svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เทียบนโยบายปราบยาแต่ละพรรคการเมือง-สรุป"เอวัง"หรือ"วังเวง" 

01 เมษายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

น่าแปลกที่นโยบายยอดนิยมในความรู้สึกของประชาชนคนไทย 10 อันดับแรก ล้วนเป็นนโยบายประชานิยมเกือบทั้งหมด ยกเว้น "กระจายอำนาจ" ของก้าวไกล ที่ใช้คำว่า "ปลดล็อกท้องถิ่น" เท่านั้น ที่ไม่ใช่ประชานิยม 

ทั้งๆ ที่นโยบายที่พรรคการเมืองแข่งกันนำเสนออย่างดุเดือดอีกนโยบายหนึ่ง คือ "ปราบยาเสพติด" 

 

เนื่องจากในรอบหลายปีที่ผ่านมา ยาเสพติดระบาดหนักมาก มีโศกนาฏกรรมจากน้ำมือคนเสพยามากมาย แต่นโยบายแบบนี้อาจแรงขึ้นในห้วงเวลาหลังจากนี้ หากมีสถานการณ์อะไรมาเกื้อหนุน 

 

เทียบนโยบายปราบยาแต่ละพรรคการเมือง-สรุป"เอวัง"หรือ"วังเวง" 

 

แต่นโยบายปราบยาเสพติดของพรรคการเมืองที่นำเสนอต่อสาธารณะ ปรากฏว่าทั้ง "กูรู - ผู้รู้ - นักวิชาการ" กลับมองว่าไม่มีเนื้อหาสาระในเชิงยุทธศาสตร์ วิธีการ และกลยุทธ์ ในการแก้ปัญหาจริงๆ มีแต่วาทกรรมที่หวังให้โดนใจเท่านั้น

"เนชั่นทีวี" ได้รวบรวมตัวอย่างนโยบายจากบางพรรคที่มีการประกาศมาแล้ว เช่น 

 

พรรคเพื่อไทย 

 

เทียบนโยบายปราบยาแต่ละพรรคการเมือง-สรุป"เอวัง"หรือ"วังเวง" 

 

ต้องปราบด้วย 3ป. 

 

1.ปราบผู้ผลิตยาเสพติด เจอเมื่อไหร่จับเมื่อนั้น

 

2.เจรจากับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อทำลายแหล่งผลิต และเจรจาการค้าเสรีเพิ่มเงินในกระเป๋าให้ประชาชน

 

3. เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย

 

พรรคประชาธิปัตย์ 

 

"ปะฉะดะ" คือ เอาจริงเอาจัง 

 

-ปะ คือ ดำเนินการ 

 

-ฉะ คือ ทำทุกรูปแบบไม่กลัวเกรงอิทธิพล 

 

-ดะ คือ ไม่เลือกหน้า

 

1.ยกระดับ ป.ป.ส. ยุคใหม่ 

 

-ให้อำนาจสอบสวน สืบสวนคดี เพื่อคานอำนาจตำรวจท้องที่ 

 

-ให้มี ป.ป.ส. ดูแลทุกจังหวัด

 

2.ให้โอกาส ลดโทษ ผู้เสพต้องได้รับการบำบัด ไม่มีประวัติอาชญากรรม 

 

-ถ้าเสพซ้ำต้องเข้ากระบวนการยุติธรรม "ผู้เสพจับซ้ำต้องย้ำคุก"

 

3.ตั้งอาสาสมัครป้องกันภัยทุกหมู่บ้าน แต่ละชุมชนมี 4 คน มีเบี้ยเลี้ยงและเงินเดือนให้ 

 

4.เพิ่มโทษหนักกับกรณีเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนรู้เห็น และเอาผิดผู้บังคับบัญชาหากลูกน้องไปเกี่ยวข้อง

 

5.สร้าง "ศูนย์บำบัดยาเสพติดมีคุณภาพ" ในทุกจังหวัดทั่วไทย 

พรรคเสรีรวมไทย 

 

เทียบนโยบายปราบยาแต่ละพรรคการเมือง-สรุป"เอวัง"หรือ"วังเวง" 

 

นโยบายยาเสพติดเป็น 0

 

-ตั้งเป็นวาระแห่งชาติ และบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง 

 

-มีบทลงโทษที่รุนแรงทั้งผู้ขาย, ผู้เสพ, ผู้สนับสนุน รวมทั้งผู้รับประโยชน์ทั้งข้าราชการ และนักการเมือง

 

พรรคไทยสร้างไทย 

 

-ปราบยาเสพติดให้สิ้นซาก 

 

-นำผู้เสพมาบำบัดรักษาอย่างรวดเร็วครบวงจร

 

โดย ผศ.ดร.ฐิติวุฒิ บุญยวงศ์วิวัฒน์ จากคณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องกลุ่มชาติพันธุ์ ชนกลุ่มน้อย และสถานการณ์ในประเทศเพื่อนบ้าน ให้ความเห็นเอาไว้แบบนี้ 

 

 ผศ.ดร.ฐิติวุฒิ บุญยวงศ์วิวัฒน์

 

-นโยบายแก้ปัญหายาเสพติดของพรรคการเมือง ยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร 

 

-ปัญหายาเสพติดซับซ้อนขึ้นมาก แต่เมื่อได้เห็นนโยบายหาเสียงของพรรคการเมือง ทำให้เกิดคำถามว่า พรรคการเมืองมีความเข้าใจปัญหาลึกซึ้งเพียงใด เพราะ 

 

1.การจับกุมสกัดกั้นยาเสพติดในปัจจุบัน แม้ว่าการป้องกันตามแนวชายแดนจะเข้มข้น แต่กลับพบว่าปริมาณยาที่ผลิตจากกลุ่มผู้ผลิตไม่ได้ลดลงเลย แถมเพิ่มอีกต่างหาก เป็นการเพิ่มทั้งกำลังการผลิต และศักยภาพในการขนส่งสู่แนวชายแดนไทย 

 

ฉะนั้น การจับกุมยาเสพติดภายในประเทศ จึงไม่ส่งผลต่อการลดลงของยาเสพติด เนื่องจากขบวนการลักลอบนำเข้า ยังรักษาสมดุลของตลาดเอาไว้ได้ 

 

2.การจับกุมและยึดทรัพย์ผู้ค้ารายใหญ่ แม้จะแก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง แต่ต้องไม่ลืมหันไปมองปัญหาใหม่ คือ การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ลักลอบขนยาเสพติด เพราะคือกลไกสำคัญในการลำเลียงยาเข้าประเทศไทย 

 

3.พื้นที่ชายแดนทางภาคเหนือมีความซับซ้อนมากว่าเดิม เนื่องจากกลุ่มเด็กและเยาวชนตามชุมชนชายแดน ติดยาเสพติดมากขึ้น     

 

  • มีข้อมูลว่าเยาวชนอายุตั้งแต่ 7 ขวบ ในชุมชนแนวชายแดน เริ่มใช้ยาเสพติดแล้ว โดยเฉพาะดมกาว 
  • เยาวชนเหล่านี้สุดท้ายจะหนีเข้าพื้นที่ป่า และกลายเป็นเหยื่อขบวนการลักลอบขนยาเสพติด ชักชวนเข้าร่วมขบวนการ ทำให้ระบบการขนส่งยาเสพติดแข็งแกร่งมากขึ้น 

 

4.การแก้ปัญหาให้ถูกจุด ต้องพุ่งเป้าไปที่แหล่งผลิต และขบวนการลักลอบลำเลียง ส่วนการจับที่ปลายทาง รวมทั้งมาตรการยึดทรัพย์ที่หลายพรรคการเมืองหาเสียง เป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และไม่ได้ยั่งยืน 

 

5.ความท้าทายของนโยบายแก้ปัญหายาเสพติดของพรรคการเมือง คือ ต้องเสนอนโยบายที่มองเห็นภาพการจัดการทั้งกระบวนการ ตั้งแต่แหล่งผลิต การลักลอบนำเข้า ชุมชนตามแนวชายแดน ขบวนการขนส่ง แหล่งพักยา และการใช้ไทยเป็นฐานส่งออกไปยังต่างประเทศทั่วโลก 

 

บทสรุป คือ "ยังไม่มีพรรคไหนเสนอได้ใกล้เคียงกับสภาพจริงของปัญหา"

logoline