svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

หนุ่มร้องทนายรณณรงค์ช่วย ถูกลูกพี่ลูกน้องตัวแสบ หลอกกู้แบงค์ 1.12 ล้าน

01 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เหลี่ยมทุกดอกแล้วบอกญาติกัน! หนุ่มร้องทนายรณณรงค์ช่วย ถูกลูกพี่ลูกน้องตัวแสบ เสนอตัวทำเรื่องกู้แบงค์ให้พี่ชาย วงเงิน 1 แสน แต่แอบกู้เพิ่มเป็น 1.2 ล้านบาท สุดท้ายความแตกหลังพี่ชาถูกฟ้องยึดบ้านขายต่อ

1 มีนาคม 66 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ นายวันชัย ฤกษมุณี อายุ 45 ปี พร้อมด้วยภรรยา นางสาวอนิลทิตา ยังสนอง อายุ 30 ปี พนักงานบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง เดินทางเข้าปรึกษาร้องเรียน และขอความเป็นธรรมกับ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอให้ช่วยเหลือในด้านคดี

หลังถูกน้องชายต่างมารดา ทำเอกสารนำไปกู้เงินธนาคารสีเขียว จำนวน 100,000 บาท แต่กลับแอบกู้เพิ่มเป็น 1 ล้าน 2 แสนบาท แล้วให้ตนมาเพียง 80,000 บาท ทำให้ตนเองถูกธนาคารฟ้องร้อง กล่าวหาว่า ใช้เอกสารปลอม

จนกระทั่งตำรวจกองปราบ มีหมายศาลให้ตนรับทราบข้อกล่าวหา ขณะที่กรมบังคับคดีก็ทำเรื่องเตรียมขายทอดตลาดบ้านของตนเอง ทำให้ตนเองและภรรยาพร้อมลูก ๆ อีก 3 คนรวมทั้งน้าชาย และน้าสาว 7 ชีวิต ต้องถูกออกจากบ้าน และยังไม่ทราบว่าจะไปอยู่ที่ไหน
หนุ่มร้องทนายรณณรงค์ช่วย ถูกลูกพี่ลูกน้องตัวแสบ หลอกกู้แบงค์ 1.12 ล้าน
 

นายวันชัย กล่าวว่า ตนต้องการกู้เงินธนาคาร 100,000 บาท เพื่อนำเงินมาดาวน์รถกระบะ เพื่อที่จะวิ่งส่งของ แต่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการทำเรื่องขอกู้เงิน จนกระทั่งถูก นายวรธน หรือ ต้น สิงหนาท  น้องชายต่างมารดา เข้ามาเจรจาพูดคุย และยืนยันว่า สามารถทำเรื่องขอกู้เงินจากธนาคารให้ตนเองได้ 100,000 บาท แต่ขอค่าดำเนินการ 20,000 บาท จงเป็นตนเองจึงตกลงให้นายต้น น้องชายไปทำเรื่องดำเนินการให้ที่ ธนาคารกสิกรไทย เมื่อปี 64 ที่ผ่านมา   

จนกระทั่งต่อมา ตนได้รับการติดต่อจากทางธนาคารสีเขียว สาขาหทัยราษฎร์ ให้ไปเซ็นชื่อรับเงิน จำนวน 100,000 บาท เมื่อถึงที่ธนาคารมีเจ้าหน้าที่หญิงบอก ให้ตนออกมารอข้างนอก เดี๋ยวจะนำเอกสารไปให้เซ็นรับทราบ ก่อนรับเงินจำนวน 80,000 บาท จากเจ้าหน้าที่ดังกล่าว และบอกว่าอีก 20,000 บาท หักไว้ให้กับนายต้นน้องชายของตน ตามที่ตนตกลงกับนายต้นไว้
หนุ่มร้องทนายรณณรงค์ช่วย ถูกลูกพี่ลูกน้องตัวแสบ หลอกกู้แบงค์ 1.12 ล้าน
 

แต่แล้วจู่ ๆ เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 64 ตนได้รับหมายศาลจากทางธนาคาร ที่ส่งมากล่าวหาว่า ตนใช้เอกสารหลักฐานปลอม เป็น Statement ยื่นไปกับธนาคาร ทำให้ธนาคารได้รับความเสียหายจำนวน 1,200,000 บาท และต้องถูกดำเนินคดี หากไม่มีการชดใช้เงินจำนวนดังกล่าว

ตนไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร บ้านก็กำลังจะถูกขายทอดตลาด ภรรยากับลูก รวมทั้งน้าชายน้าสาวและตน ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ขณะที่นายต้นน้องชาย บล็อกเฟซบล็อกโทรศัพท์มือถือตนกับภรรยา ไม่สามารถติดต่อได้

ทราบจากคนใกล้ชิดว่า นายต้น น้องชายมีฐานะความเป็นอยู่หรูหรา ขับรถยนต์ราคาแพง ซื้อบ้านตึกแถวอีกหลายคูหาในจังหวัดนครปฐม คาดว่าน้องชายคนนี้ แอบไปหลอกลวงผู้เสียหายรายอื่น ๆ อีกแน่ จึงอยากแจ้งเตือนไม่อยากให้มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อเหมือนตนเอง
หนุ่มร้องทนายรณณรงค์ช่วย ถูกลูกพี่ลูกน้องตัวแสบ หลอกกู้แบงค์ 1.12 ล้าน

ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า กรณีนี้เป็นกรณีที่สลับซับซ้อนมาก น้องชายเอาเอกสารปลอม มาหลอกให้พี่ชายเซ็น ก่อนนำเอกสารไปทำเรื่องยื่นกู้เงินกับธนาคาร แต่มันแปลกตรงที่ธนาคารไม่มีการตรวจสอบว่า พี่ชายไม่มีสเตทเม้นต์แต่กลับปล่อยให้กู้ได้ หลังจากนั้นจึงมาฟ้องดำเนินคดีกับเขาทางแพ่ง ก่อนมาดำเนินคดีอาญา

ต้องยอมรับว่า ผู้เสียหายได้เงินมาจริงแต่ได้น้อยมาก แค่ 80,000บาท จากยอดเงินกู้ 1.2 ล้านบาท หลังจากนี้จะให้ผู้เสียหาย เข้าไปแจ้งความดำเนินคดีกับน้องชายตัวเอง ในข้อหาลักลอบเข้าไปนำใช้ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์

ส่วน คดีฉ้อโกงไม่สามารถเอาผิดได้ เพราะหมดอายุความไปแล้ว อยากฝากเตือนประชาชน ที่คิดจะกู้เงินกับธนาคาร ถ้ารู้ตัวว่าเราไม่มีเอกสารอย่างเสตทเม้นท์ แล้วไปนำของคนอื่นมาใช้ แล้วมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง นั้นคือความผิดฐานใช้เอกสารปลอม ส่วนใครปลอมมาไม่รู้ แต่คนที่นำไปยื่นต้องรับโทษเท่ากับคนปลอม มีโทษจำคุก 5 ปี

อีกอย่างที่ต้องระวัง หลักฐานข้อมูลการทำธุรกรรมการเงินทางออนไลน์ อย่าได้นำไปให้คนอื่นดูหรือรู้เด็ดขาด เพราะว่าเขาสามารถนำไปขอขยายวงเงินกู้กับธนาคารได้ เหมือนกรณีนี้กู้แค่ 80,000 บาท กลายเป็นยอดเงินกู้ 1.2 ล้านบาท นี่ขนาดพี่น้องกันแท้ ๆ ยังทำกันได้
หนุ่มร้องทนายรณณรงค์ช่วย ถูกลูกพี่ลูกน้องตัวแสบ หลอกกู้แบงค์ 1.12 ล้าน

logoline