"การเลือกตั้งอาจเกิดในช่วงเดือนพฤษภาคม รักษาการ ก็ไม่รู้ว่าจะได้รัฐบาลอีกเมื่อไหร่ งั้นก็ไม่ต้องทำอะไรเลยนั่งเฉยๆ เอาไหมล่ะก็ทำเท่าที่ทำได้"
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 8 ก.พ.2566
8 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 1/2566 โดยมี"นายพรเพชร วชิตชลชัย" ประธานวุฒิสภา "นายชวน หลีกภัย" ประธานรัฐสภา "นายวิษณุ เครืองาม" รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม"พล.อ.ประยุทธ์" ได้มีการหารือนอกรอบ ที่ห้องรับรอง ร่วมกับนายชวน นายพรเพชรและนายวิษณุ กว่า 10 นาที โดยมีรายงานว่าพล.อ.ประยุทธ์ได้มีการพูดคุยถึงกรณีการประชุมสภาล่มซ้ำซาก รวมทั้งร่างกฏหมายที่ยังคงค้างอยู่ในสภา
จากนั้น เวลา 15.15 น. "พล.อ.ประยุทธ์" ให้สัมภาษณ์ ถึงการพูดคุยกับนายชวน ว่า ไม่มีอะไรเป็นพิเศษเป็นการพูดคุยกันถึงเรื่องของยุทธศาสตร์ชาติ จะให้คุยเรื่องอะไรอีก ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องสภาล่มหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ท่านก็บอกผมซึ่งผมก็รับทราบและขอบคุณ ซึ่งผมก็พยายามเต็มที่ให้แล้ว"
อย่างไรก็ตาม ในการตอบคำถามสื่อมวลชนครั้งนี้ มีช่วงหนึ่ง "พล.อ.ประยุทธ์" ได้หลุดคำพูดออกมาถึงช่วงเวลาที่จะมี"การเลือกตั้ง 66"
"การเลือกตั้งอาจเกิดในช่วงเดือนพฤษภาคม รักษาการ ก็ไม่รู้ว่าจะได้รัฐบาลอีกเมื่อไหร่งั้นก็ไม่ต้องทำอะไรเลยนั่งเฉยๆ เอาไหมล่ะก็ทำเท่าที่ทำได้"
"พล.อ.ประยุทธ์" ตอบคำถามสื่อมวลชนช่วงหนึ่ง ที่มีการสอบถามกรณี สมาคมอบต.เข้าพบ "นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" เลขาธิการนายกฯ ถึงข้อเรียกร้องปรับ"เงินเดือนอบต."
ทั้งนี้ ในการสัมภาษณ์ของ "พล.อ.ประยุทธ์" เริ่มต้นจากการแถลงผลการประชุม ว่า ปยป.ในระยะที่ 2 โดยในระยะแรกปี 60 ถึงปี 65 ซึ่งมีความก้าวหน้าไปตามลำดับในหลายมิติ แต่ก็ต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบ้างในรายละเอียด โดยเฉพาะแผนในระยะที่ 3 ซึ่งจะต้องนำไปสู่การปฏิบัติ เพื่อให้ผ่านตามประเมินที่ตั้งไว้
จากนั้นมีการสอบถามนายกฯ ประเด็น "นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้รายงานเรื่องการปรับเพิ่มค่าตอบแทบ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหรืออบต.แล้วหรือไม่
"พล.อ.ประยุทธ์" ระบุว่า "ยัง เป็นเรื่องของ กระทรวงมหาดไทย พิจารณาอยู่ งานบางงานเป็นเรื่องของหน่วยงานเขาที่นำเสนอขึ้นมา ใช้งบประมาณของเขาเอง ในทำนองนี้ เพราะงบกลางต้องใช้เป็นกรณีฉุกพิเศษ กรณีเร่งด่วนหรือจำเป็น ไม่ใช่จะเพิ่มตรงไหนก็ได้ ต้องไปดูว่างบประมาณมีเพียงพบแล้วหรือไม่ ใช้งบสะสมได้หรือไม่ "
พร้อมกับยังระบุอีกว่ายุทธศาสตร์ชาติมีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์ ขอให้ย้อนกลับไปดูว่า 5 ปีที่ผ่านมาเราทำอะไรไปบ้าง ให้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ ซึ่งต้องทำอย่างสมดุลกัน มิเช่นนั้นงบประมาณจะมีปัญหา
เมื่อถามว่า หากรัฐบาลหน้าเข้ามา สามารถแก้ไขแผนยุทธศาสตร์ชาติได้หรือไม่ ยืนยันว่าแก้ไขได้ตลอด แต่ยกเลิกไม่ได้เนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดไว้แล้ว ประเมินแล้วไม่ดีก็สามารถปรับแก้ได้ ซึ่งทุกประเทศเขาก็มีแบบนี้
เมื่อถามย้ำ เกรงว่าจะมีข้อครหาหรือไม่เพราะเป็นการใช้งบประมาณช่วงก่อนเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรีย้อนกลับว่า "ถ้าอย่างงั้นก็ไม่ต้องทำอะไรเลย ผมคิด ว่าถ้าทำได้แล้วผ่านหลักเกณฑ์ผ่านกติกา ถูกต้องก็สามารถทำได้ ไม่เช่นนั้นก็กลายเป็นว่าไม่ต้องทำอะไรเลย"
พร้อมกันนี้ ยังระบุว่า "การเลือกตั้งอาจเกิดในช่วงเดือนพฤษภาคม รักษาการ ก็ไม่รู้ว่าจะได้รัฐบาลอีกเมื่อไหร่งั้นก็ไม่ต้องทำอะไรเลยนั่งเฉยๆ เอาไหมล่ะก็ทำเท่าที่ทำได้"
ส่วนข้อสั่งการที่มอบหมายให้ ปยป. รวบรวมข้อมูล เพื่อชี้แจงต่อการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 พลเอกประยุทธ์กล่าวว่า " ก็ต้องเตรียมไว้แหละพูดมาก็ตอบไป การต่อประกันมีอยู่แล้ว
ทั้งนี้ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี ยังปฏิเสธตอบคำถาม ว่าใกล้หมดรัฐบาลแล้ว นายกรัฐมนตรีมีภูมิต้านทานทางการเมืองเข้มแข็งพอใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีได้แต่เพียงยิ้มและหันมาเบ่งกล้าม ชูกำปั้น ให้กับสื่อมวลชนก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า