19 มกราคม 2566 เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พร้อมด้วย นางพรเพชร เขมวิรัตน์ รองผู้ว่าจังหวัดนครสวรรค์, พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2, สำนักงาน ป.ป.ท. นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ บก.ปปป. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช., ป.ป.ท., ป.ป.ง. เข้าจับกุม น.ส.พัชรา (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชีชำนาญงานเทศบาลตำบลลาดยาว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ในความผิดฐาน "เป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และ เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ" ได้ภายในห้องประชุมเทศบาลตำบลลาดยาว
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบความผิดปกติของเงินกองคลังเทศบาลตำบลลาดยาว หลังพบมีเงินรั่วไหลจากการเบิกถอนเงินในบัญชีธนาคารเทศบาลโดยไม่ทราบวัตถุประสงค์ ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 17 มกราคม 2566 จำนวน 215 ครั้ง รวมเป็นเงิน 15,867,275.49 บาท จึงจัดกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ
จนทราบว่า น.ส.พัชรา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบัญชีชำนาญงานเทศบาลตำบลลาดยาว รับผิดชอบเกี่ยวกับการเบิกถอนเงินงบประมาณและเงินต่าง ๆ ของเทศบาล ได้ทำการยักยอกเงินทั้งหมดดังกล่าวไปใช้จ่ายส่วนตัว โดยใช้ช่องโหว่จากการที่เป็นคนถือรหัสพิน สามารถเบิกถอนเงินออกจากธนาคารได้ ซึ่งจากการกระทำดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับรัฐและทางธนาคารเป็นอย่างมาก จึงนำกำลังเข้าทำการจับกุมตัวดังกล่าว พร้อมกับเชิญตัวพยานบุคคลอีก 3 รายมาสอบปากคำในฐานะพยาน รวมถึงเข้าตรวจค้นบ้านพักของ น.ส.พัชรา เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม
สอบสวน น.ส.พัชรา เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า นำเงินดังกล่าวไปใช้หนี้ที่กู้มาจากแอปฯ เงินกู้ออนไลน์ ซึ่งมีหลายเจ้าจึงทำให้หมุนเงินไม่ทัน ประกอบกับมีการส่งภาพคลิปวิดีโอข่มขู่ฆ่าจนเกิดความหวาดกลัว จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวเพื่อเร่งนำเงินไปใช้หนี้ พร้อมยอมรับว่าทำเพียงคนเดียว ไม่เกี่ยวกับสามี หรือ หัวหน้าหน่วยงานคนอื่น ๆ ส่วนสาเหตุที่ต้องกู้เงินจากแอปเงินกู้ออนไลน์ดังกล่าว เนื่องจากตนเองติดพนันออนไลน์
ด้าน พ.ต.ท.สิริพงษ์ กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวเป็นแค่ส่วนหนึ่งเพียงเท่านั้น เพราะจากการตรวจสอบข้อมูลการเงินหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ทั่วประเทศ พบมีเงินรั่วไหลออกจากระบบโดยไม่ทราบวัตถุประสงค์รวมกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากการการยักยอกเงินในลักษณะเดียวกันของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานนั้น ๆ จนสร้างความเสียหายให้กับรัฐเป็นอย่างมาก
โดยหลังจากนี้จะมีการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องขยายผลตรวจสอบการเงินงบประมาณต่าง ๆ ของหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นแต่บะแห่งอย่างละเอียด เพื่อติดตามเงินที่ถูกยักยอกไปกลับคืนมา และ ป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก