“บิ๊กป้อม” ปลื้ม ชาวกำแพงเพชรกว่า 1.5 หมื่น แห่ฟังปราศรัย “พลังประชารัฐ”
“พลังประชารัฐ” สุดคึกคัก ชาวกำแพงเพชรกว่า 15,000 คน ร่วมฟังการปราศรัยใหญ่ “บิ๊กป้อม” สุดปลื้ม มั่นใจได้ 4 เขต ยกทั้งจังหวัด
วันที่ 26 มีนาคม 2566 เวลา 18.00 น. ที่เวทีพื้นที่กว้าง ด้านหลังร้านเฟดเฟ่ผับ ต.นครชุม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร “พรรคพลังประชารัฐ” นำโดย “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค , “นายวิรัช รัตนเศรษฐ” รองหัวหน้าพรรค , “นายวราเทพ รัตนากร” กรรมการฝ่ายนโยบาย และฝ่ายอำนวยการพรรค และ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” อดีต ส.ส.พะเยา ในฐานะประธานภาคเหนือ จัดเวทีปราศรัยใหญ่หาเสียงภายใต้นโยบาย “ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา เราต้องช่วยกันพัฒนาทุกพื้นที่”
ซึ่งการปราศรัยในครั้งนี้ ได้มีการเปิดตัวผู้สมัครเขต 1 “นายไผ่ ลิกค์” , เขต 2 “นายเพชร ภูมิอาภรณ์รัตน์” , เขต 3 “นายอนันต์ ผลอำนวย” , เขต 4 “นายปริญญา ฤกษ์หร่าย” และระบบบัญชีรายชื่อ “นายสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์” หรือ “กำนันตู้”
โดยก่อนหน้านั้นเวลา 16.00 น. ถนนสายหน้าสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกำแพงเพชร เต็มไปด้วยรถกระบะที่บรรทุกประชาชนมาจาก 11 อำเภอ 4 เขตเลือกตั้งของจังหวัดกำแพงเพชร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อำนวยความสะดวกนานกว่า 1 ชั่วโมง หลังประชาชนเข้าพื้นที่ปราศรัยหาเสียงเวทีใหญ่ โดยเตรียมเก้าอี้กว่า 1 หมื่นตัว ปรากฎว่าไม่เพียงพอ ซึ่งจากการประเมินหน้าเวทีมีประมาณ 1.5 หมื่นคนในครั้งนี้
หลังจาก “นายวราเทพ รัตนากร” กรรมการฝ่ายนโยบาย และฝ่ายอำนวยการพรรค “นายวิรัช รัตนเศรษฐ” รองหัวหน้าพรรค ปราศรัยเรียกน้ำย่อยพร้อมกับเปิดเผยว่า จังหวัดกำแพงเพชรมี ส.ส. 4 คน และบัญชีรายชื่อ 1 คน เป็น ส.ส.เก่าของพรรค จึงมั่นใจในนโยบายพรรค และไม่หนักใจเกี่ยวกับกระแสแลนด์สไลด์ของต่างพรรคที่จะไม่ขอพูดถึง
“นายวราเทพ” เผยในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของ “พรรคพลังประชารัฐ” เป็นกรรมการฝ่ายนโยบาย และฝ่ายอำนวยการพรรค ได้รับทราบว่า หัวหน้าพรรคจะนำผู้บริหารมาปราศรัยที่จังหวัดกำแพงเพชร เป็นวันที่สองหลังปราศรัยที่จังหวัดพิจิตรไปแล้ว
โดยจะพูดในส่วนของพื้นที่ในจังหวัดกำแพงเพชร ในฐานะที่เป็น ส.ส.มาก่อน เป็นตัวแทนจังหวัดกำแพงเพชรทำหน้ารัฐมนตรีมาก่อน วันนี้ถึงแม้ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็ขอเป็นผู้สนับสนุนให้กับ “พรรคพลังประชารัฐ” ทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง รวมทั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของจังหวัดกำแพงเพชร จะปักธงชนะทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง และในภาคเหนือจังหวัดกำแพงเพชร เป็นอีกหนึ่งจังหวัดนอกเหนือจังหวัดพะเยา เพชรบูรณ์ โดยมั่นใจว่าจังหวัดกำแพงเพชรจะยกทีมทั้งจังหวัด
เหตุผลที่มั่นใจเนื่องจาก ผู้สมัคร เป็น ส.ส. มีผลงานการลงพื้นที่ทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีข้อตำนิใดๆ ทั้งสิ้น โดยไม่ดูแคลนผู้สมัครท่านอื่น แต่เราเชื่อมั่นว่า นโยบายของพรรคและการลงพื้นที่ของผู้สมัครที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด จึงมั่นใจว่าได้ยกจังหวัดทั้ง 4 เขต
ส่วนคำถามถึงกระแสแลนด์สไลด์ “พรรคเพื่อไทย” นั้น “นายวราเทพ” ตอบว่าเราจะไม่ได้ไปดูว่าพรรคไหนจะมีนโยบายอย่างไร เราจะบอกับพี่น้องประชาชน เรามีนโยบายความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างไร ส.ส.จังหวัดกำแพงเพชรทุกคนได้ร่วมกันทำงานการพัฒนาให้กับจังหวัดภาคการเกษตร การคมนาคม
ที่ผ่านมาจังหวัดกำแพงเพชรเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก นโยบายของพรรคไม่ได้แพ้นโยบายของพรรคใดเลย โดยเฉพาะหัวหน้าพรรคประสานทุกฝ่ายให้ร่วมมือกัน ตามสโลแกนของพรรค “ก้าวข้ามความขัดแย้ง”
สำหรับจังหวัดกำแพงเพชรที่มีการแบ่งบ้านเหนือบ้านใต้ตามสื่อมวลชนที่ปรากฎนั้น เป็นธรรมดาของการนำเสนอข่าว แต่ข้อเท็จจริงจังหวัดกำแพงเพชร รวมกันเป็นหนึ่ง ดังที่เห็นบนเวที เราไม่มีการแตกแยกและก้าวข้ามความขัดแย้ง รวมกันเป็นหนึ่ง ยืนยันจังหวัดกำแพงเพชร เราไม่มีบ้านเหนือบ้านใต้
ขณะที่ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” อดีต ส.ส.พะเยา ในฐานะประธานภาคเหนือ กล่าวอย่างมั่นใจถึงจังหวัดกำแพงเพชรจะเป็นฐานที่มั่นอีกจังหวัดหนึ่งที่จะได้ ส.ส.ยกทีม ด้วยการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน
โดยประกาศจะนำที่ดินเสื่อมโทรมเป็นโฉนดใหักับพี่น้องประชาชนได้ทำกินกัน การแก้ปัญหาที่ดิน เรื่องน้ำ จึงมั่นใจว่า ชาวกำแพงเพชรจะให้การสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส.ทุกเขตทุกคน และจังหวัดกำแพงเพชรเป็นฐานที่มั่นอีกแห่งหนึ่งของเรา
“ร.อ.ธรรมนัส” ได้ปราศรัยปลุกเร้าประชาชนที่หน้าเวที ได้ส่งเสียงให้การสนับสนุน “พรรคพลังประชารัฐ” และสนับสนุน “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมกับเปิดเพลงประจำของพรรค สร้างความคึกคักให้กับผู้ร่วมรับฟังการปราศรัยสลับการให้ผู้สมัครทั้ง 4 เขต และ 1 ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ได้กล่าวฝากเนื้อฝากตัวกับพี่น้องชาวกำแพงเพชร
โดยเฉพาะ “นายไผ่ ลิกค์” ได้พบปะกับประชาชนจนขึ้นเวที และปราศรัยเรียกเสียงปรบมือตลอดเวลา นอกจากนี้ยังได้พูดถึง “นายเรืองวิทย์ ลิกค์” ผู้เป็นพ่อ อดีต ส.ส.หลายสมัยว่า มีใครรู้จักและจำกันได้บ้าง ปรากฏว่ามีผู้ยกมือกันเป็นจำนวนมาก
“บิ๊กป้อม” ขึ้นเวทีปราศรัย ขอโอกาสให้ “พลังประชารัฐ” ได้รับใช้ชาวกำแพงเพชร
กระทั่งเวลา 18.00 น. “พล.อ.ประวิตร” ได้เดินทางนั่งรถตู้สีดำมาข้างเวที และลงจากรถฝ่าด่านแม่ยกที่มารอมอบดอกกุหลาบให้ ก่อนเดินไปขึ้นรถยกโฟล์คลิฟท์ ที่เตรียมไว้ พาขึ้นเวทีสูง 170 ซม. และได้ปราศรัยนำเสนอนโยบาย ดังต่อไปนี้
ความเจริญรุ่งเรืองของชาวกำแพงเพชรนั้น อยู่ที่ “พรรคพลังประชารัฐ” กับพี่น้องชาวกำแพงเพชรจะต้องร่วมมือกัน เพราะฉะนั้นขอฝาก “พรรคพลังประชารัฐ” ไว้กับพี่น้องชาวจังหวัดกำแพงเพชรทุกคนด้วย ก่อนจะหันไปถามคนข้างๆ ว่า มี ส.ส.กี่คน และหันกลับมาฝากผู้สมัครและขอให้เลือกทั้ง 4 คน
“พล.อ.ประวิตร” กล่าวว่า เพื่อพัฒนาแก้ไขปัญหาให้กับจังหวัดกำแพงเพชร เป็นนโยบายหลักของ “พรรคพลังประชารัฐ” มีทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาท ซึ่งถ้าผมได้มาเป็นรัฐบาลจะทำทันที
เราจะพิจารณาจัดตั้งคณะกรรมการลดราคาน้ำมัน ลดราคาแก๊ส ลดราคาค่าไฟฟ้า ให้กับที่น้องประชาชนชาวจังหวัดกำแพงเพชรทุกคน “พรรคพลังประชารัฐ” ดูแลคนทุกช่วงวัย ดูแลเบี้ยผู้สูงอายุ คือ 60 70 80 จะได้รับ 3,000 - 4,000 - 5,000 ดูแลแม่และเด็กตลอดจนช่วงวัย
นโยบายจะทำอย่างไรให้ประชาชนมีน้ำใช้ จะต้องแก้ปัญหาความยากจนให้กับพี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้นเรื่องของความยากจน เราจะต้องก้าวข้ามความขัดแย้งทั้งหมดไปด้วย การแก้ปัญหายาเสพติด เราต้องป้องกันปราบปรามและฟื้นฟูประชาชนที่ติดยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ ปัญหาออนไลน์ การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ เป็นนโยบาลของ “พรรคพลังประชารัฐ” จะทำให้ประชาชนหมดสิ้นการเป็นหนี้นอกระบบ หาทางให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ดีขึ้น
การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นขอให้พี่น้องประชาชนให้โอกาส “พรรคพลังประชารัฐ” พวกเราจะนำความรักความสามัคคีมาสู่คนไทยทั้งปรระเทศ คนไทยต้องรักกัน ไม่ทะเลาะกันต้องมีความสามัคคีซึ่งกันและกัน ส่วนเรื่องการเมืองนั้นเป็นเรื่องของสภาซึ่งมีความเห็นต่างแต่ต้องไม่แตกแยก
"พล.อ.ประวิตร" กล่าวต่อว่า ผมพูดไม่เก่งแต่ทำงานประสานประโยชน์ให้กับทุกฝ่ายได้ นำพาคนเก่งมาร่วมมือกันก้าวข้ามความขัดแย้ง เพื่อสร้างความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรื่องให้กับประเทศศชาติและประชาชน ท้ายสุดได้ฝากให้ช่วยเลือกพรรคพลังประชานรัฐด้วยนะครับ ทุกคนทุกเขตมารับใช้พี่น้องประชาชน ขอบคุณครับ
"บิ๊กป้อม" มั่นใจกระแสดี แม้ชื่อไม่ติดอันดับโพล
หลังจบการปราศรัย "พล.อ.ประวิตร" ได้ลงมาให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ ถึงผลสำรวจของนิด้าโพล ในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ไม่ปรากฏชื่อ "พล.อ.ประวิตร" อยู่ในลิสต์ 10 อันดับว่า เขาเอาชื่อออก ให้ไปถามคนจัดโพลเอง ก่อนยืนยันไม่สูญเสียความมั่นใจ และไม่ต้องปรับยุทธศาสตร์อะไร เพราะกระแสนิยมของตนนั้นดีขึ้นตลอด
ส่วนผลโพล เชื่อได้หรือไม่นั้น "พลเอกประวิตร" กล่าวว่า ก็ว่ากันไป เรื่องของโพลก็คือเรื่องของโพล และมั่นใจในกระแสของตัวเอง
ส่วนจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 หรือไม่นั้น ต้องให้ประชาชนเลือก หากประชาชนเลือกก็พร้อม ก่อนที่จะย้อนถามสื่อมวลชนว่า คุณเลือกหรือไม่
“บิ๊กป้อม” ยัน "ไม่รู้" รายชื่อใน "บัญชีปาร์ตี้ลิสต์" หลุดได้อย่างไร
สำหรับกระแสข่าวที่ว่า รายชื่อ 100 อันดับแรกปาร์ตี้ลิสต์ของ “พรรคพลังประชารัฐ” หลุดออกมานั้น "พล.อ.ประวิตร" กล่าวว่าไม่รู้ ส่วนจะมีการปรับอีกหรือไม่ “พล.อ.ประวิตร” กล่าวว่า จะปรับได้อย่างไร เขาทำไพรมารีโหวตกันแล้ว
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับ “นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์” ที่เพิ่งสละสิทธิ์ในปาร์ตี้ลิสต์หรือยัง “พล.อ.ประวิตร” กล่าวว่า ให้คุยเรื่องอะไร เขาสมัครใจเอง เขาไม่น้อยใจหรอก เมื่อถามว่า "อาจารย์แหม่ม" งอนหรือไม่ “พล.อ.ประวิตร” กล่าวว่า ไม่งอน ไม่งอน
เมื่อถามว่าจากรายชื่อที่ "พลเอกประวิตร" เป็นอันดับ 1 ในปาร์ตี้ลิสต์นั้น พร้อมที่จะทำงานในสภาแล้วใช่หรือไม่ “พล.อ.ประวิตร” ตอบว่า “ไม่รู้”