22 กุมภาพันธ์ 2566 พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยความคืบหน้า การสอบสวนกรณี "เรือหลวงสุโขทัย" อับปางในรอบ 2 เดือนว่า ขณะนี้กองทัพเรือ ทำการสอบสวนอยู่ โดยคณะกรรมการที่รับผิดชอบ สอบปากคำพยานต่าง ๆ ไปแล้ว 289 ปาก โดยนำข้อมูลที่ได้มา สรุปเป็นเหตุการณ์ เพื่อชี้แจงประชาชนต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
พลเรือเอก ปกครอง ย้ำว่า กองทัพเรือไม่มีความพยายามดึงเรื่องให้ช้า โดยพยายามทำให้รวดเร็ว อยากทำให้ทุกอย่างมีความรอบคอบ ครอบคลุมเรื่องราวทั้งหมด ขอให้อดใจรอ โดยได้ข้อมูลไปกว่า 90% แล้ว ประกอบด้วยพยานบุคคลและเอกสาร ในการรายงานต่าง ๆ รวมถึงพยานวัตถุ "เรือหลวงสุโขทัย" ที่ยังได้ไม่ครบ ต้องรอขั้นตอนในการกู้เรือ
เนื่องจากเจ้าหน้าที่ประดาน้ำ ไม่สามารถถ่ายภาพใต้ท้องเรือได้ เพราะเรืออยู่ในสภาพตั้งตรง ภาพประกอบจึงยังไม่สมบูรณ์ แต่มั่นใจว่าเรือยังจมไม่นาน ไม่น่าจะมีผลให้สภาพเรือเปลี่ยนแปลงไปมากนัก โดยต้องรอกรมอู่ทหารเรือตรวจสอบสภาพอีกครั้ง
พลเรือเอก ปกครอง กล่าวว่า สำหรับการเตรียมการกู้ "เรือสุโขทัย" อยู่ระหว่างดำเนินการ จะได้บทสรุปภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยขณะนี้ติดปัญหาคลื่นลมในทะเล บริเวณปากอ่าวไทย ยังมีคลื่นลมแรงอยู่ คาดว่าภายในเดือนเมษายนนี้เป็นอย่างช้า น่าจะดำเนินการกู้เรือได้
สำหรับงบประมาณในการกู้เรือจะใช้เงินจากส่วนใดนั้น โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า กองทัพเรือกำลังพยายามลดค่าใช้จ่ายการกู้เรือให้น้อยที่สุด เนื่องจากปัจจุบันมีถึง 12 บริษัท ที่เสนอตัวและค่าใช้จ่ายในการกู้เรือมายังกองทัพเรือ ซึ่งกองทัพเรือจะพิจารณาเลือกค่าใช้จ่ายให้ต่ำที่สุด โดยจะดำเนินการเรื่องเอกสาร ของบประมาณไปยังรัฐบาล ก่อนที่จะมีการยุบสภา
ส่วนการเยียวยาผู้เสียชีวิต 25 นาย ทางกองทัพเรือได้เยียวยาให้ครบแล้ว โดยมีเงินจากกองทุนน้ำใจไทย และเงินประกันชีวิต ที่ทำให้กับข้าราชการกองทัพเรือ รวมแล้วได้รายละกว่า 1 ล้านบาท พร้อมทางให้โอกาสครอบครัวผู้เสียชีวิต ได้เข้ามารับราชการกองทัพเรือด้วย
ซึ่งภาพรวมครอบครัวพึงพอใจ ขณะที่ผู้สูญหายอีก 5 นาย ทางกองทัพเรือได้เชิญญาติมาพูดคุย โดยขอให้เป็นผู้สูญหายก่อน เพื่อจะดำเนินการในเรื่องของเอกสาร และเงินในการเยียวยา
เมื่อถามว่า แนวโน้มผลการสอบสวน น่าจะเกิดจากภัยธรรมชาติ หรือผลการตัดสินใจ ของผู้บังคับบัญชา โฆษกกองทัพเรือ ย้ำว่า รอผลการสอบสวนดีกว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะยังไม่เห็นผลสอบสวน แต่ยืนยันว่าในฐานะที่เป็นคณะกรรมการสอบสวน จะไม่มีการช่วยเหลือเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเรือหรือผู้บังคับบัญชา
โดยเมื่อข้อเท็จจริงออกมาแล้ว ก็จะทำให้ทราบว่า เราไม่ได้ช่วยเหลืออะไร เพราะไม่สามารถโกหกได้ เนื่องจากพยานที่เป็นตัวบุคคล มี 289 คน หากผลสอบไม่ตรงกับข้อเท็จจริงมันไม่คุ้มค่า กองทัพเรือไม่ทำอย่างนี้แน่นอน