svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

หนุ่มร้องทนายรณณรงค์ช่วย น้องชายถูกหมอศัลยกรรมขับเก๋งชนดับ แต่คดีไม่คืบ

12 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หวั่นไม่เป็นธรรม หนุ่มร้อง "ทนายรณณรงค์" ช่วย น้องชายถูกหมอศัลยกรรมขับเก๋งชนดับ ผ่านไปนานกว่า 3 เดือน แต่คดีไม่คืบ คู่กรณีไม่ยอมเจรจาเยียวยา ลั่นอยากได้ให้ไปฟ้องเอา

12 มีนาคม 2566 เมื่อเวลา 08.30 น. ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ นายเอกรัฐ ปรีจินดา อายุ 39 ปี พี่ชายผู้เสียชีวิต นำหลักฐานภาพ จากกล้องวงจรปิดวันที่เกิดเหตุ เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจาก ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม

กรณีที่ นายวิทยา ปรีจินดา อายุ 33 ปี น้องชาย อาชีพผู้รับเหมาไฟฟ้า ถูกนายธนเดช กลิ่นรส หมอศัลยกรรมแห่งหนึ่ง ขับรถยนต์เก๋งเฉี่ยวชนท้ายรถ จยย. ของนายวิทยา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่โรงพยาบาลตรัง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 65 ที่ผ่านมา 
หนุ่มร้องทนายรณณรงค์ช่วย น้องชายถูกหมอศัลยกรรมขับเก๋งชนดับ แต่คดีไม่คืบ
 

โดยนายเอกรัฐ เกรงว่า คดีดังกล่าวจะไม่คืบหน้าเนื่อง จากน้องชายของคู่กรณีเป็นตำรวจ และมีญาติทำงานอยู่ในกระทรวงธารณสุข นายเอกรัฐ กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่ที่กรุงเทพ ส่วนน้องชายอาศัยอยู่ที่ จ.ตรัง คืนเกิดเหตุ 26 ธ.ค. 65 ลูกของน้องชายไม่สบาย จึงขี่ จยย. ออกไปซื้อยา เวลาประมาณ 20.00 น. และเกิดเหตุถูกรถชนตอน 20.24 น. จุดเกิดเหตุห่างจากบ้านไม่ถึง 1 กม.

หลังเกิดเหตุตนไปขอดูกล้องวงจรปิดเอง เมื่อถามคู่กรณีบอกว่า มองไม่เห็น เขาก้มหยิบมือถืออยู่ ทำให้ชนท้ายรถ จยย. ของน้องชาย ดูจากกล้องวงจรปิด น้องตนจนขี่รถ จยย. คู่ไปกับ จยย. อีกคันและแซงขึ้นไป ก่อนรถคู่กรณีเข้ามาชนจากอีกเลน 
รถ จยย. ของผู้เสียชีวิต  

ทั้งนี้ จากกล้องรถ จยย. ของตนไม่ได้มีการตัดหน้า หรือออกมาจากจุดอับ รวมถึงรถของน้องชายมีไฟท้าย และถนนมีแสงสว่างชัดเจน จะมาบอกว่า มองไม่เห็นเป็นไปไม่ได้เลย รถ จยย. ไม่ได้เสียหายเยอะ แต่จากจุดชน รถไถลห่างไปอีกประมาณ 20 เมตร น้องชายกระเด็นไปตรงเกาะกลางถนน หัวกระแทกพื้นอาการสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา รวมถึงจุดเกิดเหตุเป็นหน้าโรงเรียน ไม่ควรขับรถเร็ว หลังเสียชีวิตได้งานศพของน้องชาย แต่คู่กรณีกลับไม่เคยมาร่วมงานเลย 
รถยนต์ของหมอที่เป็นคู่กรณี
 

นายเอกรัฐ กล่าวว่า คนชนเป็นหมอ อายุประมาณ 35 ปี ครอบครัวคู่กรณี จ่ายเงินมาให้ครั้งแรก 5,000 บาท คืนวันเกิดเหตุ และจ่ายอีก 50,000 บาท วันที่ทำศพ ครอบครัวของตนได้นัดเจรจาถึง 2 ครั้ง แต่ทางคนชนไม่ได้เสนอความรับผิดชอบอะไรอีกเลย เขาบอกให้ทางตนคำนวณค่าเสียหาย ซึ่งน้องตนเป็นผู้รับเหมา มีรายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท คำนวณแล้วถึงน้องชายอายุ 60 ปี รวมแล้วประมาณ 6 ล้านบาท เขาก็รับไปพิจารณา แต่พอมาเจรจาอีกรอบ คนชนบอกว่าไม่รับผิด ชอบถ้าอยากได้ให้ไปฟ้องเอา

นายเอกรัฐ กล่าวว่า ทางญาติได้ติดต่อไปเจรจาทางคนชน ก็ไม่ยอมคุย ตนคิดว่าเขาเป็นหมอ มีน้องชายเป็นตำรวจ ส่วนพ่อทำงานในกระทรวงสาธารณสุขจังหวัด เรื่องผ่านไปกว่า 3 เดือน แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า รถคนชนไม่มีประกัน มีแต่ พ.ร.บ.จ่าย 500,000 บาท

นอกจากนี้คนชนไม่เคยเจรจาอะไรอีกเลย ไม่คุยต่อ บอกแต่ว่า อยากได้ให้ไปฟ้องศาลเอา ศาลตัดสินเท่าไหร่ก็จ่ายเท่านั้น ตำรวจเรียกแล้วแต่ได้คำตอบว่า คนชนไม่ยอมปั๊มรายนิ้วมือ และเซ็นรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งน้องชายตนมีลูก มีค่าใช้จ่ายทุกวัน ถ้ายื้อไปเรื่อย ๆ ภาระต้องตกไปที่ภรรยาน้องชาย และพ่อแม่ตน จึงมาร้องขอความเป็นธรรม
หนุ่มร้องทนายรณณรงค์ช่วย น้องชายถูกหมอศัลยกรรมขับเก๋งชนดับ แต่คดีไม่คืบ  

ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า กรณีหมอศัลยกรรมที่ จ.ตรัง ขับรถชนน้องชายเขาตาย และไม่รับผิดชอบ ไม่มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งขัดกับระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องนี้ไม่ปกติ อีกทั้งวรรณะของหมอในต่างจังหวัด ถือว่าใหญ่ไม่ธรรมดา รู้จักไปหมด ผู้เสียหายกลัวว่า คดีนี้จะมีการวิ่งเต้น วันนี้จึงมาขอความเป็นธรรม

เรื่องนี้เกิดในพื้นที่ จ.ตรัง ทางครอบครัวจะต้องไปยื่นเรื่องที่ จ.ตรัง แต่แนะนำไปที่ สตช. เพราะคดีมีความล่าช้า จึงอยากวิงวอนไปถึงคู่กรณี ที่มีการอาชีพการงานดี ค่าเยียวยา 6,000,000 บาท เราไม่มีจ่ายเป็นก้อน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่รับผิดชอบเลย เพราะเขาเสียชีวิต
หนุ่มร้องทนายรณณรงค์ช่วย น้องชายถูกหมอศัลยกรรมขับเก๋งชนดับ แต่คดีไม่คืบ

logoline