เปิดมูลค่าทรัพย์สินความเสียหายเหยื่อ "คดีแอม ไซยาไนด์" ในเบื้องต้น
คดีแอม ไซยาไนด์ หนึ่งในคดีสะเทือนขวัญผู้คนในสังคม คดีนางสาวแอม เปิดมูลค่าทรัพย์สินเหยื่อ ทั้งไอโฟน ทอง พระเครื่อง เงินสด ฯลฯ พบความคล้ายคลึงของเหยื่อหลายรายคือเลือกคนใกล้ชิด ชวนทำบุญ เล่นแชร์ พาออกไปเที่ยว ก่อนตายปริศนา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากมีการนำตัวนาง สรารัตน์ หรือ "แอม" หรือ "แอม ไซยาไนด์" ผู้ต้องหาวางยา "ก้อย" เท้าแชร์สาว ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท มาที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อทำการสอบปากคำต่อ จนกระทั่งเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน ของ กก.5 บก.ป.เริ่มสังเกตเห็นอาการของ นางสรารัตน์ ที่มีอาการไม่ค่อยจะสู้ดีนัก หลังจากถูกควบคุมตัวกลับมาสอบสวนดำเนินคดี
ประกอบกับตัวผู้ต้องหานั้นมีปัญหาความดันโลหิตสูง โดยเมื่อช่วงหัวค่ำคืนที่ผ่านมา ทาง น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความของผู้ต้องหา ที่เข้ามาร่วมฟังการสอบสวน ยังระบุด้วยว่า ความดันของนางสรารัตน์ ขึ้นไปสูงถึง 170-220 ต้องมีการวัดความดันอยู่ตลอดเวลา จึงตัดสินใจเรียกเจ้าหน้ากู้ชีพจากศูนย์เอราวัณ เข้ามาตรวจสอบอาการอย่างเร่งด่วน ผลการตรวจค่อนข้างจะน่าวิตก เจ้าหน้าที่สิบเวรจึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชา เพื่อตัดสินใจส่งตัวผู้ต้องหาเข้าไปรับการดูแลที่โรงพยาบาลตำรวจ ทันที
โดยก่อนหน้านี้ ทางด้าน ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความ ของ แอม หรือ แอม ไซยาไนด์ ยืนยันลูกความ ให้การปฏิเสธ กรณี "น้องก้อย" วูบเสียชีวิตขณะทำบุญปล่อยปลา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2566 ยืนยัน "ไม่ได้ทำอย่างที่ถูกกล่าวหา" แม้จะอยู่กับผู้ตายตอนเสียชีวิต และพบพิรุธภาพจากกล้องวงจรปิดว่า แอม แอม ไซยาไนด์ เดินไปหยิบมือถือไอโฟน 14 ของผู้ตาย ก่อนขับรถออกไปโดยไม่ได้ช่วยเหลือน้องก้อยแต่อย่างใด
ทั้งนี้ พบพฤติกรรมในอดีตของ "แอม" หรือ "แอม ไซยาไนด์" อาจเข้าข่ายฆาตกรต่อเนื่อง หลังมีญาติเหยื่อออกมาตั้งข้อสงสัยการเสียชีวิตที่คล้ายคลึงกันกว่า 13 ราย (รอด 1 เสียชีวิต 12 ราย ข้อมูลในเบื้องต้นล่าสุด) โดยมีลักษณะดังต่อไปนี้
- เลือกเหยื่อเป็นคนใกล้ชิด เพื่อนสนิท/เพื่อนเก่า คนรู้จัก คนมีเงิน
- ชักชวนลงทุน ชวนทำธุรกิจ หรือยืมเงิน โดยออกอุบายว่าจะนำไปลงทุน ปล่อยกู้ เล่นแชร์ ฯลฯ พร้อมบอกว่าจะให้ผลตอบแทนที่ดี
- เมื่อเหยื่อหลงกลโอนเงินให้จะชักชวนออกไปทำบุญ
- ก่อนถึงจุดหมายจะลงไปซื้อกาแฟหรือน้ำให้เหยื่อ พร้อมวางยาพิษ "ไซยาไนด์" ให้เหยื่อดื่ม มักเลือกไปกลางวัน สถานที่อากาศร้อนต้องตากแดด เพื่อให้เหยื่อหิวน้ำ และฤทธิ์ของไซยาไนด์รุนแรง
- จากนั้นเหยื่อจะเวียนหัว อาเจียน ปวดท้อง หายใจไม่ออก วูบหมดสติ และเสียชีวิตในที่สุด
- จากนั้นจะปฏิเสธไม่รู้เห็นต่อการเสียชีวิต และเริ่มหาเหยื่อรายใหม่เพื่อชิงทรัพย์ต่อไป
1. ร้อยตำรวจเอกหญิง กานดา โตไร่ รองสารวัตร ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เสียชีวิต เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 โดยออกทุนให้นางสาวแอมนำไปลงทุนเล่นแชร์
2. ข้าราชการครูรายหนึ่ง เสียชีวิตเมื่อเดือน กันยายน 2565 นำทองรูปพรรณน้ำหนักประมาณ 30 บาท ให้นางสาวแอม นำไปลงทุนทำธุรกิจเงินกู้และแชร์
3. เพื่อนชายคนสนิท วูบเสียชีวิตที่อุดรธานี เมื่อ 12 มีนาคม 2566 พบทอง 8 บาท เงินสดจำนวนหนึ่ง และพระเครื่องหายไป
4. พันตำรวจตรีหญิง นิภา หรือ สารวัตรปู สารวัตรกองบังคับการอำนวยการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นลมเสียชีวิตเมื่อ 1 เมษายน 2566 ขณะไปทำบุญกับนางสาวแอม ที่วัดองค์พระ จ.นครปฐม มีทรัพย์สินสูญหาย
5. นางสาวก้อย เสียชีวิตเมื่อ 14 เมษายน 2566 วูบหมดสติเสียชีวิตขณะไปทำบุญกับนาวสาวแอม พบโทรศัพท์มือถือไอโฟน 14 หายไปจากที่เกิดเหตุ เผยนางสาวแอมยืมเงินไปเล่นแชร์ รวมถึงทรัพย์สินสูญหายกว่าแสนบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุด ภายหลังพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ได้ควบคุมตัว นางสรารัตน์ หรือ แอม แอมไซยาไนด์ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาคดีวางยาฆ่าผู้อื่น มายื่นคำร้องขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีอดีตสามีเป็นตำรวจ เกรงจะไปข่มขู่พยาน ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และคดีอื่นที่มีลักษณะเดียวกันนี้อีก 9 คดี มีอัตราโทษสูง
ขณะที่มีรายงานว่า ในวันนี้ไม่มีญาติ หรือทนายความของนางสรารัตน์ มายื่นคำร้องและหลักทรัพย์ ขอประกันตัวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงนำตัวนางสรารัตน์ ไปควบคุมไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป
ย้อนปมคดีเศร้า จากการสืบสวนทราบว่า หลังเกิดเหตุสุดสลดเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2566 ผู้ต้องหาได้นำถุงดำ ซึ่งภายในมีกระปุกใส่ Potassium Cyanide (โพแทสเซียมไซยาไนด์) สารพิษ พร้อมกับสิ่งของอื่นๆ กรอบป้ายทะเบียน บัตรเอทีเอ็ม และเอกสารการเสียชีวิตของนายสุทธิศักดิ์ หรือ แด้ พูนขวัญ แฟนของผู้ต้องหาที่เสียชีวิต เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2566 ในท้องที่ อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยผู้ต้องหานำถุงดำไปฝากไว้กับผู้อื่น เพื่อให้เอาไปซุกซ่อน และเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึด ไซยาไนด์ และสิ่งของอื่นๆ ได้ในเวลาต่อมา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง >>
ตะลึง! พบเหยื่อ "นางสาวแอม" 4 ราย ดับปริศนาหลังถูกพาไปหาร่างทรง
ลูกเหยือ "นางสาวแอม" ช็อก แม่ถูกวางยาดับ ผบช.ภ.7 เรียกถกด่วนเพื่อเร่งคดี
จากการตรวจพิสูจน์สารคัดหลั่งจากศพของ น.ส.ศิริพร ผู้ตาย โดยกลุ่มงานพิษวิทยา สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ พบสารไซยาไนด์ ในเลือด ปริมาณที่เป็นสาเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ เชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นผู้นำสารไซยาไนด์ ผสมใส่ในอาหารให้ผู้ตายบริโภคช่วงเวลาที่ผู้ต้องหาอยู่กับผู้ตาย
ต่อมาวันที่ 24 เมษายน 2566 มารดาผู้ตาย ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ดำเนินคดีผู้ต้องหา ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานของอำนาจศาลอาญาอนุมัติหมายจับที่ 1285/2566 ลงวันที่ 25 เมษายน 2566 ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา ได้ที่อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารบี) ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ประเด็นร้อนโผล่อีก พบความเกี่ยวพันอีก 7-9 คดี
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เผยว่า เบื้องต้นพบว่ามีเหยื่ออย่างน้อย 7-9 คน ที่เดินทางไปกับผู้ต้องหาแล้วเสียชีวิตขณะอยู่ด้วยกัน หรือเสียชีวิตหลังจากหมดสติและนำส่งโรงพยาบาล ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนพิสูจน์ทราบการตายของผู้เสียชีวิตแต่ละราย ในจำนวนนี้มีตำรวจหญิงเสียชีวิตด้วย 2 นาย หนึ่งในนั้นเป็นนายตำรวจระดับสารวัตรผู้ใต้บังคับบัญชาของตนสังกัดฝ่ายอำนวยการ บช.ก. หลังการตายมีทรัพย์สินหายไปราว 1.4 แสนบาท ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนเช่นเดียวกันว่า เสียชีวิตจากฝีมือผู้ต้องหาด้วยหรือไม่ ส่วนสามีที่เป็นตำรวจของผู้ต้องหาจะรู้เห็นกับการกระทำผิดของภรรยาหรือไม่ ขณะนี้ยังสอบสวนไม่พบ
สังคมคาใจ..เข้าข่ายฆาตกรต่อเนื่องหรือไม่ !!
ด้าน พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. กล่าวว่า ขณะนี้รู้ชื่อบุคคลที่เสียชีวิตที่กำลังพิสูจน์ทราบครบแล้ว ขั้นตอนต่อจากนี้ให้ชุดสืบสวนสอบสวนประสานงานกับกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) และโรงพยาบาลตำรวจ แสวงหาหลักฐานต่างๆเพื่อพิสูจน์ความเชื่อมโยง หากพบว่าเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมรายอื่นๆ ด้วยจะดำเนินคดีเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม กำลังจะแจ้งข้อหาอื่นกับผู้ต้องหาเพิ่มเติมด้วย เช่น ข้อหาชิงทรัพย์ เป็นต้น เพราะการกระทำประสงค์ต่อทรัพย์ของผู้ตาย ผู้ต้องหารายนี้เป็นฆาตกรที่หวังทรัพย์สินของผู้ตาย หากพบว่าเกี่ยวข้องกับการตายรายอื่นจริงต้องถือว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่อง
เรียกสอบ "เหยื่อผู้รอดชีวิต" จิ๊กซอว์สำคัญ มัดตัว "แอม ไซยาไนด์"
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดี นางสรารัตน์ หรือ แอม ไซยาไนด์ วางยาฆ่าชิงทรัพย์เหยื่อกว่า 10 ราย ว่า จากที่ฝั่งผู้ต้องหาอ้างว่า ขวดบรรจุภัณฑ์สารเคมีไซยาไนด์ ไม่ใช่ของตนเองเพราะไม่ได้พบเจอที่ตัว แต่เป็นการพบเจอจากจุดอื่นนั้น ยืนยันว่าไม่หนักใจเพราะไม่ใช่ส่วนสำคัญไม่ว่าจะเจอจากที่ใด เนื่องจากเรามีหลักฐานที่บ่งชี้ถึงความเชื่อมโยงระหว่างขวดสารเคมีดังกล่าวกับผู้ต้องหาอยู่แล้ว
พ.ต.อ.เอนก เปิดเผยว่า จากหลักฐานที่มีอยู่ขณะนี้ ยังเชื่อว่าผู้ต้องหาก่อเหตุเพียงคนเดียว และในช่วงเวลาก่อเหตุแต่ละคดีมักเป็นช่วงที่ผู้ต้องหากับผู้ตายอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง เช่นเดียวกันทุกครั้งที่ก่อเหตุ ผู้ถูกกระทำมักไม่รู้ตัว ส่วนแนวทางสอบสวนหลังจากนี้จะมีการเชิญพยานบุคคลต่างๆ มาสอบปากคำในฐานะพยานอีกจำนวนหนึ่ง ปัจจุบันมีการเรียกสอบปากคำไปแล้วกว่า 10 ปาก ในจำนวนนี้มีกลุ่มวัยรุ่นที่ นางสรารัตน์ ใช้ให้นำขวดไซยาไนด์ ไปทิ้งรวมอยู่ด้วย
“นอกจากนี้ยังอาจมีการพิจารณาเชิญตัว น.ส.ปลา เหยื่อผู้รอดชีวิต มาสอบปากคำในฐานะพยานด้วยเช่นกัน เพราะคำให้การของพยานผู้รอดชีวิตถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะร้อยเรื่องราวพฤติการณ์ พยานแวดล้อมของคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดแต่ละพื้นที่ให้เชื่อมโยงถึงกัน และจะทำให้คดีมีน้ำหนักน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น จนสามารถเอาผิดผู้ต้องหารายนี้ได้” รอง ผบก.ป. กล่าว
ขณะที่ เหยื่อรายที่รอดชีวิต ซึ่งเป็นภรรยาของตำรวจ ตชด.134 ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี มีรายงานว่า วันนี้ (26 เมษายน 2566) จะเดินทางมาให้ปากคำกับตำรวจ โดยมีข้อมูลจากสามีที่เป็นตำรวจ ของเหยื่อรายนี้ บอกว่า "ปลา" ภรรยาที่รอดชีวิต จะเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจจริง และเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งผู้เสียหาย ไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูล เนื่องจากยังมีอาการหวาดกลัวอยู่ แต่ยอมรับว่า รู้จักกับแอม อยู่แล้ว
เบื้องต้นอาการตอนนี้ปลอดภัย แต่ตอนเกิดเหตุอาการหนักมาก อาการคล้ายกับผู้เสียชีวิตรายอื่น ตอนนั้นไม่ได้เอะใจอะไร จึงไม่ได้ตรวจหาสารพิษในร่างกาย เนื่องจากก่อนที่จะมีอาการนี้ ภรรยาได้กินยาแก้ไอไป จึงคิดว่ามีอาการแพ้ยา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง >>
รู้จัก "สารไซยาไนด์" แค่นิดเดียวถึงแก่ชีวิต พร้อมเผยวิธีรับมือในเบื้องต้น
สามีเหยื่อ เข้าให้ข้อมูล ตร. รับตนเองและภรรยาโอนเงินให้ "แอม ไซยาไนด์" เกือบ 1 แสน
