่มบ้านมีรั้ว บ้าน ตึกคอนโด
"สุรนันทน์" คนส่วนใหญ่ที่ไม่มีหัวคะแนนง่ายๆ ในกรุงเทพ แล้วก็คนที่มีหัวกับคะแนนก็ใช้ว่าเค้ารับปากแล้วเค้าจะเลือกคุณ
"วราวิทย์" แต่จะทิ้งกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไปไม่ได้
"สุรนันทน์" ไม่ได้เพราะว่าจริงๆแล้วพอมีหัวคะแนน มีการเฝ้ากระดาน และถ้าเฝ้ากระดานแล้ว คะแนนไม่ออกตามนั้น คนที่เป็นผู้นำชุมชนก็ไปเฉ่งลูกบ้าน แล้วคนที่สอบได้หรือสอบตกก็ไปเฉ่งผู้นำชุมชนอีกทีนึง ฉะนั้นมีกระบวนการทั้งเก่าและใหม่ แต่ถ้าถามว่าเป็นเรื่องเงินทั้งหมดหรือไม่ก็ไม่ใช่ เพราะว่าเป็นเรื่องระบบอุปถัมภ์ด้วย แล้วก็ได้ความวุ่นวายของเมืองทำให้ยังไม่คิด แต่อาจมีในใจก็ไปรออาทิตย์สุดท้าย เผื่อมีใครพูดพลาดอะไรขึ้นมาหรือสะดุดขาตัวเองขึ้นมาเปลี่ยนใจได้ หรือใครโดดเด่นขึ้นมาในโค้งสุดท้ายเป็นไปได้เหมือนกันโดยเฉพาะการเลือกตั้งใหญ่
"ที่สัมผัสได้ตั้งแต่ปีที่แล้ว กระแสที่ไม่เอารัฐบาลมีสูง กระแสที่ต้องการเปลี่ยนแปลงมีสูงเพราะฉะนั้นตรงนี้ สะท้อนให้โพลทุกโพลจะเห็นได้ว่าในกรุงเทพเป็นเพื่อไทย ก้าวไกล และต้องยอมรับว่ากระแสอนุรักษ์นิยมก็ไม่ไปที่พรรคอื่นนอกจากพลเอกประยุทธ์"
เพราะฉะนั้นการที่มีขึ้นมีลงแต่ผมว่า"พลเอกประยุทธ์"ก็หาเสียงหนักและเดินเป็นนักการเมืองเต็มตัว เพราะงานตรงนี้ ผมว่าคะแนนอนุรักษ์นิยมน่าจะเทไปที่"รวมไทยสร้างชาติ" แต่จะฝ่าคนที่ไม่เอารัฐบาลที่เบื่อและต้องการเปลี่ยนแปลง และลงคะแนนให้"ก้าวไกล"กับ"เพื่อไทย"ได้หรือไม่นั้นผมว่ายาก
"วราวิทย์" เพราะฉะนั้น"คุณสุรนันทน์" แบ่งเป็นสองกลุ่มคือกระแสคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงกับกระแสอนุรักษ์นิยม อนุรักษ์นิยมยังไงจะเทไปที่"รวมไทยสร้างชาติ"ไม่ข้ามขั้ว
"สุรนันทน์" ไม่ข้ามขั้วครับ แต่ผมว่าในที่สุดแล้วด้วยข้อจำกัดบางอย่างใน"กลุ่มอนุรักษ์นิยม"ที่จะไปเลือกเพื่อไทยเพราะอาจจะยังไม่ไว้วางใจเพื่อไทยเคยต่อสู้กับคุณทักษิณมา และยังไม่ไว้วางใจเด็กรุ่นใหม่ก้าวไกลว่าจะบริหารประเทศได้ก็กลับไปที่"ลุงตู่" แต่ผมคิดว่าความเปลี่ยนแปลงน่าจะเป็นหัวใจมากกว่าในการตัดสินใจของคนกรุงเทพฯ ถ้าให้แทงหวยวันนี้ไม่"เพื่อไทย"ก็"ก้าวไกล"เนี่ยหล่ะ
ชมคลิป >>>
"สุรนันทน์" วิเคราะห์ สนามเลือกตั้งกทม. กระแสหรือตัวบุคคล