1 มีนาคม 2566 น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวประเด็นการปฏิบัติหน้าที่ของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในการพิจารณาพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พ.ศ. 2566 ที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี
ซึ่งได้มีอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กถึงการประชุมเพื่อพิจารณาพระราชกำหนดดังกล่าว โดยได้ระบุข้อความว่า นายชวน หลีกภัย ใช้อำนาจประธานสภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบการเข้าชื่อของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคร่วมรัฐบาล อย่างเร่งด่วนทันที แล้วได้สั่งปิดการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนั้น
โดยขอชี้แจงว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 173 วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติว่า ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภาจะได้อนุมัติพระราชกำหนดใด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของแต่ละสภามีสิทธิเข้าชื่อเสนอความเห็นต่อประธานแห่งสภา
ที่ตนเป็นสมาชิกว่าพระราชกำหนดนั้นไม่เป็นไป ตามมาตรา 172 วรรคหนึ่ง และให้ประธานแห่งสภานั้นส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญภายในสามวันนับแต่วันที่ได้รับความเห็นเพื่อวินิจฉัย และให้รอการพิจารณาพระราชกำหนดนั้นไว้ก่อนจนกว่าจะได้รับแจ้งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ดังนั้น เมื่อประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ตรวจสอบลายมือชื่อครบถ้วนถูกต้องแล้ว ประธานสภาผู้แทนราษฎรจึงสั่งปิดการประชุม เพื่อรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อนส่วนกรณีที่ ส.ส.เรียกร้องให้มีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญนั้น เป็นอำนาจของรัฐบาล
ทั้งนี้ การทำหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นที่ยอมรับของ ส.ส.ว่า ทำหน้าที่อย่างเป็นกลางและเที่ยงธรรมภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560