วันนี้ (18 ต.ค.2566) ที่ ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา นายเกียรติศักดิ์ พุฒพันธุ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค ๙ นายราม วสุธรภิญโญ ผู้อำนวยการสำนัก ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายกิตติศักดิ์ กั่วพานิช ผู้อำนวยการวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ ลุยตรวจโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา (อควาเรียมหอยสังข์) หลังป.ป.ช.มีมติแจ้งข้อกล่าวหาผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว 27 คน ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้บริหารระดับสูงและขณะนี้ยังไม่พบมีนักการเมืองเอี่ยว
โดยภายหลังการสำรวจพื้นที่ภายในอาคาร "อควาเรียมหอยสังข์" นายเกียรติศักดิ์ พุฒพันธุ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค ๙ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการตรวจติดตามโครงการควาเรียมหอยสังข์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างป.ป.ช.ไต่สวนมีการแจ้งข้อหาผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว 27 รายขณะนี้อยู่ระหว่างทำคำชี้แจงในข้อหาซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 45 วันก็จะสรุปสำนวนได้คดีนี้เริ่มทุจริตตั้งแต่กระบวนการออกแบบและการแก้ไขขั้นตอนต่างๆเอื้อประโยชน์ให้กับผู้รับจ้างหรือไม่ เนื่องจากมีการตัดทอนสเปคงานกว่า 102 รายการ จนไม่เหลือความเป็นพิพิธภัณฑ์หรือไม่อันนี้คือประเด็นของคดีนี้ ซึ่งวันนี้เราลงพื้นที่เพื่อประเมิณมูลค่าสิ่งก่อสร้าง ซึ่งหากจะมีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงก็ไม่เกี่ยวกับคดีแต่อย่างใด ซึ่งในแง่ของคดีคือเขาเบิกจ่ายกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ว่าเมือเบิกจ่ายครบแล้วแต่ไม่สามารถเปิดใช้งานได้นั่นคือความเสียหายแล้วแต่มูลค่าความเสียหายนั้นต้องไปประเมินกันอีกครั้ง ส่วนอีกเรื่องนั้นในฐานะคนสงขลาหรือคนภาคใต้เห็นสถานที่แห่งนี้เด่นเป็นสง่าเราจะปล่อยทิ้งร้างให้เป็นอนุสาวรีย์แห่งการทุจริตหรือไม่ อันนี้คือการบ้านของรัฐบาลและฝ่ายบริหารว่าท่านอยากให้ลูกหลานท่านจดจำอควาเรียมนี้แบบไหนแล้วเราก็ช่วยกันแก้ไข
“ผมมองว่าสิ่งก่อสร้างชิ้นนี้ยิ่งใหญ่มากเทียบเท่าสเตเดียมซึ่งใหญ่มากและหากเทียบกับพิพิธภัณฑ์ที่นี่ใหญ่สุดในประเทศแล้วเป็นหน้าตาของประเทศ ปัญหาคือเราจะแก้ไขอย่างไรให้ได้ใช้ประโยชน์ ขนาดถนนเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ยังไม่มี ซึ่งมันสะท้อนว่าผู้ที่ก่อสร้างสถานที่ไม่ได้ต้องการจะเปิดใช้หรือไม่ เพราะหากต้องการเปิดใช้จริงถนนหนทางมันต้องมุ่งตรงมาที่นี่ แต่นี่คือถูกทิ้งร้างเลย” ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค ๙ กล่าว
นอกจากนี้ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค ๙ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากการพิสูจน์ความผิดนั้นมันแบ่งออกเป็นหลายช่วงเวลาจึงทำให้มีผู้บริหารระดับสูงของการอาชีวศึกษาถูกไต่สวนถึง 4 คนจาก 27 คน ที่ป.ป.ช.ถูกแจ้งข้อกล่าวหาซึ่งประกอบไปด้วยคนที่อนุมัติ คนที่เซ็นต์สัญญาและคนที่ขอแก้ไข ตลอดจนเจ้าหน้าที่ธุรการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องร่วมกันรับผิดทั้งทางแพ่งและอาญา ซึ่งจะต้องดูจากความเสียหายที่ได้รับการประเมินเป็นตัวเลขแล้วอีกครั้งหนึ่ง
ขณะที่ นายกิตติศักดิ์ กั่วพานิช ผอ.วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์คนปัจจุบัน กล่าวว่า แรกเริ่มเดิมที วิทยาลัยฯ เป็นเพียงเจ้าของสถานที่เท่านั้นงบประมาณก่อสร้างก็มาจากส่วนกลางหลังจากนี้อาจจะต้องมาดูกันว่าวัตถุประสงค์ของการใช้งานอควาเรียมว่าจะให้ดำเนินการต่อหรือเปลี่ยนวัตถุประสงค์หรือไม่เพื่อให้ประโยชน์ได้ ซึ่งขั้นตอนคือจะต้องมีการหารือในคณะรัฐมนตรีเนื่องจากแต่เดิมงบประมาณครั้งแรกมาจากสำนักงบประมาณ ซึ่งหากเดินหน้าต่อตามวัตถุประสงค์เดิมก็อาจจะใช้งบประมาณที่สูงและต้องมีเจ้าภาพในการจัดการและบูรณาการร่วมกันเพื่อเดินหน้าต่อไป
อย่างไรก็ตาม โครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา หรือ อควาเรียมหอยสังข์ ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ก่อสร้างบนพื้นที่ วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลาใช้วงเงินครั้งแรกกว่า 838 ล้านบาทมีการเพิ่มงบประมาณ เพื่อก่อสร้างอาคารอนุบาลสัตว์น้ำและพื้นที่โดยรอบ อีกเป็นเงินกว่า 381 ล้าน และของบประมาณเพิ่มเพื่อสร้างให้แล้วเสร็จอีก 286 ล้าน รวมเป็นประมาณทั้งสิ้น 1500 ล้านบาท โดยลงนามว่าจ้างบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเป็นผู้ก่อสร้าง สุดท้ายกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่ถูกทิ้งร้างใช้ประโยชน์ไม่ได้มากว่า 15 ปีแล้ว.