มัดรวมให้แล้ว รวม 20 “หล่อ ตำนาน เอเชีย”
จะมีดาราสักกี่คนในเอเชียที่เปรียบเสมือนสมบัติหายากบนโลกใบนี้ 20 หล่อตำนานเอเชีย ได้รวบรวมนักแสดงชาวเอเชียที่เรียกได้ว่า “ยิ่งแก่ยิ่งหล่อ” มาให้รับชมกัน
Highlights
- กระแสความนิยมดาราเอเชียเริ่มมีบทบาทในเวทีโลกมากขึ้น นอกจากฝีมือการแสดงที่มากล้น ภาพลักษณ์สุดเท่และหล่อเหลาที่เรียกเสียงกรี๊ดให้คนที่ได้รับชมอย่างมากมาย
- ในเอเชียเองก็มีนักแสดงที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านล่วงเลยไปกี่ยุคสมัยก็ทำอะไรพวกเขาเหล่านี้ไม่ได้ แถมยังหล่อวันหล่อคืนมากขึ้นไปอีก
--------------------
จากกระแสภาพยนตร์เรื่อง Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings และ Squid Game ที่ทำให้ความนิยมในดาราเอเชียเริ่มเป็นที่สนใจในเวทีโลก ซึ่งในเอเชียเองก็เรียกได้ว่ามีพระเอกหลายคนที่แม้เวลาจะผ่านล่วงเลยไปกี่สิบปีก็ไม่ได้มีผลกับความหล่อเหลาของเขาเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกันพระเอกในตำนานเหล่านี้ยังเปรียบเสมือนสมบัติหายากของโลกที่เรียกได้ว่า “ยิ่งแก่ยิ่งหล่อ” และดีกรีความฮอตแทบไม่เคยแผ่วลงเลย
พระเอกตลอดกาลที่แม้อายุอานามจะล่วงเลยไปพอสมควรแล้วแต่ดีกรีความร้อนแรงก็ไม่ได้ลดลงตามระยะเวลาเลยกับ “หลิวเต๋อหัว” โดยเรื่องที่ครองใจสาวน้อยสาวใหญ่มานานข้ามทศวรรษคงหนีไม่พ้นเรื่อง “ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ” ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในยุคนั้น และสร้างชื่อเสียงให้หลิวเต๋อหัวครองใจแฟนหนังทั่วโลกมาจนถึงทุกวันนี้ โดยเจ้าตัวได้เผยเคล็ดลับชะลอวัยไว้ว่า เขาจะเลือกทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเท่านั้น และคุมปริมาณให้พอเหมาะไม่มากหรือน้อยเกินไปนั่นเอง
โจวเหวินฟะ ถือเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ได้รับความนิยมสูงสุดไม่ใช่แค่ในเอเชีย แต่ยังดังกระฉ่อนไปแล้วทั่วโลก แม้จะมีบทบาทในภาพยนตร์อยู่หลายเรื่อง แต่โจวเหวินฟะกลับแจ้งเกิดจากภาพยนตร์ “เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ (The Bund)” ในปี 1980 และค่อยๆไต่เต้ามาเรื่อยๆก่อนจะดังถึงขีดสุดกับภาพยนตร์เรื่อง A Better Tomorrow
ตำนานที่ยังมีลมหายใจจากเกาะฮ่องกง “โทนี่ เหลียง เฉาเหว่ย” ด้วยการรับบท โจวโม่หวัน ในภาพยนตร์ In The Mood For Love โดยหว่องกาไว ทำให้ภาพลักษณ์ของเหลียง เฉาเหว่ย เป็นที่น่าจดจำมากขึ้นและโลดแล่นในวงการภาพยนตร์หนังฮ่องกงมานานนับสิบๆปี และในปี 2021 นี้ เหลียง เฉาเหว่ย เพิ่งมีโอกาสได้ก้าวเข้าสู่วงการฮอลลีวูดเป็นครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่อง Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings และสร้างความนิยมไปได้ทั่วโลก
แดเนียล วู ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงครั้งแรกกับการเป็นนายแบบให้กับเสื้อผ้าแบรนด์หนึ่งในปี 1997 ก่อนจะต่อยอดเข้าสู่วงการแสดงในปีถัดมา โดยผลงานที่ทำให้ชื่อของแดเนียล วู ดังกระฉ่อนคือภาพยนตร์เรื่อง “วิ่งสู้ฟัด 5 เหิรสู้ฟัด (Police Story 2005)” ที่ได้ประกบคู่ซุปเปอร์สตาร์รุ่นพี่อย่างเฉินหลง ด้วยบทที่ส่งและหน้าตาที่โดดเด่น ทำให้แดเนียล วู เริ่มขยายฐานแฟนคลับออกไปได้เรื่อยๆ
กู่ เทียนเล่อ (Louis Koo)
กู่ เทียนเล่อ เป็นที่จดจำในบทบาทหนุ่มมาดแมนหน้าเข้มแต่ยังไม่ทิ้งเสียงหัวเราะไปเลยทีเดียว เทียนเล่อ มีผลงานการแสดงที่โดดเด่นอยู่หลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นจากบทบาท เอี้ยก้วย มังกรหยก ตอน กำเนิดเอี้ยก้วย และ เซียงเส้าหลง จากเจาะเวลาหาจิ๋นซี นอกจากนี้เขายังมีโอกาสได้ประกบคู่กับ “เฉินหลง” ซุปเปอร์สตาร์รุ่นใหญ่อยู่บ่อยครั้ง และเรื่องที่เราคุ้นเคยกันดีคงหนีไม่พ้น “วิ่งกระเตงฟัด” ภาพยนตร์ที่สร้างรอยยิ้มและเรียกน้ำตาจากผู้ชมได้มากเลยทีเดียว
นักร้อง นักแสดง และผู้กำกับจากเกาะฮ่องกง “เซียะ ถิงฟง” ผู้โด่งดังจากบทตัวร้ายในภาพยนตร์เรื่อง The Promise ที่เขาได้แสดงประกบคู่กับ จาง ป๋อจือ ซึ่งทั้งคู่ได้มีความรู้สึกที่ดีต่อกัน ในปี 1996 ถิงฟงได้เดินทางไปเรียนร้องเพลงที่ประเทศญี่ปุ่นโดยหวังว่าจะเป็นนักร้องอาชีพ และหลังจากนั้นเขาได้เซ็นสัญญากับบริษัทเพลงฟิตโต เร็กคอร์ด และโด่งดังตั้งแต่อัลบั้มชุดแรก “My Attitude” และมีผลงานเพลงต่อเนื่องควบคู่กับงานแสดง นอกจากนี้ในปี 2001 เขามีผลงานกำกับภาพยนตร์สั้นเรื่อง Heroes in Love อีกด้วย
เลสลี่ จางเป็นที่จดจำในฐานะของพระเอกหนังของผู้กำกับหว่องกาไว และ พระเอกโปเยโลเยที่โด่งดังมากๆเมื่อหลายสิบปีก่อนในบ้านเรา นอกจากนี้เลสลี่ยังเป็นผู้บุกเบิกวงการ LGBTQ+ ยุคแรกๆ และอย่างที่เรารู้กันดีว่าสังคมในยุคสมัยนั้นไม่ได้มีการเปิดรับเรื่องความหลากหลายทางเพศสักเท่าไหร่ ประกอบกับความทุกข์ทรมาณจากโรคซึมเศร้า ทำให้เลสลี่ จางตัดสินใจจบชีวิตตัวเองในปี 2003 ด้วยวัยเพียง 46 ปี
เรียกได้ว่าติดกันงอมแงมทั่วบ้านทั่วเมืองกับซีรีส์จีนชุด “เปาบุ้นจิ้น” เพราะนอกจากพล็อตเรื่องจะสนุก เข้มข้น ชวนติดตามแล้ว องครักษ์จั่นหนึ่งในคนสนิทของท่านเปาก็ชวนให้ละสายตาออกจากจอไม่ได้เลยทีเดียว “เหอ เจียจิ้ง” มีผลงานมากมายทั้งกับภาพยนตร์และซีรีส์ ก่อนจะมาโด่งดังถึงสุดขีดกับบทบาทจั่นเจา ในซีรีส์ เปาบุ้นจิ้น ปี 1993 และทางด้านชีวิตส่วนตัวเหอ เจียจิ้งยังครองสถานะโสดมาจนถึงปัจจุบัน
พระเอกจากซีรีส์แดนกิมจิ “Squid Game” ที่ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นหลังจากเข้าฉายในเน็ตฟลิกซ์ได้ไม่กี่วัน “อีจองแจ” ถือเป็นนักแสดงดาวค้างฟ้าคนหนึ่งของเกาหลีที่โลดแล่นอยู่ในวงการมานานหลายสิบปี ทันทีที่เจ้าตัวเปิดใช้บัญชีอินสตาแกรมในบ่ายวันที่ 2 ตุลาคม 2021 ที่ผ่านมา ก็มียอดผู้ติดตามเพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านคนภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง ถือเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่ถือเป็นตำนานและยังมาแรงมากที่สุดในขณะนี้
ด้วยภาพลักษณ์ผู้ชายแสนอบอุ่น รวมถึงความสามารถด้านการแสดงอันมากล้น ไม่ว่าซีรีส์หรือภาพยนตร์เรื่องไหนที่ “กงยู” ได้ร่วมแสดง เรื่องนั้นมีอันต้องติดชาร์ตความฮิตอย่างแน่นอน และจากผลงานซีรีส์เรื่อง Goblin คำสาปรักผู้พิทักษ์วิญญาณ ส่งผลให้กงยูเป็นหนึ่งในนักแสดงเกาหลีที่ได้ใจแฟนไทยไปมากที่สุด และยังครองตำแหน่งฉายาสามีแห่งชาติอยู่นานหลายปี
นอกจากเราจะมีสามีแห่งชาติอย่างกงยูไปแล้ว ก็ต้องมีตำแหน่งพี่ชายแห่งชาติตามมาบ้างกับ “ซง ซึง ฮฮน” เช่นเดียวกันกับคนอื่นๆ ซง ซึง ฮอน ไม่ได้ดังเปรี้ยงมาตั้งแต่เล่นภาพยนตร์เรื่องแรก ผลงานที่ทำให้เขาแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการคือเรื่อง รักนี้ชั่วนิรันดร์ (Autumn in My Heart) ละครแนวรักโรแมนติก-ดราม่าน้ำตาท่วมจอที่ประกบคู่มากับ “ซองเฮเคียว” และ “วอนบิน” ซึ่งเป็นละครที่ทำเรตติ้งสูงสุดกว่า 54 เปอร์เซ็นในปี 2000
พระเอกลุคเข้มอีกหนึ่งตำนานเอเชียผู้เป็นเจ้าของความสูง 188 เซนติเมตร “ชา ซึง วอน” ในปี 1996 เขาเริ่มต้นเขาสู่วงการบันเทิงด้วยการเป็นนายแบบ ก่อนจะได้แสดงละครเรื่อง New York Story ที่เปรียบเสมือนการปูทางต่อยอดสู่วงการภาพยนตร์ หลังจากนั้นไม่นาน ซึง วอน ประสบความสำเร็จอย่างมากจากภาพยนตร์แนวตลก เรื่อง Kick the Moon และในปี 2019 ชาวเน็ตมากมายต่างบอกว่าเขาคือหนึ่งในสมบัติหายากของโลกนั่นก็เพราะ “ยิ่งแก่ยิ่งหล่อ” ซึ่งจะมีใครสักกี่คนบนโลกที่ทำได้แบบนี้
นักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์ชาวญี่ปุ่น “โอกุริ ชุน” เริ่มต้นชีวิตในวงการบันเทิงด้วยการรับบทนักแสดงตั้งแต่อายุ 12 ปี และฝากผลงานในวงการบันเทิงญี่ปุ่นเอาไว้มากมาย ด้วยรูปร่างสูง หล่อ และเท่ขนาดนี้ โอกุริ ชุน ได้กลายเป็นหนุ่มในอุดมคติของสาว ๆ ชาวญี่ปุ่น และเป็นต้นแบบให้กับผู้ชายญี่ปุ่นอีกด้วย (แน่นอนรวมถึงสาวไทยก็แอบกรี๊ดอยู่ไม่น้อย) บทบาทที่ชุนได้รับบ่อยมากที่สุดคงหนีไม่พ้นบทตัวละครจากการ์ตูนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น crow zero, ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน และ Gintama
คุ้นหน้าคุ้นตากันมาในภาพยนตร์พอสมควรกับ “โจว เจี๋ยหลุน” หรือ “เจย์ โชว์” แต่รู้หรือไม่ว่าเจย์ โชว์ เข้าวงการจากการเป็นนักร้องและนักแต่งเพลงในไต้หวันมาก่อน หลังจากประสบความสำเร็จในด้านสายดนตรี เจย์ โชว์ ก็เริ่มมีแนวโน้มปรับเปลี่ยนไปรับงานภาพยนตร์บ้างจนกระทั่งในปี 2011 การได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ฮอลลีวูด หน้ากากตั๊กแตนอาละวาด (The Green Hornet) ก็ทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และขึ้นแท่นอันดับ 1 จากการจัดลำดับผู้ทรงอิทธิพลในจีนโดยนิตยสารฟอร์บส์ (Forbes)
หนุ่มหล่อ หน้าใส ไอดอลสุดฮอตจากปะเทศไต้หวัน หนึ่งในสมาชิกบอยแบนด์ “Fahrenheit” ที่เดบิวท์ในปี 2005 และดังเป็นพลุแตกประสบความสำเร็จไปทั่วเอเชีย นอกจากจะเป็นศิลปินแล้ว อู๋จุนยังสร้างชื่อให้ตัวเองได้มากกว่าเดิมจากการแสดงละครเรื่อง “ปิ๊งรักสลับขั้ว” ซึ่งแน่นอนว่าในยุคนั้น สาวไทยหลายคนต้องเคยติดซีรีส์เรื่องนี้กันมาแล้วอย่างแน่นอน
แม้ว่า “หวัง ลี่หง” จะเคยแสดงภาพยนตร์มาหลายเรื่อง เช่นภาพยนตร์จากการกำกับของ สแตนลี่ ตง (Stanley Tong) เรื่อง China Strike Force แต่ “หวัง ลี่หง” กลับเป็นที่รู้จักดีที่สุดจากงานเพลงและโปรดิวซ์อัลบั้มเดี่ยว 12 ชุดที่มียอดขายกว่า 10 ล้านก็อปปีทั่วโลกและถือเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่ทรงอิทธิพลและมากความสามารถที่สุดในวงการดนตรีเอเชีย
“ชเว ซีวอน” หนึ่งในสมาชิกจากวงบอยแบนด์เกาหลีที่โด่งดังและทรงอิทธิพลไปทั่วโลก “Super Junior”เป็นอีกคนที่แฟนตลับต่างชื่นชมทั้งความหล่อ ความสามารถ และในปัจจุบันซีวอนยังลงพื้นที่เป็นกระบอกเสียงช่วยเหลืองานระดับนานาชาติอย่าง UNICEF ด้วย แม้ว่าจะโด่งดังจากการเป็นไอดอลมาก่อน แต่เมื่อซีวอนได้รับโอกาสให้ร่วมแสดงในซีรีส์ต่างๆ เขาก็ทำได้ดีอย่างน่าประทับใจ ซึ่งผลงานเรื่องแรกที่เป็นใบเบิกทางสายอาชีพการแสดงของเขาได้แก่ ภาพยนตร์พีเรียดฟอร์มยักษ์ A Battle of Wits (2006) กับบท เจ้าชายเหลียงชี ก่อนจะตามมาด้วยผลงานละครมากมายทั้ง Oh! My Lady , Poseidon , The King of Dramas , She Was Pretty
นักแสดงลูกครึ่งไต้หวัน - ญี่ปุ่น ที่หล่อขึ้นหิ้งไปแล้วว่าเป็นชายในอุดมคติของสาวๆและดาราจีนกว่าครึ่งวงการ ผลงานที่โด่งดังจาก “ทาเคชิ คาเนชิโระ” ได้แก่ House of Flying Daggers, Confession of Pain, สามก๊ก โจโฉแตกทัพเรือ (Red Cliff) แต่ละเรื่องล้วนจัดว่าเป็นภาพยนตร์ระดับตำนานที่กลับมาดูเมื่อไหร่ก็ไม่มีทางเบื่อ และยิ่งไปกว่านั้นในปี 2018 ทาเคชิยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินออสการ์อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องการันตีในฐานะนักแสดงฝีมือขั้นเทพ
เฉินกว้านซี (Edison Chen)
เฉินกว้านซี ได้รับบทแรกจากการเป็นพระเอกในภาพยนตร์เรื่อง Gen Y Cops (2000) ตํารวจพันธุ์ใหม่ ที่เดิมบทนี้ต้องเป็นของพระเอกเซียะถิงฟงแต่เจ้าตัวไม่สามารถมารับบทได้ เลยเป็นโอกาสที่เฉินกว้านซีได้แจ้งเกิด และมีชื่อเสียงนับตั้งแต่นั้นมาแถมยังมีโอกาสได้เข้าร่วมแสดงในภาพยนตร์ฮอลลีวูดอีกหลายเรื่อง
บทบาทที่ทำให้ “วอนบิน” กลายเป็นที่นิยมแบบดังเปรี้ยงไปทั่วเอเชียมาจากซีรีส์ชุด รักนี้ชั่วนิรันด์ (Autumn in My Heart) ที่ได้ร่วมประกบคู่กับ “ซอง เฮเคียว” และ “ซง ซึง ฮอน” และด้วยบทบาทจากเรื่องดังกล่าวทำให้วอนบินได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก KBS Award และทำให้เขาได้รับบทบาทใหม่ๆมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นหลังภาพยนตร์เรื่อง The Man from Nowhere 2010 แล้ว วอนบิน ก็ไม่ได้รับงานแสดงใด ๆ อีกเลย
ภัคสุภา รัตนภาชน์
หล่อหลอมตัวเองด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมรอบโลก อาหาร และผู้คน
--------------------
อ้างอิง:
- https://www.thairath.co.th/entertain/news/1423606
- https://thepeople.co/chow-yun-fat/
- https://www.tnnthailand.com/news/trueinside/77560/
- https://themomentum.co/screenandsound-tonyleung/
- https://www.springnews.co.th/news/807381
- https://www.straitstimes.com/life/entertainment/squid-game-actors-lee-jung-jae-and-park-hae-soo-join-instagram
- https://sudsapda.com/men/127822.html
- https://www.unlockmen.com/nihon-stories-oguri-shun/
- https://thestandard.co/pop-onthisday07041986/
- https://sudsapda.com/top-lists/162382.html