ระทึกกลางทะเล เรือเฟอร์รี่ข้ามเกาะช้างเครื่องดับ 31 ชีวิตลอยเคว้งกลางทะเล

17 กรกฎาคม 2566 ที่ จ.ตราด เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุระทึกกลางทะเล เมื่อเรือเฟอร์รี่ ที่ใช้ข้ามไปยัง เกาะช้าง ถูกอวนติดใบพัดเครื่องยนต์ดับ ต้องลอยเคว้งกลางทะเลนานหลายชั่วโมง โดยเรือลำดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารรวม 31 คน 

หลังจากได้รับแจ้ง ประสานขอความช่วยเหลือจาก ศรชล.ตราด ทางฐานส่งกำลังทหารเรือตราด ได้ส่ง เรือ ต. 263 กับ เรือ ต. 82  เข้าทำการช่วยเหลือนำนักท่องเที่ยว กลับเข้าฝั่งอย่างปลอดภัย ท่ามกลางทะเลที่มีคลื่นลมแรง โดยแต่ละคนมีสีหน้าอิดโรย แต่ก็ดีใจที่เดินทางเข้าฝั่ง ด้วยความปลอดภัย  

โดยเมื่อทั้งหมด เดินทางกลับมาถึง ฐานส่งกำลังทหารเรือตราด น.อ.วัชรพงษ์ ปรียานนท์ ผู้บังคับการฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด พร้อมทหารเรือจำนวน 10 นาย ได้นำรถบัสของฐานฯ มารับนักท่องเที่ยว และผู้โดยสารจำนวน 27 คน และเจ้าหน้าที่ประจำเรือเฟอร์รี่ 4 คน ของ บริษัท ตราดเฟอร์รี่ จำกัด แต่ผู้โดยสาร 1 คนและเจ้าหน้าที่เรือ ไม่ได้เดินทางมาด้วย 

ผู้โดยสารคนหนึ่งชื่อ นางมณฑการ ชอบชล ชาวตราดที่ทำงานอยู่ในอำเภอเกาะช้าง ที่เดินทางมาพร้อมกับหลานสาว เปิดเผยว่า พวกตนออกเดินทางตั้งแต่เวลา 07.00 น. ท่ามกลางคลื่นลมที่ไม่แรงนัก กระทั่งเวลา 08.00 น. เครื่องยนต์เรือดับโดยไม่สามารถเหตุ ได้รับแจ้งจากกัปตันเรือว่า ใบพัดเรือติดอวนของชาวประมง และพันจนเครื่องยนต์ไม่สามารถทำงานได้

ระหว่างนั้น ทั้งเจ้าหน้าที่ประจำเรือ และกัปตัน พยายามแก้ไข แต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายต้องเรียกเรือประมง มาช่วยดึงเรือเข้ามาฝั่ง แต่เชือกที่ผูกเมื่อดึงก็ขาด ประกอบกับคลื่นลมแรง จึงทำให้ลำบากยิ่งขึ้น กระทั่งใช้เวลานานหลายชั่วโมง มีเรือประมง 2 ลำมาช่วยแต่ก็ล่าช้า

สุดท้ายทราบว่า ทหารเรือได้นำเรือ 2 ลำ มาช่วยลำเลียงผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวกลับมายังฝั่ง ซึ่งใช้เวลากว่า 1.30 ชม. จึงมาที่ฐานฯ ตราดได้  ระหว่างนั้นต้องอยู่บนเรือเฟอร์รี่ ท่ามกลางคลื่นลมแรง และเรือก็ถูกคลื่นซัดห่างออกไปเรื่อย ๆ ด้วย 

น.อ.วัชรพงษ์ ปรียานนท์ ผู้บังคับการฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก ศรชล.ตราด จึงได้สั่งการให้ ผบ.เรือหลวงกันตัง นำเรือ ต. 263 กับ เรือ ต. 82 ที่อยู่ในหมวดเรือลาดตะเวนชายแดนภาค 1 (มชด./1) เข้าไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวและผู้โดยสาร จากเรือเฟอร์รี่โดยเร่งด่วน

แต่เนื่องจากคลื่นลมแรง จึงทำให้การช่วยเหลือ เป็นไปด้วยความลำบาก และได้รับแจ้งว่า มีทั้งผู้สูงอายุและเด็ก จึงได้เตรียมหน่วยแพทย์ไว้ ซึ่งสามารถช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัยทุกคน และทุกคนไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ 
 

เรือเอกภานุพงษ์ เกษมพิณ ผบ.เรือหลวงกันตัง กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นพบว่า ใบพัดของเรือเฟอร์รี่ มีอวนติดอยู่ ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว เมื่ออวนเข้าไปติดใบพัดของเรือ เรือจะไม่สามารถขับเคลื่อนได้ และจำเป็นต้องหยุดเครื่องยนต์ และจากสภาพที่คลื่นลมแรง ทำให้เรือหลุดลอยไป และติดโขดหิน หรือเกยตื้นได้

ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อผู้โดยสาร และนักท่องเที่ยว ทาง ศรชล.ภาค 1 และ ศรชล.ตราด ได้พิจารณาเห็นว่า มีเรือหลวง จากหมู่เรือลาดตะเวนชายแดน อยู่ในฐานส่งกำลังทหารเรือตราดอยู่แล้ว จึงตัดสินใจนำเรือออกไปช่วยเหลือ นักท่องเที่ยวและผู้โดยสาร
 

เรือโทจรินทร์ กลั่นมาก เจ้าหน้าที่ ศรชล.ตราด กล่าวว่า ได้รับแจ้งประสานขอความช่วยเหลือ จากผู้ประกอบการเรือเฟอร์รี่ประมาณ 09.00 น. ได้มีการวางแผนเพื่อให้การช่วยเหลือ แต่เนื่องจากสภาพอากาศคลื่นลมแรง จึงได้ทำการประสานมายังฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราดและ หมวดเรือลาดตะเวนชายแดน (มชด./1 ) ซึ่งทาง มชด./1 ได้มีการประสานงานที่จะนำเรือหลวงกันตัง เพื่ออกไปทำการช่วยเหลือ

แต่เนื่องจากเรือกันตังเป็นเรือใหญ่กินน้ำลึก ประกอบกับเรือเฟอร์รี่ ถูกลมพัดไปบริเวณชายฝั่งด้านบ้านยายม่อม ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ ที่อยู่ห่างจากท่าเรือเฟอร์รี่เซนเตอร์พอยท์ ประมาณ 5 กิโลเมตรแล้ว จึงเปลี่ยนนำเรือ ต. 2 ลำ ประกอบด้วย เรือ ต.263 และ เรือ ค.82 เข้าทำการช่วยเหลือแทน

และเมื่อเรือ ต.2 ลำไปถึง พบบนเรือมีผู้โดยสาร ที่เป็นชาวตราดส่วนใหญ่ ที่จะเดินทางลงไปทำงานบนเกาะช้าง รวม 31 คน ทางเจ้าหน้าได้แจ้งให้ขึ้นเรือ เพื่อกลับเข้าฝั่งก่อน แต่มีนักท่องเที่ยว 1 คน ที่ไม่ยอมขึ้นมากับเรือ ขออยู่ที่เรือเพราะเป็นห่วงทรัพย์สิน ทำให้มีนักท่องเที่ยวขึ้นเรือเข้าฝั่งมา 30 คน คงเหลือ เป็นไต๋เรือ ลูกเรือ และนักท่องเที่ยว 1 คน รวม 3 คนบนเรือเฟอร์รี่ 

ขณะที่ท่าเรือตราดเฟอร์รี่ ต.คลองใหญ่ อ.เเหลมงอบ เจ้าหน้าที่ของบริษัท กำลังวุ่นวายกับการประสานงาน ผู้โดยสารและญาติที่มารออยู่ที่ท่าเรือเ พื่อติดตามข่าวสาร พร้อมมีเจ้าหน้าที่ของ ศรชล.ตราด เดินทางมาติดตามสถานการณ์พร้อมเจ้าหน้าที่เจ้าท่าตราด ซึ่งขณะนี้เรือเฟอร์รี่ยังอยู่กลางทะเล ตรงข้ามบ้านยายม่อม ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ จ.ตราด ห่างจากท่าเรือระยะทางประมาณ  5 - 6 กม.