21 มกราคม 2566 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวถึงนโยบาย การลดภาษี บุคคลเงินเดือน 40,000 บาทแรกไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งในวันนี้ มีประชาชนเสียภาษีรายได้ ซึ่งปัจจุบันส่วนบุคคลอยู่ประมาณ 4 ล้านกว่าราย เนื่องจากปัจจุบันมีค่าครองชีพสูง จากเดิมต่ำกว่า 26,000 บาท ไม่ต้องเสียภาษี แต่สวนทางกับค่าครองชีพในปัจจุบัน แต่อัตราภาษีไม่เคยลดลง
นอกจากนี้รายได้ของ ในปัจจุบันเริ่มฟื้นตัวการประเมินการรายได้ ในการจัดทำงบปี 2567 จะเพิ่มขึ้นกว่าเกือบ 3 แสนล้านบาท โดยเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มสูงขึ้นจากการท่องเที่ยว จึงถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมในการเจ็บมาจนมาช่วยลดภาระให้กับประชาชน พร้อมกับมองว่า เงินที่ถูกปรับลดอัตราภาษีก็จะกลับมา หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกลับมาเป็นรายได้ของรัฐ
ทุกนโยบายเราคิดมาในแง่ของความเป็นไปได้และความเหมาะสม และผลกระทบรายได้ของรัฐ รวมถึงเศรษฐกิจโดย และในแง่ของความเป็นธรรมทางด้านเศรษฐกิจสังคม
ทั้งนี้ นายกรณ์ ยังกล่าวอีกว่า ประชาชนกว่า 2 ล้านคนมีรายได้ต่ำกว่า 40,000 บาท ถือเป็นสัดส่วนไม่ถึง 5% ของรายได้รัฐ จึงจำเป็นต้องยื่นมือเข้าไปช่วย และบอกว่า ไม่มีจังหวะไหน ดันเท่าตรงนี้และการยื่นมือไปช่วยเหลืออยู่แล้ว ซึ่งถือได้ว่า ผู้ที่มีรายได้ต่ำมีสัดส่วนการลดภาษีเงินสูงผู้ที่มีรายได้สูง
ด้านนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า การออกนโยบายของชาติพัฒนากล้าทั้งการยกเลิกแบล็คลิสต์ ลิสบูโร และลดอัตราภาษี ถือว่า เป็นการติดปีกให้กับคนธรรมดา เป็นการเปิดโอกาสในการทำเงินช่องทาง โดยในวันอังคารที่ 24 มกราคมนี้จะมีการแสดงนโยบายใหญ่ของพรรคชาติพัฒนากล้า นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค จะมีการแถลงนโยบายถึงวิธีการสร้างรายได้เพิ่มรายได้ใหม่ ห้องพรรคชาติพัฒนากล้า ที่จะทำให้มีรายได้ 5 ล้านล้านบาท ภายในระยะเวลา 5 ปี
ส่วนจะเป็นเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวย้ำว่า อยากให้ย้อน ย้อนกลับไปดูกันแล้วตั้งปี 2562 ว่ามีการพูดถึงเรื่องนี้หรือไม่โดยใคร ตนจะบอกว่า สัญญากันมาแล้วตั้งแต่ปี 62 เวลาเลื่อนมาแล้วกว่า 4 ปีควรทำเลย เนื่องจากไม่แฟร์ ส่วนจะผลักดันได้กี่เรื่องขึ้นอยู่กับอำนาจในการต่อรองจำนวน ส.ส. ในสภา
จึงหวังว่า ประชาชน รับรู้นโยบาย ทำให้ชีวิตของตัวเองดีขึ้นได้จริง จึงขอกำลังสนับสนุนให้มีอำนาจในการต่อรองเพื่อผลักดันนโยบายดีๆเหล่านี้ ให้ได้มากที่สุดจากการเลือกตั้ง