ในปี 2562 ภายใต้การนำทัพของ “ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม” บ้านใหญ่สมุทรปราการก็กลับมาผงาดบนเวทีการเมืองใหญ่อีกครั้ง โดยได้ ส.ส. 6 คน จาก ส.ส. ทั้งหมด 7 คน และในการเลือกตั้งปี 2566 “บ้านใหญ่” ก็ส่งขุนพลลงสนามรบอย่างเต็มอัตราศึก
ขุนศึกบ้านม้าทองคำ
โดยการเลือกตั้งในครั้งนี้ จังหวัดสมุทรปราการได้โควต้า ส.ส. เพิ่มอีก 1 คน รวมเป็นทั้งสิ้น 8 คน และ “บ้านใหญ่” ก็ส่งผู้สมัคร ส.ส. ครบทุกเขต ในนาม “พรรคพลังประชารัฐ” บวกกับอีก 1 ปาร์ตี้ลิสต์ รวมเป็นทั้งหมด 9 คน
ซึ่งในจำนวน 9 คนนี้ มี 4 คนที่เป็นคนในตระกูลอัศวเหม ได้แก่
1. “อัครวัฒน์ อัศวเหม” อดีต สส.สมุทรปราการ ลูกชาย “สมบูรณ์ อัศวเหม” พี่ชายวัฒนา ลงสมัคร ส.ส.เขต 1
2. “วรพร อัศวเหม” ลูกชาย “สมพร อัศวเหม” อดีต รมช.พาณิชย์ น้องชายวัฒนา โดย “วรพร” เคยเป็นประธานสภาเทศบาลตำบลบางปู โดยครั้งนี้ ลงสมัคร สส.เขต 4
3. “ต่อศักดิ์ อัศวเหม” อดีต สส.บัญชีรายชื่อ เป็นหลานชายวัฒนา “ต่อศักดิ์” เคยเป็นรองนายกเทศมนตรีนครสมุทรปราการ การเลือกตั้งครั้งนี้ ลงสมัคร สส.เขต 7
4 “พิม อัศวเหม” ลูกสาว “พูลผล” ลูกชายคนกลางของวัฒนา ซึ่ง “พูนผล” เสียชีวิตไปแล้ว เหลือแต่ภรรยา “ประภาพร อัศวเหม” ที่ได้รับเลือกเป็น “นายกเทศมนตรีนครสมุทรปราการ” โดย “พิม” ลง ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 8 ของพรรคพลังประชารัฐ
นอกจากนั้น ก็ยังมี “เพลง-ชนม์ทิดา อัศวเหม” ลูกสาวของ “ชนม์สวัสดิ์” ที่ลง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 5 ของ “พรรคภูมิใจไทย” ภายใต้ข้อตกลงส่วนตัวระหว่าง “ชนม์สวัสดิ์” กับ “อนุทิน” จึงเท่ากับว่าในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ มีคนในสังกัดบ้านใหญ่ และคนในตระกูลอัศวเหม ลงทำศึกเลือกตั้งรวมกันทั้งสิ้นถึง 10 คน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สูญเสียแม่ทัพกลางศึก
แต่หลังจาก “ชนม์สวัสดิ์” เสียชีวิตอย่างกะทันหัน เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้ “บ้านใหญ่” ตกอยู่ในสถานการณ์ขาดแม่ทัพกลางศึก
อีกทั้งกระแสที่ร้อนแรงของ “อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร” โดยผลสำรวจของนิด้าโพลในวันที่ 2 เมษายน ระบุว่า คนสมุทรปราการอยากให้เป็นนายกฯ อันดับ 1 มีเรตติ้งสูงเกือบ 36 %
ทำให้ “วัฒนา อัศวเหม” ในวัย 86 ปี ประมุขบ้านใหญ่ตัวจริง ไม่อาจนิ่งเฉยได้ ต้องตัดสินใจเข้ามานำทัพด้วยตัวเอง ผ่านการประสานกับ “สุนทร ปานแสงทอง” รมช.เกษตรฯ พ่อบ้านอาณาจักรบ้านม้าทองคำ ที่ทำงานกับ “วัฒนา” มาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี
“สุนทร” พ่อบ้านแห่งอาณาจักรม้าทองคำ
หากย้อนไปยังยุครุ่งเรืองอย่างสุดขีดของอาณาจักรม้าทองคำ “มั่น พัธโนทัย” ลูกชาย “สังข์ พัธโนทัย” อดีตคนสนิทจอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็เป็นทั้งมือขวาและครูการเมืองของ “วัฒนา”
“มั่น” เป็น ส.ส. หลายสมัย และเป็นรัฐมนตรีในหลายรัฐบาล คาดกันว่า หากเขาไม่ประสบปัญหาด้านสุขภาพจนต้องวางมือทางการเมือง ก็จะต้องได้เป็น รมช.เกษตรฯ ในโควต้าของบ้านใหญ่สมุทรปราการ
โดยสุดท้ายแล้ว ผู้ที่ได้ตำแหน่งนี้ไปก็คือ “สุนทร ปานแสงทอง” หลังได้รับการโปรดเกล้าฯ เขาก็ได้เข้าไปคารวะ “มั่น พัธโนทัย” ถึงที่บ้านพัก ซึ่งการเป็นตัวแทนของกลุ่ม ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลประยุทธ์ ก็สะท้อนให้เห็นถึงความไว้เนื้อเชื่อใจที่ “วัฒนา” มีให้กับ “สุนทร” เป็นอย่างมาก
“วัฒนา” เรียกขวัญกำลังใจ ลุยศึกเลือกตั้ง 66
แม้จะอยู่ห้วงแห่งความโศกเศร้า หลังสูญเสียลูกชาย แต่ “วัฒนา” ก็ต้องพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อปลุกขวัญและกำลังใจเหล่าทีมงานให้สู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้อย่างเต็มที่ ผ่านการประสานงานกับ “สุนทร” เพราะตัวเขาไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ เนื่องจากคดีทุจริตที่ดินคลองด่าน
โดยเขาได้ส่งคลิปเสียงที่ยืนยันกับเหล่าทีมงานว่า จะร่วมงานกันต่อไป อย่างไม่สะดุดและขาดตอน และจะทำงานกับทุกฝ่าย ด้วยวัยและประสบการณ์ อีกทั้งยังการันตีว่า “จะดูแลอย่างเข้มแข็ง และใกล้ชิดกว่าเดิม”
เพราะศึกครั้งนี้ต้องชนะเท่านั้น เพื่อให้ “บ้านม้าทองคำ” ยังคงผงาดต่อไปได้... ในสมุทรปราการ
ที่มา ม้าทองคำออกศึก วัฒนา นำขุนพล ‘บ้านใหญ่ปากน้ำ’ แพ้ไม่ได้