
26 พฤศจิกายน 2566 ความคืบหน้าปัญหาภายใน วัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ที่คลี่คลายไปในทางบวก โดยเฉพาะปัญหาเรื่องของทรัพย์สินของวัด และคดีความระหว่างทางวัดกับชาวบ้าน หลัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ได้เข้ามาเป็นคนกลาง มีการตั้ง คณะกรรมการชุด 18 อรหันต์ เข้ามาดูแลแก้ปัญหาด้านต่าง ๆ จนมีข่าวดี เมื่อทางวัดบางคลาน เตรียมเปิดให้ชาวพุทธร่วมทอดกฐินสามัคคี 25 พ.ย. นี้ ตามที่นำเสนอไปนั้น
ล่าสุด วานนี้ (25 พ.ย.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้เป็นประธานฝ่ายฆราวาส , พระพรหมโมลี ปธ.9 รักษาการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เจ้าคณะภาค 5 เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กทม. เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง พุทธศาสนิกชน ศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อเงิน พุทธโชติ ร่วมทำบุญทอดถวายกฐินสามัคคีสมานฉันท์ปรองดอง ประจำปี 2566 ณ วัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร
วัตถุประสงค์เพื่อนำเงิน ไปทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และอาคารสถานที่ต่าง ๆ ภายในวัดบางคลาน รวมถึงเพื่อที่จะนำเงินทำบุญ ไปซ่อมแซมเมรุเผาศพ และศาลาธรรมสังเวช และห้องน้ำที่ชำรุดทรุดโทรม เนื่องจากในช่วงที่ภายในวัด เกิดปัญหาความขัดแย้ง ก็ขาดการทำนุบำรุง จนทำให้ในหลายจุดภายในวัด ชำรุดทรุดโทรม
โดยการทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2566 วานนี้ ได้เงินทำบุญรวมทั้งสิ้น 6,522,343 บาท ท่ามกลางบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ก่อนเริ่มพิธีได้มีการจัดขบวนแห่ผ้ากฐิน เครื่องบริวารกฐิน รวมทั้ง พุ่มต้นเงินกฐินเวียน รอบอุโบสถจำนวน 3 รอบ นำโดยขบวนรางรำและกลองยาว ฟ้อนรำกันอย่างสนุกสนาน
สำหรับงานทอดกฐินสามัคคีดังกล่าว ถือเป็นกุศโลบายส่วนหนึ่งของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ที่ต้องการให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน เข้าวัดทำบุญใช้ธรรมะขัดเกลาจิตใจ สยบความขัดแย้งลืมอดีต แล้วมองก้าวข้ามปัญหา เดินหน้าในการพัฒนาวัดหลวงพ่อเงินบางคลานต่อไป
รายงานระบุว่า สำหรับบรยากาศภายในวัด หลังจากที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เข้ามาเคลียร์ปัญหาด้วยตนเอง เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 66 นั้น ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นคือ กลุ่มลูกศิษย์อดีตเจ้าอาวาส ได้มีการรื้อถอนเต็นท์ที่อยู่บริเวณหน้ากุฎิไม้ออกไปแล้ว รวมถึงกลุ่มที่ปักหลักค้างแรม ก็ถอนตัวออกไปบางส่วน รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 10 นาย ที่ ผบ.ตร. สั่งให้อยู่สังเกตการณ์และดูแลรักษาความสงบ ยังคงทำหน้าที่ ซึ่งกรรมการวัดหลวงพ่อเงินบางคลานก็รู้สึกอุ่นใจมากขึ้น
แต่สิ่งที่ยังพบเห็นคือ การจำหน่ายดอกไม้ธูปเทียน การจำหน่ายวัตถุมงคล ด้านล่างของวิหารหลวงพ่อเงิน ที่ทำการมูลนิธิหลวงพ่อเงิน ก็ยังถูกปิดอยู่ และมีบุคคลที่ไม่ใช่กรรมการของวัด ยังคงแฝงตัวทำธุรกิจส่วนตัวอยู่ภายในวัด รวมถึงร้านกาแฟ และคนงานของวัด ก็ยังไม่ได้เข้ามาทำงานอย่างเต็มตัว อีกทั้งกล้องวงจรปิด ที่ชายชุดดำเคยบุกเข้ามาทำร้ายกรรมการวัด และทำลายกล้องวงจรปิด ก็ยังใช้การได้ไม่ครบทุกจุด ซึ่งน่าจะยังอยู่ในช่วงการปรับ เปลี่ยน ถ่าย และการจัดระเบียบของคณะทำงานของ ผบ.ตร.
ทำให้มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ว่า ความสงบที่เห็นภายในวัดบางคลาน ช่วงนี้เปรียบเสมือน “ก้อนหินใหญ่ที่ทับกอหญ้า” เมื่อใดที่ยกก้อนหินออก ต้นหญ้าวัชพืชหรือปัญหาเดิม ๆ ก็อาจจะงอกโผล่ออกมาให้เห็นซ้ำอีกก็เป็นได้ ซึ่งคงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า วัดบางคลาน จะสงบแล้วจริงหรือไม่ ?