
10 มีนาคม 2566 ที่ จ.อุดรธานี จากกรณี “ทนายโนบิ” และ นายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือ “เฮียเปี๊ยก” จากเพจ เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย นำ น.ส.วาสนา โปวังสา อายุ 47 ปี ชาวอุดรธานี เข้าร้องขอความยุติธรรมต่อ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขาฯ รมว.ยุติธรรม ว่า นายสุวรรณ โปวังสา อายุ 47 ปี สามี ตกเป็นแพะ ในคดีใช้ยานพาหนะขนยาบ้า 198,000 เม็ด ที่ถูกจอดทิ้งไว้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 มี.ค. 64 และนายสุวรรณ ถูกจับกุมตามหมายจับเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการจับแพะ เพราะรถจักรยานยนต์ที่มียาบ้า มีชื่อนายสุวรรณเป็นผู้ครอบครอง แต่ลูกสาวเป็นผู้นำไปให้อดีตแฟนหนุ่มใช้ และวันเกิดเหตุ นายสุวรรณและลูกสาว ยังทำงานอยู่ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงมาขอความเป็นธรรมให้กับสามี และให้ตำรวจติดตามจับกุมผู้ต้องหาตัวจริง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ได้นัดหมายพบ นายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือ “เฮียเปี๊ยก” จากเพจ เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย พร้อมทนายความ นำ น.ส.วาสนา โปวังสา อายุ 47 ปี และ น.ส.พิม ลูกสาว เข้าพบที่ห้องศูนย์ปฎิบัติการ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อชี้แจงขั้นตอนปฎิบัติตามหน้าที่ ขั้นตอนแรกคือจับกุม เนื่องจากมีการล่อซื้อยาบ้าในพื้นที่ สภ.นาข่า และตรวจยึดจักรยานยนต์และยาบ้า 198,000 เม็ด
ขั้นตอนที่ 2 พนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน พบจักรยานยนต์เป็นของ นายสุวรรณ โปวังสา ผลการพิสูจน์ตรวจสอบยาเสพติด ยืนยันว่า เป็นยาบ้าจริง ได้ออกหมายเรียกให้มาพบ 2 ครั้ง แต่ไม่มา ตามวิสัยเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่หายไป โดยตำรวจยึดไว้ต้องมาแจ้งตำรวจ แต่กลับไม่มีการมาแจ้ง จึงเชื่อมีส่วนเกี่ยวข้อง จึงออกหมายจับ ขั้นตอนนี้ใช้ระยะเวลานาน จนมีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวน
พ.ต.อ.จามร กล่าวต่อว่า ก่อนมีการจับกุม ตำรวจได้พยานส่งฟ้องอัยการไปแล้ว ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำกลางอุดรธานี อำนาจในการสอบสวนของตำรวจไม่มีแล้ว แต่เนื่องจากมีการร้องเรียนไปอัยการสูงสุด จะต้องรอให้อัยการ สั่งให้มีการสอบเพิ่มเติม พนักงานจึงจะมีอำนวจ ลงไปสอบสวนได้ ขณะนี้ยังคงรอคำสั่งของอัยการอยู่ จนถึงขณะขบวนการได้แบ่งออกเป็น 3 ส่วน
ส่วนของการสอบสวน เป็นพนักงานสอบสวนของ สภ.นาข่า และ สภ.เมืองอุดรธานี , ส่วนที่ 2 คือ การตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ของตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี และตำรวจภูธรภาค 4 , ส่วนที่ 3 การสอบสวนพยานหลักฐาน เพื่อติดตามคนร้ายตัวจริงมาดำเนินคดี แต่ต้องอยู่ที่พยานและหลักฐานด้วย ซึ่งขณะนี้นายสุวรรณ ยังคงเป็นผู้ต้องหาอยู่
ส่วน น.ส.พิม ลูกสาวนายสุวรรณ ซึ่งเป็นคนใช้รถจักรยานยนต์ เล่าว่า ตนคบกับแฟนหนุ่ม ซึ่งเป็นชาว ต.กุดสระ อ.เมือง จ.อุดรธานี และไปอยู่ที่บ้านแฟน นำรถจักรยานยนต์ไปด้วย แฟนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป และมีพฤติกรรมชอบดื่มเหล้า เสพยา ตามประสาวัยรุ่น โดยแฟนจะนำรถจักรยานยนต์ของตนไปใช้ ส่วนตนจะขายของที่บ้าน ไม่รู้ว่าแฟนเอารถไปทำอะไร
ส่วนวันเกิดเหตุอ้างว่า เพื่อนรุ่นพี่ยืมรถไปใช้ ตนบอกให้เลิกเสพยา แต่ก็ไม่เลิก ไม่ปรับปรุงตัว จากนั้นก็ได้เลิกกันไป วันที่พ่อถูกจับ ก็ได้ไปหาอดีตแฟนที่บ้าน และทราบว่าอดีตแฟน ไปอยู่กับภรรยาใหม่ที่ จ.หนองบัวลำภู
จากนั้น นายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือ “เฮียเปี๊ยก” ได้มอบหลักฐาน ยืนยันการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และการทำงานด้วยการสแกนลายนิ้วมือของนายสุวรรณ โดย นางวาสนา เปิดเผยความรู้สึกว่า ซึ่งหลังจากได้ฟังชี้แจงแล้ว รู้สึกใจดีขึ้น ทุกหน่วยงานก็ได้ช่วยกัน เพื่อติดตามหาผู้ต้องหาตัวจริง แต่ติดใจเรื่องสำนวน เรื่องไปซุ่มจับสามี ซึ่งตนได้บนบานกับ หลวงพ่อกวย จ.ชัยนาท และ หลวงพ่อรวย จ.พระนครศรีอยุธยา ด้วยขนมจีน และอยากฝากถึงนายสุวรรณสามีว่า คนในขอให้สู้ ทำใจให้เข้มแข็ง เพราะคนนอกสู้เต็มที่ และจะสู้ถึงที่สุด