19 มกราคม 2566 ภายหลังตำรวจนำกำลังเข้าจับกุม น.ส.พัชรา (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชีชำนาญงานเทศบาลตำบลลาดยาว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ในความผิด “เป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และ เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” ได้ภายในห้องประชุมเทศบาลตำบลลาดยาว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ต่อมา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากทาง ป.ป.ท. ได้การร้องเรียนให้ช่วยตรวจสอบเรื่องดังกล่าว จึงมีการประสานความร่วมมือกับทางตำรวจและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง จนเกิดเป็นการบูรณาการกำลังร่วมกันสืบสวนสอบสวนตามจับกุมผู้กระทำผิด
จากแนวทางสืบสวนพบมีการกระทำผิดจริง มีการเบิกเงินออกไปทุกวันๆละ 2-3 แสนบาท ส่วนการดำเนินการกับผู้ต้องหา หลังจากนี้ จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้กระทำผิด ส่วนจะมีใครเกี่ยวข้องเพิ่มเติมหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากพบดำเนินคดีไม่มีข้อยกเว้น อยากฝากไปถึงผู้ที่คิดจะกระทำผิด อยากให้ตระหนักว่าอัตราโทษคดีลักษณะดังกล่าวค่อนข้างสูง มีตั้งแต่จำคุก 5ปี ถึง 20 ปี หรือตลอดชีวิต
ส่วนคำให้การของผู้ต้องหาที่อ้างว่า สาเหตุหลักมาจากติดพนันออนไลน์ กู้เงินนอกระบบจากแอพเงินกู้ออนไลน์ ทำเพียงคนเดียว นั้นก็สิทธิของผู้ต้องหา แม้จะมูลความจริงอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อทั้งหมด หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียดว่า มีการโยกย้ายไปที่ใดบ้าง รวมถึง เร่งสอบปากคำพยานต่างๆ ตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์ ส่วนเรื่องเว็บพนันออนไลน์ และ แอปฯเงินกู้นั้น เบื้องต้นได้รายงานให้ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรับทราบแล้ว และ จะมีการขยายผลต่อเนื่อง มีการประสาน ป.ป.ง. เข้ามาช่วยตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ
ขณะที่ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 สำนักงาน ป.ป.ท. เปิดเผยว่า การทุจริตของผู้ต้องหาแม้จะเป็นเพียงเจ้าหน้าที่รายเล็ก แต่สามารถสร้างความเสียหายให้แก่ภาครัฐได้เป็นอย่างมาก แค่ภายในปีเดียวสามารถทุจริตเงินรัฐได้มากถึง 15 ล้านบาท และ ใช้เวลาเพียงแค่ 3 เดือน ยักยอกเงิน 13 ล้านบาท โดยใช้วิธีการทุจริตผ่านระบบออนไลน์ธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งเคสนี้เป็นเคสพิเศษเป็นเคสแรกที่จับกุมได้
"หลังจากนี้ เราจะใช้เคสนี้เป็นโมเดลในการปราบปรามทุจริตลักษณะเดียวกันขององค์กรส่วนท้องถิ่นอื่นๆ ที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 7,000 แห่ง ซึ่งขณะนี้ตรวจพบการทุจริตลักษณะนี้แล้วประมาณ 7 จังหวัด เสียหายรวมกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้จะมีการร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบแก้ไขและปราบปราม” พ.ต.ท.สิริพงษ์ กล่าว
ขณะที่ นางพรเพชร เขมวิรัตน์ รองผู้ว่าจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า จากเรื่องที่เกิดขึ้นทางจังหวัดไม่นิ่งดูดาย สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมา ส่วนการลงโทษทางวินัยยืนยันว่ามีแน่นอนแต่จะถูกลงโทษอย่างไรบ้างนั้นจะชี้แจงให้ทราบในภายหลัง หลังจากที่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้น
ด้าน นายสุภาพ ศักดิ์สัจจา นายกเทศมนตรีตำบลลาดยาว กล่าวว่า เหตุที่ไม่ทราบว่า น.ส.พัชรา กระทำการทุจริตดังกล่าว เพราะมีการปลอมแปลงเอกสารเพื่ออำพรางความผิดปกติ จนกระทั่ง มาทราบเรื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการตรวจสอบขั้นตอนการทำธุรกรรมต่างๆอย่างละเอียดให้มากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นมาอีก