8 กุมภาพันธ์ 2566 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวถึงปัญหาการประชุมร่วมกันของรัฐสภา และล่มติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ว่า เป็นเพราะอคติของบางฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมาย หรือญัตติ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะเป็นญัตติสุดท้าย ที่รัฐสภาจะได้พิจารณา และการที่ ส.ส. ส.ว. ลาประชุมนับ 100 คน ถือว่าทำให้ภาพลักษณ์ของสภาฯเสียหาย สะท้อนการทำงานของสมาชิก ซึ่งหากการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติปราศจากอคติ จะสามารถเดินหน้าทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าสถานการณ์การเมืองจะเป็นเช่นไร
แต่หน้าที่ความเป็นสมาชิกรัฐสภาถือว่าสำคัญที่สุด ทั้งนี้เวลาเหลือก่อนหมดวาระ ก็สามารถขอเปิดประชุมเพื่อพิจารณา เรื่องที่ค้างอยู่ได้ จึงขอให้สมาชิกทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ และจากการหารือกับ วุฒิสภาและ ส.ส.รัฐบาล เห็นด้วยให้นำร่าง พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติมาพิจารณา ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ส่วนฝ่ายค้านแม้ไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายฉบับนี้ แต่ก็จะอยู่เป็นองค์ประชุมเพื่อให้พิจารณาได้
ทั้งนี้เชื่อว่านายกรัฐมนตรี จะยุบสภาฯก่อนครบวาระ คาดการณ์ว่า อาจเป็นช่วงวันที่ 15 มีนาคม และจะจัดให้มีการเลือกตั้ง 7 พ.ค. แต่จะพิจารณากฎหมายที่ค้างอยู่ให้เสร็จก่อน โดยเฉพาะกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับงบการเงิน ซึ่งหากฝ่ายค้านรวมเสียงได้มากกว่าฝ่ายรัฐบาล ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายลักษณะนี้ นายกรัฐมนตรีจะต้องรับผิดชอบและเรื่องดังกล่าวเคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต
อย่างไรก็ตาม ขอฝากไปยัง คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ให้ควบคุมการเลือกต้้ง ให้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้มีการใช้อำนาจ ผลประโยชน์ ซื้อตัว ส.ส. ที่อาจนำไปสู่การทุจริตซื้อสิทธิ์ขายเสียงได้ ดังนั้นกกต. ต้องมีมาตรการเชิงรุกที่จะแก้ไขปัญหา และควบคุมการเลือกตั้งให้สุจริตให้ได้ ควรสร้างเครือข่ายลงไปถึงพื้นที่โดยเฉพาะกรรมการประจำหน่วย ที่จะต้องมีความหลากหลาย ข้าราชการทุกกระทรวงจะต้องเข้ามามีส่วนร่วม ประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตา สังเกตการณ์เลือกตั้งป้องกันการทุจริต เพราะหากเลือกตั้งสุจริตจะได้ผู้แทนที่มีคุณภาพ และจะมีรัฐบาลที่ชอบธรรมในการบริหารประเทศต่อไป