16 มิถุนายน 2568 ภายหลังทางการ “กัมพูชา” ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้แรงงานชาวกัมพูชาที่พำนักหรือทำงานอยู่ในประเทศไทยทยอยเดินทางกลับประเทศโดยสมัครใจ ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดจากกรณีข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งยังไม่คลี่คลาย
ในแถลงการณ์ดังกล่าว ระบุว่า รัฐบาลกัมพูชาพร้อมต้อนรับแรงงานกลับประเทศ ไม่ว่าจะมีเอกสารถูกต้องหรือไม่ และยืนยันจะจัดหางานหรือสร้างอาชีพรองรับ เพื่อให้พลเมืองกลับมาใช้ชีวิตอย่างมั่นคงในประเทศ ท่ามกลางกระแสความกังวลว่าทางการไทย อาจมีมาตรการเข้มงวดต่อแรงงานต่างชาติ หากสถานการณ์ชายแดนยืดเยื้อ
อย่างไรก็ตาม จากการที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นแรงงานในพื้นที่สมุทรปราการ พบว่า แรงงานกัมพูชาส่วนใหญ่ยังไม่ต้องการเดินทางกลับประเทศในช่วงนี้ โดยเฉพาะกลุ่มที่ทำงานมานาน และมีภาระครอบครัวต้องดูแล
เช่น นายโต ราย อายุ 42 ปี แรงงานก่อสร้างชาวกัมพูชา ทำงานอยู่ที่ไซต์งานย่านซอยวัดด่านสำโรง อ.เมืองสมุทรปราการ เปิดเผยว่า ตนเองอยู่เมืองไทยมานานกว่า 12 ปี เหตุผลหลักคือมีรายได้ดี และเจอนายจ้างที่ดูแลอย่างเป็นธรรม แม้รัฐบาลจะเรียกร้องให้กลับ แต่ตนก็ยังอยากอยู่ทำงานต่อ เพื่อส่งเงินกลับไปเลี้ยงครอบครัว พร้อมวิงวอนให้ทั้งสองประเทศหันหน้าพูดคุยกันด้วยสันติ
ขณะที่ นายสมศักดิ์ จั่นเคลือบ อายุ 58 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งมีแรงงานชาวกัมพูชาอยู่ในความดูแลจำนวน 22 คน กล่าวว่า แรงงานกัมพูชาเป็นกลุ่มที่ขยัน สู้งาน และทำงานด้วยกันมายาวนาน บางคนอยู่ร่วมกันมาอย่างต่ำก็กว่า 8 ปี หากแรงงานกลุ่มนี้ต้องกลับประเทศ จะกระทบต่องานแน่นอน โดยเฉพาะในภาคก่อสร้างที่ขาดแคลนแรงงานอยู่แล้ว พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลทั้งสองประเทศยุติข้อพิพาทด้วยการเจรจา
ด้านนางสาวกัญญดากร เรืองฤทธิ์ เจ้าของกิจการร้านแก๊สหุงต้มในพื้นที่บางปู สมุทรปราการ กล่าวในทิศทางเดียวกันว่า แรงงานชาวกัมพูชาที่ร้านมีจำนวน 2 คน ต่างเป็นคนขยัน ไม่เกี่ยงงาน แม้จะเป็นแรงงานต่างชาติ แต่ทำงานร่วมกันมาอย่างดี หากจำเป็นต้องให้กลับประเทศ จะเป็นการสูญเสียแรงงานที่ผ่านการฝึกฝนและทำงานได้ดี พร้อมฝากถึงทั้งสองรัฐบาลให้หาทางออกร่วมกัน โดยยึดหลักสันติวิธีและคำนึงถึงประชาชนเป็นสำคัญ
จริงไหม? หากแรงงาน “กัมพูชา” กลับบ้าน จะกระทบภาคก่อสร้างหนักสุด
https://www.nationtv.tv/politic/378962745
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทีมข่าว “เนชั่นทีวี” ได้รับการเปิดเผยข้อมูล “ส่งด่วน” จากกระทรวงแรงงาน ภายใต้การนำของ รัฐมนตรีพิพัฒน์ รัชกิจประการ เกี่ยวกับ แรงงาน “กัมพูชา” ในประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรม ดังนี้
อันดับ 1 ภาคการก่อสร้าง มีแรงงานกัมพูชา รวม 163,704 คน คิดเป็นสัดส่วนสูงสุดในบรรดาทุกอุตสาหกรรม
อันดับ 2 ภาคการเกษตรและปศุสัตว์ มีแรงงานกัมพูชา 82,702 คน
อันดับ 3 ภาคบริการ และครัวเรือน เช่น ร้านอาหาร โรงแรม ซักรีด ฯลฯ รวมมากกว่า 100,000 คน
อันดับ 1 ภาคการก่อสร้าง เนื่องจากแรงงานกัมพูชามีจำนวนมากที่สุดในภาคนี้ และส่วนใหญ่เป็นแรงงานฝีมือระดับกลาง และแรงงานทั่วไป หากขาดแรงงานจะกระทบต่อโครงการก่อสร้างทั่วประเทศ ทั้งรัฐและเอกชน
อันดับ 2 ภาคการเกษตรและปศุสัตว์ โดยเฉพาะฤดูเก็บเกี่ยวหรือปลูกพืชตามฤดูกาล
อันดับ 3 ภาคบริการ , ครัวเรือน โดยเฉพาะร้านอาหาร แม่บ้าน พี่เลี้ยงเด็ก เพราะแรงงานกัมพูชามีบทบาทมากในเมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพฯ ชลบุรี สมุทรปราการ