svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

ผอ.โรงเรียน ชี้แจง ม.1 ถูก ม.3 บังคับสูบกัญชา-หวิดดับ ยืนยันไม่ได้ละเลย

10 กุมภาพันธ์ 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

โรงเรียน ในจังหวัดลพบุรี ชี้แจง กรณีแม่ของนักเรียน ม.1 ร้องเพจสายไหมต้องรอด ระบุ ลูกชายถูกรุ่นพี่ ม.3 บังคับสูบกัญชาในห้องน้ำโรงเรียน ก่อนหมดสติ-หามส่งรพ. ยืนยันไม่ได้ละเลย มีการติดตามสอบถามอาการต่อเนื่อง ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว

10 กุมภาพันธ์ 2566 จากกรณี นางวันนิสา (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี แม่ของด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี เด็กนักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.ลพบุรี เข้าร้องเรียนกับเพจ "สายไหมต้องรอด" ระบุว่า ลูกชายถูกรุ่นพี่ ม.3 บังคับให้สูบกันชาภายในห้องน้ำของโรงเรียน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา จนทำให้หมดสติ และมีอาการหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ จนต้องหามส่งโรงพยาบาลรักษาตัวนาน 5 วัน แต่ทางโรงเรียนกลับอ้างนักเรียนเป็นคนสูบเอง ไม่ได้มีการบังคับ นั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  ผอ.โรงเรียน ชี้แจง ม.1 ถูก ม.3 บังคับสูบกัญชา-หวิดดับ ยืนยันไม่ได้ละเลย

ล่าสุด นายสำรวย วัฒนวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในจ.ลพบุรี พร้อมผู้บริหารที่รับผิดชอบ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า เบื้องต้นได้ทำการสอบถามนักเรียนทั้งผู้เสียหายและผู้ที่ถูกกล่าวอ้างแล้ว 

ทราบจาก ด.ช.เอ (นามสมมติ) เล่าว่า วันเกิดเหตุ เป็นเวลาเที่ยงพักทานอาหารกลางวัน หลังทานเสร็จน้องรู้สึกปวดท้องอยากจะเข้าห้องน้ำ จึงได้วิ่งไปเข้าห้องน้ำ จนได้มาเจอรุ่นพี่ ม.3 สองคน ที่กำลังสูบกัญชากันอยู่ และได้เรียกให้เข้าไปหา น้องไม่อยากไปจึงอ้างไปว่าจะต้องขึ้นห้องเรียนแล้ว ก่อนรุ่นพี่จะพูดจาบังคับและดึงตัวเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะยื่นบ้องกัญชาให้พร้อมกับยัดกัญชาลงไปในปากบ้อง และบังคับให้ดูดจนสำลักไป จำนวน 2 ครั้ง และปล่อยให้กลับขึ้นห้องไป 

ตอนนั้นน้องอาการเริ่มจะไม่ไหวแล้ว พอไปถึงห้องเรียนก็ได้ไปฟุบตัวอยู่ที่ขาของเพื่อนและขอน้ำดื่ม ก่อนจะอ้วกออกมา เพื่อนๆจึงพาตัวไปนอนอยู่หลังห้องเรียน ก่อนจะมารู้ตัวอีกที คือ ตอนที่คุณครู กำลังช่วยทำ CPR เพื่อปั๊มหัวใจ และได้โทร.ไปที่ 1669 ให้มารับตัวน้องโรงพยาบาล จากนั้น ได้โทร.แจ้งผู้ปกครองของน้องว่าน้องเป็นอะไรไม่รู้ตัวเหลือง และหมดสติ หัวใจหยุดเต้น ทำให้แม่ตกใจรีบเดินทางไปที่โรงเรียน ก่อนคุณครูจะแจ้งว่าน้องหมดสติย้ายน้อง ไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลแล้ว

ภาพขณะนางวันนิสา (สงวนนามสกุล) แม่ของด.ช.เอ (นามสมมติ) ร้องเพจสายไหมฯ  

จากนั้น ทางคุณแม่จึงได้ไปที่โรงพยาบาล และได้พูดคุยกับครูและแพทย์ โดยแพทย์ให้ทางคุณแม่ เฝ้าดูอาการน้องอย่างใกล้ชิด เพราะเคสนี้เสี่ยงหัวใจวายเฉียบพลันมาก   

ซึ่งทางคุณแม่ กล่าวว่า ด.ช.เอ ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 5 วัน ตลอดระยะเวลาที่อยู่โรงพยาบาล ทางโรงเรียนไม่เคยติดต่อมาเพื่อสอบถามอาการเด็กเลย มีแต่แม่ที่ติดต่อไปหาโรงเรียนเอง หลังโทรติดต่อไปก็มี ผอ. นำกระเช้ามามอบให้ในวันอาทิตย์ และก็เงียบหายไป ก่อนจะติดต่อมาในวันที่น้องออกจากโรงพยาบาลพอดี และกลับคำพูดกับคุณแม่ว่า น้องไม่ได้ถูกบังคับ แต่น้องไปซื้อกัญชามาจากเด็ก ม.2 และเต็มใจสูบเองพร้อมอุปกรณ์ก็เป็นของน้องเอง  

โดยทางคุณครูอ้างว่า ได้สืบหาข้อมูลภายในโรงเรียน และหลักฐานจากกล้องวงจรปิดห้องน้ำ โดยเห็นน้องวิ่งเข้าไปอ้วก โดยมีเด็กอีกคนมาลูบหลังให้ และได้ไปสอบถามเด็กที่ลูบหลัง โดยไม่รู้เลยว่าเด็กที่ลูบหลังนั้น เป็นคนเดียวกับที่บังคับน้องสูบกัญชา และเด็กคนนั้นอ้างว่าน้องเป็นคนผิด โดยทางโรงเรียนไม่เคยมาสอบถามพูดคุยกับน้องเลยสักครั้ง แต่ทางโรงเรียนดันมาปักใจเชื่อว่าน้องผิดได้ยังไง  

ผอ.โรงเรียน ชี้แจง ม.1 ถูก ม.3 บังคับสูบกัญชา-หวิดดับ ยืนยันไม่ได้ละเลย

คุณแม่
จึงนำหลักฐานแชตที่ด.ช.เอ ถูกรุ่นพี่สองคน ส่งข้อความมาขู่ว่าให้ยอมรับไปคนเดียวและไม่ได้ถูกบังคับให้สูบ และรับว่ากัญชาเป็นของน้อง และน้องเสพแต่เพียงผู้เดียว  คุณแม่ไม่อยากให้ทางโรงเรียนปัดความรับผิดชอบทิ้ง และกลัวน้องๆไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมาร้องเพจสายไหมต้องรอด ให้ช่วยเหลือ

ผู้อำนวยการโรงเรียน

ทางโรงเรียนจึงขอชี้แจงว่า เราได้ส่งครูไปติดต่อสอบถามอาการน้องและพูดคุยตลอด จนกระทั่ง น้องออกจากโรงพยาบาลวันนี้เราก็ยังโทรติดต่อแต่ทางผู้ปกครองยังไม่รับสาย ความจริงแล้วทางโรงเรียนไม่ได้ละเลยได้ติดตามช่วยเหลือ และได้นำกระเช้าไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลและส่งครูไปติดตามสอบถามอาการอย่างต่อเนื่อง 

ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วและเบื้องต้นได้พูดคุยกับรุ่นพี่สองคนแล้ว บอกว่าไม่ได้บังคับเพียงชักชวนก็ตามไป ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดก็เห็นตอนน้องออกมาจากห้องน้ำแล้วมาอาเจียน ส่วนตอนสูบกัญชาในห้องน้ำไม่เห็น เพราะข้อจำกัดของกล้องวงจรปิดไม่สามารถติดตั้งในห้องน้ำได้

ด้าน คุณครูที่รับผิดชอบห้องพยาบาลของโรงเรียน เปิดเผยถึงอาการของน้องเบื้องต้นว่า ได้รับแจ้งว่าน้องมีอาการอาเจียนและหมดสติจึงได้ไปตรวจสอบ และพบว่าน้องมีอาการช็อกหมดสติ จึงรีบช่วยเหลือปั้มหัวใจและรีบติดต่อโรงพยาบาลมารับตัวน้อง และได้โทร.แจ้งผู้ปกครองให้ทราบ มาเจอกันที่โรงพยาบาลและอยู่ดูอาการน้องกับได้พูดคุยกับผู้ปกครองตลอดเวลาถึงอาการน้อง จนหมอแจ้งว่าน้องอยู่ในอาการที่ต้องเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด

ผอ.โรงเรียน ชี้แจง ม.1 ถูก ม.3 บังคับสูบกัญชา-หวิดดับ ยืนยันไม่ได้ละเลย

ผู้อำนวยการโรงเรียน และหัวหน้างานอนามัยโรงเรียน ครูที่รับผิดชอบสอน และรักษา ฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ปกครองต้องช่วยกันดูแล และให้ความรู้ถึงการเข้าหายาเสพติด ทั้งยาบ้า กัญชา เป็นสิ่งที่เป็นอันตรายไม่ควรเข้าไปทดลอง หรือยุ่งเกี่ยว โดยเฉพาะกัญชาที่เป็นของใหม่ถึงจะปลดล็อก แต่ใช้ทางการแพทย์เท่านั้น ไม่ได้ใช้เสรีทั่วไป 

ทางโรงเรียนก็มีมาตรการเข้มงวดตรวจเด็กอยู่ตลอด โดยเฉพาะเด็กกลุ่มเสี่ยง เราจะติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เคยตรวจพบอุปกรณ์และยาเสพติด ทางโรงเรียนก็ทำโทษตามมาตรการของโรงเรียนเท่าที่มีข้อบังคับ คือ ลงโทษตัดคะแนนความประพฤติ

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยังผู้ปกครองและนายเอกภพ แจ้งว่าจะพา ด.ช.เอ และแม่ไปแจ้งความ ที่สภ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี เวลา 16.00 น.วันนี้ (10 ก.พ.2566) และจะติดต่อให้สำนักงานเขตการศึกษาจังหวัดลพบุรี ลงมาตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจังด้วย

logoline