สาวถูกแก๊งโจ๋ฟันแขนขาด ฝืนใจขี่ จยย. มาป้อม ตร. หวังให้ช่วย แต่สิ้นใจก่อน

19 มีนาคม 2566 ที่ จ.นครสวรรค์ วานที่ผ่านมา (18 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.ไพศาลี อ.ไพศาลี หลังมีรายงานว่า ตำรวจสามารถติดตามจับกุม แก๊งวัยรุ่นที่รวมกลุ่มก่อเหตุ ใช้อาวุธมีดไปทำร้ายหญิงสาววัยรุ่น จนเสียชีวิต ขณะขี่ จยย. พาเพื่อนสาวรุ่นน้องกลับบ้านพัก เหตุเกิดเมื่อช่วงเที่ยงคืนวันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา บริเวณใกล้ตู้สายตรวจไดตาล พื้นที่หมู่ 1 ต.โคกเดือ 

คดีนี้ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ 14 คน เป็นเยาวชนที่กำลังเรียนชั้น ม.ปลาย รร.แห่งหนึ่งของพื้นที่ อ.ท่าตะโก ส่วนผู้เสียชีวิต คือ น.ส.สุวนันท์ แพไม้ หรือโบว์ อายุ 22 ปี เสียชีวิตจากการถูกอาวุธมีดฟัน เข้าที่หัวไหล่ข้างขวาจนเกือบขาด และทนพิษบาดแผลไม่ไหว สิ้นใจในจุดเกิดเหตุ โดยศพทางครอบครัวได้นำไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดหนองปล้องโพช ต.สายลำโพง อ.ท่าตะโก

จากการสอบปากคำของตำรวจ มีผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนหลายราย แต่พอจะทราบตัวผู้ก่อเหตุ ที่ใช้อาวุธมีดฟันแล้ว คือ "นายเปา" ซึ่งให้การอ้างว่า ได้ขี่ จยย. จากบ้านพักในพื้นที่ อ.ท่าตะโก พร้อมกับกลุ่มเพื่อนที่ถูกจับกุมทั้งหมด ไปเที่ยวงานงิ้วในพื้นที่ อ.ไพศาลี

ในช่วงขากลับบ้าน ได้นำมีดยาวที่พกมาด้วย นำมาแกว่งโชว์ไปมา ระหว่างที่ จยย. กำลังวิ่งด้วยความเร็ว จึงทำให้แกว่งไปโดนที่ไหล่ของ น.ส.สุวนันท์ อย่างแรง จนทำให้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตดังกล่าว แต่ทางตำรวจยังไม่เชื่อในคำให้การ
 

สอบถาม นายมนู พิมพา เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่มไทรไพศาลี เปิดเผยว่า ตอนที่ตนเดินทางเข้าจุดเกิดเหตุ พบ น.ส.สุวนันท์ นอนหายใจรวยริน เนื่องจากมีบาดแผลฉกรรณ์ จากของมีคมที่ฟันเข้าที่ไหล่ ยาวจนเกือบถึงคอ ทางกู้ภัยพยายามช่วยปั๊มหัวใจ แต่น้องเขาเสียเลือดมาก จึงไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้

สอบถามเพื่อนสาวของ น.ส.สุวนันท์ ที่มาด้วย ให้ข้อมูลว่า ขณะที่ผู้ตายขับขี่ จยย. ออกจากงานงิ้ว เพื่อพากลับบ้าน ก็ได้ไปเจอกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ระหว่างทาง จากนั้นเพียงไม่กี่วินาที น.ส.สุวนันท์ ที่กำลังขี่รถ จยย. ก็ถูกของมีคม กระทบร่างอย่างแรงจนเลือดโชก

แต่ น.ส.สุวนันท์ ยังแข็งใจ ทั้งที่ตัวเองบาดเจ็บหนัก รีบขี่รถ จยย. ไปยังป้อมตำรวจจุดสี่แยกไดตาล ที่อยู่ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 4 กม. เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่า เมื่อไปถึงไม่มีตำรวจอยู่ประจำป้อม เนื่องจากไปดูแลความสงบ ในงานงิ้วกันหมด กว่าจะรีบออกจากงานงิ้วมาถึง ก็ช่วยไม่ทันเสียแล้ว

 

ด้านญาติของกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งเป็นน้าชายของ "นายเปา" ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า พอรู้เรื่องว่า "นายเปา" ถูกจับ เพราะก่อเหตุใช้อาวุธมีดทำร้ายคนจนตาย ตนก็รีบมาโรงพักทันที เพราะต้องการจะถามว่า ไปก่อเหตุอย่างนั้นทำไม ทำไปเพื่ออะไร

ตอนนี้ก็ยังไม่ได้คุยกับหลาน เนื่องจากยังถูกสอบปากคำ และโดยส่วนตัวมองว่า หลานและกลุ่มเพื่อน น่าจะทำด้วย "ความคะนอง" เรื่องจากหลานและกลุ่มเพื่อน ที่ถูกจับทั้งหมด ยังมีอายุเพียงแค่ 16 - 17 ปีเท่านั้น และทั้งหมด ยังเรียนอยู่แค่ชั้น ม.4 
 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิด บนเส้นทางถนนสายไพศาลี-ท่าตะโก ซึ่งเป็นเส้นทางที่เกิดเหตุ พบว่า มีกล้องวงจรปิด ของอู่ตรวจสภาพรถแห่งหนึ่ง จับภาพไว้ได้ว่า มีกลุ่มแก๊งรถ จยย. ลักษณะคล้ายแต่งซิ่ง เนื่องจากแต่ละคัน มีความสูงของรถ ต่ำกว่ารถ จยย. แบบปกติ

ซึ่งในกล้องจะเห็นว่า มีการจับกลุ่มขี่วนเวียนไปมาด้วยความเร็ว แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า เป็นกลุ่มของผู้ก่อเหตุใช้มีดฟัน น.ส.สุวนันท์ หรือไม่
 

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ วัดหนองปล้องโพช สถานที่จัดงานศพ น.ส.สุวนันท์ พบว่า ครอบครัวรวมถึงญาติพี่น้อง ต่างเดิมทางมาร่วมพิธีรดน้ำศพ ด้วยความโศกเศร้าเสียใจ มีนางกัลยา แพรไม้ อายุ 47 ปี แม่ของ น.ส.สุวนันท์ เปิดเผยทั้งน้ำตานองหน้าว่า รู้สึกช็อกตกใจอย่างมาก หัวใจแทบสลาย ที่ต้องมาเสียลูกสาวไป เนื่องจาก น.ส.สุวนันท์ เป็นลูกสาวเพียงคนเดียว
 

นางกัลยา กล่าว่า ตนและลูกสาว อยู่ด้วยกันไม่เคยห่าง ปัจจุบันพักอาศัยอยู่ที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เนื่องต้องทำงานที่นั่น มีลูกสาวช่วยทำงาน แต่เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา ลูกได้ขอเดินทางกลับมาที่ อ.ท่าตะโก เพื่อมาร่วมงานวันเกิดเพื่นอ มีตนร่วมเดินทางกลับมาด้วย แต่ตนต้องรีบกลับเขาใหญ่ไปทำงานก่อน  

กระทั่งเมื่อตอนตี 1 มารู้ว่า ลูกสาวถูกฟันจนเสียชีวิต ก็ช็อกแบบล้มทั้งยืน ตอนนี้รู้สึกหัวใจสลายมาก จึงขอให้ทางตำรวจดำเนินคดี กับกลุ่มคนที่ทำลูกสาวอย่างเด็ดขาด ยืนยันไม่ให้อภัยอย่างแน่นอน ขอให้มันตายตามกรรมที่มันก่อไว้
 

ส่วนนางบังออน ทองแท่ง ป้าของ น.ส.สุวนันท์ ผู้เสียชีวิต กล่าวระบุว่า ได้เข้าไปสอบถามตำรวจ ถึงสาเหตุที่หลานสาวโดนฟันจนตายแล้ว ตนยิ่งอึ้งหนัก เพราะไม่เชื่อในคำให้การ ที่อ้างว่า แกว่งและเขวี้ยงมีดไปกลางถนน จนไปถูกหลานสาวตาย ด้วยความบังเอิญ เพราะฟังไม่ขึ้น และญาติทุกคนไม่เชื่อในคำให้การจึงขอให้ตำรวจเจ้าของคดี สอบปากคำอย่างละเอียด และทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาด้วย เพราะญาติ ๆ เริ่มชักจะไม่ไว้ใจแล้ว

ขณะที่ น.ส.จ๋า (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นผู้ซ้อนท้ายผู้ตาย แล้วมาประสบเหตุด้วยกัน ยืนยันว่า ขณะที่ตนซ้อนท้ายรถผู้ตาย เพื่อเดินทางกลับบ้าน ปรากฏว่า พบเจอกลุ่มผู้ก่อเหตุกลุ่มใหญ่ ยืนจับกลุ่มกันอยู่ที่ริมทางถนน ประมาณ 20 คน จอดรถ จยย. เรียงรายอยู่ริมทาง และเห็นว่า มีผู้ก่อเหตุคนหนึ่ง เดินถือมีดดาบยาวออกมาจากข้างทาง ก่อนจะเขวี้ยงใส่เข้ามากระแทกร่างของผู้ตาย

“วินาทีนั้น หนูเห็นกลุ่มพวกมันแต่ไกลแล้ว จึงรีบบอกพี่โบว์ ให้รีบเร่งรถขี่ไปให้พ้นจุดที่พวกมันอยู่ เพราะหนูกลัวว่า พวกมันจะตามมาทำมิดีมิร้าย แต่เมื่อพี่หนูเร่งเครื่อง ก็มีวัยรุ่นคนหนึ่ง ปรี่ออกมาจากข้างทาง  แล้วเขวี้ยงมีดดาบยาวสวนมาโดนพี่หนูทันที ตอนนั้นพี่หนูบอกกันหนูว่า โดนแต่ยังไม่รู้สึกเจ็บอะไร รู้สึกชา ๆ แต่หนูเห็นว่า ไหล่ของพี่เริ่มมีเลือดปลิวออกมา จึงรีบค่อมตัวพี่โบว์มาขี่รถต่ออีกประมาณ 4 กม. เพื่อไปขอความช่วยเหลือที่ป้อมตำรวจ แต่สุดท้ายพี่โบว์ก็สิ้นใจที่จุดนั้น”

น.ส.จ๋า ยังระบุด้วยว่า กลุ่มคนที่ทำร้ายพี่โบว์ เป็นแก๊งวัยรุ่น เพิ่งจะไปก่อเหตุทะเลาะวิวาท จนต้องขึ้นโรงพักเมื่อไม่นานมานี้ด้วย ส่วนสาเหตุคนที่ทำชื่อ "เปา" อ้างว่าทำไปเพราะเมาแค่นั้น และหลังจากตนได้ให้ปากคำกับตำรวจเสร็จ ปรากฏว่า ตำรวจก็มาบอกกับตนว่า อย่าไปบอกอะไรกับนักข่าวว่า เพราะมันจะเสียรูปคดี จึงทำให้ตนมองไม่ออกว่า เขาต้องการสื่ออะไร