
2 มีนาคม 2566 เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายกฤษฎา โลหิตดี หรือ “ทนายโนบิตะ” พร้อมด้วย นายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือ “เฮียเปี๊ยก” จากเพจเฟซบุ๊ก "เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย" พา นางวาสนา โปวังสา อายุ 47 ปี เข้าพบ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม เพื่อขอความเป็นธรรมกรณี นายสุวรรณ โปวังสา อายุ 42 ปี สามี ตกเป็นแพะ ถูกจับในข้อหา ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 198,000 เม็ด โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนก่อเหตุ
นายกฤษฎา เปิดเผยว่า สืบเนื่องเมื่อวันที่ 7 มี.ค.2564 ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ย่อยนาข่า จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งว่ามีการนัดส่งยาเสพติดในบ้านหลังเกิดเหตุ แต่ปรากฏว่าคนร้ายไหวตัวหนีทันและทิ้งรถจักรยานยนต์ พร้อมของกลางยาบ้า 1.9 แสนเม็ด ตำรวจได้นำ รถจยย. ไปตรวจค้นชื่อเจ้าของเป็นชื่อ นายสุวรรณ โปวังสา ทั้งๆ ที่ นายสุวรรณ ทำงานรับเหมาเกี่ยวกับเสาเข็มที่โรงงานแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่ปี 2548 และไม่เคยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่เกิดเหตุ
นายกฤษฎา เปิดเผยว่า ต่อมา ช่วงปี 2565 นายสุวรรณ มีสุขภาพร่างกายไม่ค่อยดี จึงลาออกจากงานกลับไปอยู่บ้าน จ.บึงกาฬ จนกระทั่ง วันที่ 21 ก.พ.2566 ตำรวจเดินทางไปจับกุม นายสุวรรณ ขณะกำลังสร้างบ้านหลังใหม่ ในข้อหา “ครอบครองยาเสพติด” โดยหมายจับออกเมื่อวันที่ 27 ม.ค.2566 เพียงแค่เดือนเดียว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องออกหมายเรียก นายสุวรรณ นำหลักฐานชี้แจงเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์เพราะในวันที่ 5 มี.ค.2564 มีภาพถ่ายเขากินเลี้ยงงานฉลองวันเกิดของเจ้าตัวอยู่เลย หรือวันที่ 8 มี.ค.2564 เขายังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอยุธยาด้วยโรคนิ่วในท่อปัสสาวะ เป็นต้น
ด้าน นางวาสนา กล่าวว่า ปกติ สามีทำงานอยู่ จ.พระนครศรีอยุธยา และจากการสอบถามตำรวจชุดจับกุมบอกว่า นายสุวรรณ จะใช้รถจักรยานยนต์ส่งยาเสพติดในพื้นที่ และในวันเกิดเหตุอ้างว่าเห็นสามีวิ่งหนีเลยยึดได้เพียง รถจักรยานยนต์พร้อมยาเสพติด กระทั่งออกหมายจับและมีการจับกุม ซึ่งจริงๆแล้ว รถคันดังกล่าวเป็นชื่อของสามีจริง แต่ส่งมาให้ลูกสาวและอดีตลูกเขยใช้ที่ จ.อุดรธานี
"ตอนแรกก็ไม่รู้ว่า รถจักรยานยนต์ ที่ส่งมาให้ใครเป็นคนใช้ขับขี่บ้าง พอสอบถามกับลูกสาวก็รู้ว่า อดีตลูกเขยเคยนำ รถไปใช้และมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด"
สำหรับบ้านจุดที่เกิดเหตุตามที่ตำรวจกล่าวอ้างจับกุมที่บ้านโนนยาง ต.กุดสระ อ.เมือง จ.อุดรธานี นั้นสามีเคยเดินทางมาเยี่ยมลูกสาวครั้งเดียว ซึ่งก็นานมาแล้วก่อนเกิดเหตุ
นางวาสนา กล่าวอีกว่า ระหว่าง สามีถูกจับถูกขังในคุก สภ.ย่อยนาข่า ตนได้ไปเยี่ยม ซึ่งสามีมีการสั่งเสียโดยบอกให้ดูแลลูกสาวให้ดี สามีไม่อยากมีชีวิตอยู่ แล้วคิดสั้นผูกคอในห้องขังแต่ช่วยชีวิตได้ทัน เพราะคิดน้อยใจไม่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทำให้วันนี้เดินทางมาขอความช่วยเหลือที่กระทรวงยุติธรรม
ส่วนทาง ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต เผยว่า เบื้องต้นประสานให้ สำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุดรธานี และ ป.ป.ส. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพราะพบว่าเรื่องไทม์ไลน์ไม่สอดคล้องกัน พร้อมมอบหมาย กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ช่วยเหลือเรื่องการประกันตัว หากไม่ผิดจริงจะมีการช่วยเหลือด้านการเยียวยาตามสิทธิ์
ส่วนประเด็น รถจักรยานยนต์คันก่อเหตุที่เป็นชื่อ นายสุวรรณ คาดว่าเป็นคนในครอบครัวให้บุคคลอื่นนำไปใช้ อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างต้องทำตามขั้นตอนพยานหลักฐานทั้งหมด โดยขณะนี้ขั้นตอนอยู่ชั้นพนักงานอัยการดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน ทนายโนบิตะ ได้ยื่นคำร้องไต่สวนต่อศาลจังหวัดอุดรธานีเพื่อขอให้มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฝากขัง และเร่งรวบรวมพยานหลักฐานในการยื่นขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการจังหวัดอุดรธานีเพื่อให้มีคำสั่งไม่ฟ้องในคดีอาญา และสืบหาบุคคลที่เป็นผู้กระทำผิดตัวจริงมารับโทษตามกฎหมาย