svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“เมืองชาละวัน”เลือกตั้งดุ 4 พรรคฟาดเดือด

30 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“พิจิตร”ดินแดนชาละวัน แม้เป็นเพียงจังหวัดทางผ่านขึ้นสู่ภาคเหนือ แต่ในทางการเมืองแล้ว ถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญเชิงยุทธศาสตร์ ที่หลายพรรคต่างให้ความสนใจหวังครอบครอง เพื่อเพิ่มแต้มต่อในสภาหินอ่อน

โดยช่วงการเลือกตั้งปี 62 พิจิตร ถูกกวาดไปทั้ง 3 เขต จากพรรคการเมืองน้องใหม่เวลานั้น อย่าง พลังประชารัฐ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแม่เหล็กดึงดูด ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เลือกความสงบจบที่ลุงตู่” จนสามารถกวาด ส.ส.เข้ากระบุง มาได้เป็นกอบเป็นกำ 

และหากย้อนกลับไปช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมา พิจิตร ถูกครองจาก 3 ตระกูลใหญ่ ที่คนในพื้นที่ต่างคุ้นหู คือ “ภัทรประสิทธิ์” “ขจรประศาสน์” และ “แก้วทอง”  โดยมี 2 บ้าน “ภัทรประสิทธิ์” และ “ขจรประศาสน์” ซึ่งล้วนแล้วแต่เคยสังกัดพรรคเก่าแก่ เช่น ประชาธิปัตย์ ก่อนจะแตกกระสานซ่านเซ็นไปคนละทิศคนละทาง

พื้นที่ “พิจิตร” ในการเลือกตั้ง 66 จึงกลายเป็นสนามที่ต้องจับตามองอย่างยิ่ง เพราะเป็นการเฉือดของคนเคยร่วมค่ายกันมา

เมื่อส่องดูรายพื้นที่เริ่มด้วยเขต 1 เจ้าของเก้าอี้ คือ พรชัย อินทร์สุข พรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งก่อนหน้าถูกพลังประชารัฐมีมติขับออก ไปพร้อมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา จะลงรักษาพื้นที่ตามเดิม หลังชัดเจนว่า “ผู้กองธรรมนัส” เตรียมกลับเข้าอ้อมอก “ลุงป้อม” อีกครั้ง สะท้อนชัดจากผู้กองคนดัง ได้ยกโขยงไปต้อนรับ พล.อ.ประวิตร ระหว่างลงพื้นที่ลำปาง และ พะเยา ช่วงต้นเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา

พรชัย อินทร์สุข

แต่ พปชร. ใช่ว่าเส้นทางจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะมีเสี้ยนหนาม อย่าง ภูมิใจไทย โดยช่วงกลางปี 65 “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล พร้อม “เสี่ยโอ๋” ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ยกขบวนไปเปิดตัวผู้สมัครเมืองชาละวัน ซึ่งมี “เสี่ยอ๊อด” ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยคลัง และส.ส.พิจิตร 4 สมัย มาร่วมทัพ โดยส่งหลานชาย ภัทรพงษ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตกำนันตำบลหัวดง อีกทั้ง ยังมีสายสัมพันธ์กับครูใหญ่ค่าย ภท. ในฐานะหลานเขย “ลุงเนวิน ชิดชอบ” มาสวมเสื้อค่ายสีน้ำเงิน 

ส่วนเพื่อไทย ส่งน้องชาย สุณีย์ เหลืองวิจิตร อดีตเลขาธิการเพื่อไทย คือ ปุณยวัจน์ เหลืองวิจิตร อดีตรองนายก อบจ. เข้าต่อกร ขณะที่รวมไทยสร้างชาติ ไม่ชัดว่าจะเคาะใครลงชิงชัยเขตนี้ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ที่คาดกันว่าเป็น “นราพัฒน์ แก้วทอง” รองหัวหน้าพรรค ลูกชาย “ไพฑูรย์ แก้วทอง” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงจับกัง สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ในฐานะเจ้าของพื้นที่เดิม ลงสู้ศึกด้วยตัวเอง แต่ท้ายสุดมอบหมาย พล.ท.ฉลวย แย้มโพธิ์ใช้ อดีตนายทหารจากค่ายจีรประวัติ รับภารกิจเข้ารบ 

นราพัฒน์ แก้วทอง

ถัดมาเขต 2 เจ้าของแชมป์ คือ “โกทรัพทย์” ภูดิท อินทร์สุวรรณ์ จากพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งจะส่งรักษาพื้นที่เดิมเอาไว้ให้ได้ โดยมีผู้ท้าชิง คือ “วินัย ภัทรประสิทธิ์” น้องชาย “เสี่ยอ๊อด” แห่งค่ายภูมิใจไทย ในฐานะบ้านใหญ่เมืองพิจิตร โดยเมื่อช่วงปี 62 “วินัย” เคยร่วมงานกับพรรคแตกแบงก์พัน อย่าง ไทยรักษาชาติ แต่ก็ไปไม่ถึงฝั่ง เพราะถูกยุบ เลยทำให้อดชิมลงผู้แทน งานนี้จึงมาแก้มือทวงพื้นที่ ส่วน รทสช. ส่ง “มาดามนิด” ปุณณรีย์ ศรีบุศกร ภรรยา “ส.ส.ไก่” สุรชาติ ศรีบุศกร เขต 3 มากรุยทาง

วินัย ภัทรประสิทธิ์

ขณะที่ ประชาธิปัตย์ ส่ง “วรวุฒิ แก้วทอง” อดีต สจ. น้องชาย “ไพฑูรย์” เข้าประกวด กับภารกิจหนักด้วยการพาตระกูลเข้าวินเลือกตั้ง 66 ส่วนเพื่อไทยส่ง “ณริยา บุญเสรฐ” ภรรยาสุดเลิฟ “นาวิน บุญเสรฐ” อดีต ส.ส. พิจิตร ซึ่งเป็นลูกชายของ พ.ต.ท.อดุลย์ บุญเสรฐ อดีต ส.ส.หลายสมัย มาคว้าชัย โดยตระกูล “บุญเสรฐ” ถือเป็นอึกหนึ่งคู่ปรับการเมืองตลอดกาล ระหว่าง พ.ต.ท.อุดลย์ กับ “เสธ.หนั่น” พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ครั้งทั้งคู่ยังมีชีวิตอยู่ จึงเป็นอีกพื้นที่น่าจับตากับความดุเดือดในการแข่งขัน  

ปิดท้ายเขต 3 เจ้าของเก้าอี้ คือ “สุรชาติ” จากพลังประชารัฐ ซึ่งล่าสุดโบกมือลาต้นสังกัดเก่า เข้ารวมไทยสร้างชาติ เนื่องจากเป็นเด็กในซุ้ม “เสธ.หิ” หิมาลัย ผิวพรรณ เพื่อไปสนับสนุน “ลุงตู่” ในการเลือกตั้ง 66  โดย รทสช. จะส่งลงป้องกันแชมป์อีกสมัย ขณะที่ภูมิใจไทย ส่งลูกชายหัวแก้วหัวแหวน “เสธ.หนั่น” คือ “ลูกยอด” ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ซึ่งมีดีกรีเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ และอดีตรัฐมนตรีช่วยแกษตรฯ สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ลงดวล

ส่วนพรรคเพื่อไทย ส่ง “สจ.น้ำ” วิชัย ด่านรุ่งโรจน์ อดีตเลขานุการ มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งการเลือกตั้งปี 62 สจ.น้ำ ลงในนามภูมิใจไทย ซึ่งครั้งนี้ขอประมือแก้ตัว ภายใต้สังกัดใหม่นาม พท. ขณะเดียวกัน ประชาธิปัตย์ เตรียมส่ง ผศ.ดร.มานพ เกศเมฆ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบางมูลนากภูมิวิทยาคม หนึ่งในทีมงานบ้าน “แก้วทอง” ยึดพื้นที่นี้ สำหรับ พปชร. ยังไม่แววจะเอาใครมาแทน    

เมื่อมองรูปเกมทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง แสกนทุกตารางนิ้ว เรียกได้ว่าดุเด็ดเผ็ดมัน เพราะแต่ละพรรคต่างก็ไม่มียอมกัน ขนทุกสรรพกำลัง งัดทุกกลยุทธ์ หวังพิชิตศึกเลือกตั้ง 66 และยิ่งโดยเฉพาะ “พิจิตร” ซึ่งคงจะได้เห็นจระเข้ฟาดหาง เมื่อปี่กลองการเมืองเข้าจังหวะโหมบรรเลง

 

logoline