svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

แพทย์ดัง เทใจหนุนไทยเปิดประเทศ รับนนท.จีน ไม่ต้องตรวจโควิด-19 

05 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

4 แพทย์ชื่อดัง สนับสนุนนทท.จีนเข้าไทยไม่ต้องตรวจโควิด ไม่ต้องกักตัว แนะเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น สวมหน้ากากอนามัย เพื่อความปลอดภัย

ประเด็นร้อนแรงระดับโลกในวันนี้ กระแสข่าวสนั่นโซเชียลมาตลอดสัปดาห์ กับรายงานข่าว ประเทศจีน พร้อมเปิดประเทศอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 มกราคม 2565 นี้ ซึ่งจะมีผลทำให้ผู้ที่เดินทางเข้าและออกประเทศไม่ต้องกักตัว ทั้งนี้ จากการเปิดประเทศดังกล่าวได้สร้างความวิตกกังวลให้กับหลายประเทศที่ต้องรับนักท่องเที่ยวจีน เนื่องจากเกรงว่าจะมีการนำเชื้อโควิด19 เข้ามาแพร่ระบาด และมีการยกระดับมาตรการสำหรับนักท่องเที่ยวจีนโดยเฉพาะ  
 

ชวนคอข่าวชาวไทยมาจับตาความเคลื่อนไหวล่าสุด เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 โฟกัสกันก่อนใครที่ เพจเฟซบุ๊ก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้โพสต์ภาพการแสดงความคิดเห็นของ 4 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการดำเนินมาตรการต่าง ๆ ของประเทศไทย ในการควบคุมโควิด-19 สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน หลังจากที่ทางการจีนได้ประกาศเปิดประเทศ

ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา ที่ปรึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า

คนจีนนำรายได้เข้าประเทศเราไม่น้อย ดังนั้นสิ่งที่เราควรระวังไม่ใช่ระวังเขา แต่เราต้องลดความเสี่ยง ใส่หน้ากาก เว้นระยะ ล้างมือบ่อย ๆ ยังทำได้ ไม่ว่ากับโควิด 19 สายพันธุ์ไหน วัคซีนยังมีอยู่ให้รีบไปฉีดเลย ไม่ต้องรอ

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ กล่าวว่า

ถึงเวลาที่เราต้องอยู่ร่วมกับโควิด 19 อย่างมีสติ เชื้อมีการกลายพันธุ์ต่อเนื่อง สามารถเกิดขึ้นในประเทศไหนก็ได้ ไม่ใช่เฉพาะจีน เราต้องเตรียมตัวเองให้ดี เร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น สร้างสุขนิสัยที่ดี สวมหน้ากาก เมื่ออยู่ในที่แออัด อากาศถ่ายเทไม่ดี เว้นระยะห่างและหมั่นล้างมือ


ขณะที่ "หมอดื้อ" หรือ ศ.นพ.ธีรวัฒน์ เหมะจุฑา ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า

การที่นักท่องเที่ยวจากจีนจะเดินทางเข้าไทย ไม่ต้องตระหนกมาก เพราะเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนที่เกิดขึ้นที่ประเทศจีน เป็นสายพันธุ์ที่มีอยู่ทั่วโลก ระบาดไม่รุนแรงมาก ดังนั้นมาตรการที่ไทยเตือนไว้เหมาะสมแล้วที่กำหนดให้นักท่องเที่ยวจากจีน ต้องมีประกันสุขภาพตรวจหาเชื้อก่อนเข้าประเทศ 48 ชั่วโมงและต้องใช้มาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์

 

นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา กล่าวว่า

จากตัวอย่างการถอดรหัสไวรัสในประเทศจีน ขณะนี้เป็นสายพันธุ์ที่ไม่ได้รุนแรงกว่าสายพันธ์ที่ระบาดอยู่ทั่วโลก ดังนั้นการฉีดวัคซีนและการติดเชื้อโดยธรรมชาติ จากสายพันธุ์ที่ล้ำหน้ากว่าที่ระบาดอยู่ในจีน จึงทำให้เกิดความเบาใจว่าจะไม่มีการระบาดที่รุนแรง จากนักท่องเที่ยวชาวจีน

หลังจากมีกระแสไปทั่วโลก ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเผย ปฏิกิริยาจากจีน ฉุน! 11 ประเทศเลือกปฏิบัติไร้เหตุผล ลุ้นไทยเพิ่มมาตรการหรือไม่วันนี้ หลังรัฐบาลจีนเตรียมเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ 8 ม.ค. 2566

การเปิดประเทศของจีนในวันที่ 8 มกราคม 23566 นี้ ถือว่าได้สร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วโลก โดยเฉพาะประเด็นเรื่องของนักท่องเที่ยวชาวจีน
ทั้งนี้ หลายประเทศมีความวิตกกังวลใจว่า บรรดานักท่องเที่ยวจีนอาจจะนำเชื้อโควิด-19 ไปแพร่ระบาดในวงกว้างต่อไปได้

แพทย์ดัง เทใจหนุนไทยเปิดประเทศ รับนนท.จีน ไม่ต้องตรวจโควิด-19 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อ >> 

พร้อมรับมือ! "รมว.ท่องเที่ยวฯ" คาด "นทท.จีน" ทะลักเข้าไทย ไตรมาสแรก 3 แสนคน

แพทย์ดัง เทใจหนุนไทยเปิดประเทศ รับนนท.จีน ไม่ต้องตรวจโควิด-19 

แพทย์ดังฟันธง คลื่นการระบาดโควิด ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง ไม่ได้สงบ ย้ำไม่ติดเชื้อดีที่สุด

แพทย์ดัง เทใจหนุนไทยเปิดประเทศ รับนนท.จีน ไม่ต้องตรวจโควิด-19 

มาดูกันที่มุมมองของแพทย์คนดังต่อประเด็นการเปิดรับนักท่องเที่ยวจีน มีการเข้าประเทศไทย แบบไม่ต้องตรวจโควิด-19   
จับตามุมมองกันที่นายแพทย์คนดังอีกท่านที่คอข่าวไม่ควรพลาด 

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

จีนตำหนิ 11 ประเทศ ที่เลือกปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยวจีน โดยระบุว่าเป็นวิธีการที่ทั้งไม่มีเหตุผล และไม่มีหลักคิดทางวิทยาศาสตร์
หลังจากที่ทางการจีนได้ประกาศยกเลิกการกักตัว (Quarantine) ของผู้ที่จะเดินทางเข้าหรือออกจากประเทศจีน ในวันที่ 8 มกราคม 2566 เป็นต้นไปนั้น

ได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อมาตรการควบคุมโควิดของหลากหลายประเทศ ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละประเทศมีข้อจำกัดทางด้านเศรษฐกิจและทางด้านสาธารณสุขที่แตกต่างกัน

อย่างไรก็ตาม ได้มีอย่างน้อย 11 ประเทศ ที่ออกมาตรการเฉพาะเจาะจงต่อผู้ที่เดินทางจากประเทศจีนโดยเข้มงวด ให้มีการตรวจโควิดเป็นลบก่อนเดินทางมาสู่ประเทศตนเอง ซึ่งแตกต่างจากผู้ที่เดินทางจากประเทศอื่นๆ ทั่วโลกว่า ไม่จำเป็นต้องทำมาตรการดังกล่าว

ประเทศดังกล่าว ประกอบไปด้วย

  • สหรัฐอเมริกา
  • แคนาดา
  • ออสเตรเลีย
  • อังกฤษ
  • ฝรั่งเศส
  • อิตาลี
  • สเปน
  • ญี่ปุ่น
  • เกาหลีใต้
  • ไต้หวัน
  • โมรอคโค
     

โดยที่กระทรวงต่างประเทศจีน ได้ออกมาตำหนิหรือกล่าวโทษ (Condemn) กลุ่มประเทศดังกล่าว ว่า

ออกมาตรการที่เลือกปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยวจีน ถือว่าไม่มีเหตุผล ( Simply Unreasonable) ไม่มีหลักคิดทางวิทยาศาสตร์ ((Lacked scientific basis) เนื่องจากสายพันธุ์ไวรัสที่กำลังระบาดอยู่ในประเทศจีนขณะนี้ เป็นสายพันธุ์ที่เคยระบาดอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลกมาแล้ว ไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด ได้แก่ BA.5.2 และ BF.7 ซึ่งมีความสามารถในการแพร่เชื้อและก่อความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศต่างๆ ดังกล่าว

ยกตัวอย่างเช่น ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีสายพันธุ์ XBB.1.5 ซึ่งมีความรุนแรงมากกว่าไวรัสในประเทศจีน

ในประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ก็มีสายพันธุ์ซึ่งมีความรุนแรงมากกว่าไวรัสในจีน
การเลือกปฏิบัติดังกล่าว จึงสร้างความไม่พอใจให้กับทางการจีนเป็นอย่างมาก
จนกระทั่งกระทรวงการต่างประเทศต้องออกประกาศตำหนิหรือกล่าวโทษวิธีการดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางองค์การอนามัยโลก WHO ได้เรียกร้องให้ประเทศจีน เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับโควิดในปัจจุบันให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต การได้รับวัคซีน

ข้อมูลเบื้องต้นที่ได้รับทราบจากจีนคือ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก  แต่มีผู้มีอาการรุนแรงและเสียชีวิตน้อย

ตัวอย่าง โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยที่มณฑลเสฉวนพบว่า มีผู้เข้าไอซียูเพียง 1% ของผู้ที่ติดเชื้อมีอาการ

ขณะที่ นสพ. People Daily ของจีน ก็ได้แจ้งว่า

โควิดส่วนใหญ่นั้น ผู้ติดเชื้อมีอาการเล็กน้อย และมีเพียง 3-4% เท่านั้น ที่มีอาการรุนแรง

ทั้งนี้เนื่องจากไวรัสทั้งหมดในประเทศจีนเป็นโอมิครอน ซึ่งมีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา


แพทย์ดัง เทใจหนุนไทยเปิดประเทศ รับนนท.จีน ไม่ต้องตรวจโควิด-19 
ล่าสุด ในวันนี้ (5 ม.ค.2566) ประเทศไทย ก็จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการถึงมาตรการการควบคุมโควิด ที่เกี่ยวข้องกับผู้เดินทางมาจากประเทศจีน

ซึ่งมีรายงานข่าวข่าวอย่างไม่เป็นทางการแจ้งว่า ประเทศไทย จะเลือกในแนวทางปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยวจีน เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น

จนกว่าจะมีข้อมูลเปลี่ยนแปลงไปในลักษณะที่ นักท่องเที่ยวจีนจะนำเชื้อไวรัสที่มีความรุนแรงมากกว่าประเทศอื่นเข้ามาสู่ประเทศไทยเรา

จึงจะออกมาตรการที่เข้มข้น เพื่อคัดกรอง ทำให้เกิดความเหมาะสมต่อไป

ต้องจับตาประเด็นนี้กันต่อไป ว่าหลังประชุมคม. จะมีมาตรการการควบคุมโควิดใด ออกมารองรับการเข้าประเทศในช่วงนี้ 

 

ในมุมมองเศรษฐกิจ อานิสงส์นักท่องเที่ยวจีนดันจีดีพีไทยปี 66 โต 2.9% ศ.ดร.นฤมลแนะทุกภาคส่วนเตรียมความพร้อม คาดครึ่งปีหลังพุ่ง

ทางด้าน ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงกรณีวันที่ 8 มกราคมนี้ จีนจะเปิดประเทศ โดยยกเลิกข้อกำหนดการกักกันโรคโควิด-19 (Covid-19) สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ การเดินทางของคนจีนออกนอกประเทศจะมีผลบวกต่อเศรษฐกิจโลกอย่างแน่นอน หลังจากที่ความสามารถในการบริโภคของนักท่องเที่ยวจีนถูกจำกัดไว้ในประเทศจีนมานานร่วม 3 ปี

สำหรับปีพ.ศ. 2562 ก่อนโควิด-19 นักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยมากถึง 11 ล้านคน นับเป็น 27.5% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด 40 ล้านคน ผลของการเปิดประเทศจีนครั้งนี้ พบว่าประเทศไทยได้รับความสนใจเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศที่คนจีนอยากมาท่องเที่ยวมากที่สุดรองจากประเทศญี่ปุ่น

นักท่องเที่ยวจีนน่าจะเริ่มเข้าไทยในช่วงตรุษจีน 21-27 มกราคมนี้ และคาดว่าจะทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้นในเดือนมีนาคม และเมษายน ครึ่งปีหลังเป็นต้นไป จึงจะได้เห็นจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง

ทั้งนี้ หลังโควิด-19 ภาคการท่องเที่ยวจะเป็นเครื่องจักรสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย การกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนจึงส่งผลบวกกับเศรษฐกิจไทยอย่างมาก ผลการศึกษาของโกลด์แมนแซค ระบุว่าจะเกิดผลบวกต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2566 นี้มากถึงประมาณ 5.42 แสนล้านบาท นับเป็น 2.9% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี (GDP)
 

แพทย์ดัง เทใจหนุนไทยเปิดประเทศ รับนนท.จีน ไม่ต้องตรวจโควิด-19 

ในจำนวนนี้ ประมาณ 25% เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับโรงแรมและที่พักอีก 31% เป็นเม็ดเงินที่ใช้จ่ายเพื่อการซื้อสินค้าในไทย และอีก 11% เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับอาหารและเครื่องดื่ม ดังนั้น ไม่ใช่แค่ธุรกิจโรงแรมและที่พักเท่านั้น แต่ธุรกิจที่เชื่อมโยงกับภาคการท่องเที่ยวที่จะได้รับผลบวกจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนด้วย

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจีนยังสนใจที่จะเดินทางไป ไม่ใช่แค่เมืองหลัก แต่สนใจไปเมืองรองด้วย และนิยมเดินทางมาแบบกลุ่มเล็กหรือแบบส่วนตัวมากขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ  นอกจากการเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวจีนของภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ภาคเอกชนยังมีเวลาเพียงพอในการเตรียมบุคลากร และเทคโนโลยีรองรับการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีน ก่อนที่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะเข้าไทยเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งช่วงครึ่งปีหลัง

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุด

นายอนุทิน แจงรับมือนทท.จีน เท่าเทียมทุกชาติ เตรียมแผนซื้อประกันสุขภาพก่อนเข้าไทย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังการประชุม เป็นประธานในการประชุมกำหนดมาตรการรองรับการเดินทางเข้าประเทศไทย เพื่อป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 ครั้งที่ 1/2566  พร้อมผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับกระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวฯ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานครและกระทรวงการต่างประเทศ ขณะนี้ไทยมีความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวในทุกมิติ

ซึ่งมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็นมาตรการที่มีความเหมาะสมอยู่แล้ว ส่วนในกรณีที่ประเทศใดมีข้อกำหนดพิเศษขึ้นมา เช่น ต้องตรวจ RT-PCR ให้กับนักท่องเที่ยว ก่อนเดินทางกลับประเทศต้นทางนักท่องเที่ยวต้องซื้อบัตรประกันสุขภาพก่อนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งต้องครอบคลุมการรักษาโรค โควิด-19 ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่เท่าเทียม เป็นธรรมทั้งประเทศที่เปิดรับนักท่องเที่ยวและประเทศต้นทาง และถ้าไม่มีข้อกำหนดก็จะแนะนำให้ซื้อประกันสุขภาพเพื่อให้สะดวกกับการพำนักในประเทศไทย

ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวในช่วงเริ่มต้น ซึ่งมาตรการต่างๆ จะมีการปรับเปลี่ยนและลดหลั่นได้ตามความเหมาะสม พร้อมกันนี้ในที่ประชุมได้มีการนำเสนอ ขอความร่วมมือ ให้โรงแรมที่เปิดรับนักท่องเที่ยวจัดซุ้มอำนวยความสะดวกสำหรับตรวจ RT-PCR ด้วย
 

สำหรับมาตรการด้านสาธารณสุข ซึ่งเสนอโดยกระทรวงสาธารณสุขนั้น กรณีก่อนเข้าประเทศไทย

  • ฉีดวัคซีนโควิด19 อย่างน้อย 2 เข็ม
  • นักท่องเที่ยวประเทศใดมีข้อกำหนดพิเศษ ตรวจตรวจ RT-PCR ก่อนและหลังออกนอกประเทศ
  • นักท่องเที่ยวประเทศใดมีข้อกำหนดพิเศษขึ้นมา ต้องซื้อบัตรประกันสุขภาพก่อนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
  • หากมีอาการป่วยโรคทางเดินหายใจแนะนำให้เลื่อนการเดินทางและรักษาให้หายก่อนเดินทางเข้าไทย 
  • ป้องกันตนเองเช่นสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ในสถานที่สาธารณะ รถโดยสารขนส่งสาธารณะ ล้างมือบ่อยๆ
  • เน้นการตรวจคัดกรองด้วย ATK เมื่อมีอาการ


ส่วนกรณีผู้เดินทางที่จะออกจากไทยไปยังประเทศที่มีนโยบายคัดกรองก่อนเข้าไทย จะมีการแนะนำให้ผู้เดินทางพักในโรงแรม SHA Plus ซึ่งจะมีบริการตรวจเชื้อโควิด19 โดยสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

อย่างไรก็ตาม วันที่ 9 มกราคมนี้ จะมีบรรดานักท่องเที่ยวไฟลท์แรกมายังประเทศไทย ซึ่งเดินทางมาจาก ประเทศจีน โดยกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคมกระทรวงการท่องเที่ยว จะเดินทางไปตรวจความพร้อมและเยี่ยมการปฎิบัติงานตรวจสอบสถานการณ์เพื่อให้เกิดความสะดวกปลอดภัยกับนักท่องเที่ยวและคนไทยทุกคน ในวันที่ 12 มกราคม ยืนยันทุกฝ่ายมีความพร้อมและกรุงเทพมหานคร ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

โดยมีการคาดการณ์ว่า จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยในไตรมาสแรกตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมีนาคม 2566 ประมาณ 300,000 คนหรือประมาณร้อยละ 5 ของนักท่องเที่ยวทุกชาติรวมกัน  ซึ่งคาดว่าเดือนมกราจะเข้ามา 60,000 คน กุมภาพันธ์ 90,000 คน มีนาคม 150,000 คน และจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากในปัจจุบันยังมีจำนวนเที่ยวบินจำกัด  ทั้งนี้จากข้อมูลการรับวัคซีนป้องกัน โควิด-19 พบว่าประชาชนจีนรับวัคซีนครบสองเข็มแล้วในสัดส่วนร้อยละ 90.8 ขณะที่ค่าเหยียบแผ่นดินเป็นมาตรการของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาขณะนี้ยังต้องหารือจึงยังไม่มีผลบังคับใช้

ส่วนโรงแรม, ร้านอาหารที่ได้รับมาตรฐานsha และSha+พนักงานเสริมและเชฟยังต้องสวมหน้ากากอนามัยอยู่ โดยยึดถือตามมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อ ยืนยันมาตรการที่ออกมาเป็นไปตามความคิดเห็นของทีมแพทย์ที่มองว่าเชื้อ โควิด-19 อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ เพราะคนไทยและคนต่างชาติมีภูมิคุ้มกันอยู่บ้างแล้ว ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะนี่เป็นโอกาสได้เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจจากความสูญเสียต่างๆที่ได้รับมากว่า 3 ปีจากการให้ระบาดของโควิด ซึ่งการท่องเที่ยวเป็นรายได้สำคัญอย่างมากต่อประเทศและยังมีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอีกมากมายและน่าจะเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะพลิกฟื้นซ่อมแซมเสริมสร้างความเสียหายให้กับประเทศในโอกาสต่างๆ ก็จะกลับมา

หลายชาติพร้อมใจใช้มาตรการโควิด-19 นทท.จีน ยึดหลักวิทยาศาสตร์

ส่วนการเตรียมความพร้อมในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว ได้สั่งการสาธารณสุข เพิ่มศักยภาพภาพเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น ทั้งสถานพยาบาล Hospitel เพื่อรองรับผู้ที่มีผลตรวจพบเชื้อโควิด-19 พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนและผู้บริการและอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยวและคมนาคมให้ปฎิบัติตามมาตรการส่วนบุคคล  ไม่รวมกลุ่มจำนวนมากในพื้นที่แออัด หากป่วยมีอาการทางเดินหายใจ เช่นไอ เหนื่อย เป็นไข้ ให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่กับผู้อื่น และยังคงเน้นย้ำให้เข้ารับวัคซีนป้องกัน โควิด-19 เข็มที่ 4 เพื่อความปลอดภัย


 

logoline