เจอแล้วพระใช้ค้อนทุบหัวสาว 17 ผูกคอปลิดชีพหนีความผิด

14 มกราคม 2566 ความคืบหน้า กรณี พระอุทิศ หรือ นายอุทิศ หลักทอง อายุ 56 ปี พระลูกวัดบ้านนาแก ต.ระเว อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ใช้ค้อนตีศรีษะของ น.ส.เอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี จนบาดเจ็บสาหัส และนำรถ จยย. น.ส.เอ๋ หลบหนีไปทาง อ.ศรีเมืองใหม่ ต่อมาตำรวจได้ออกหมายจับ ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น และลักทรัพย์ พร้อมส่งหมายจับไปตามสถานีตำรวจ ตามแนวชายแดน พร้อมประสานตำรวจประเทศเพื่อนบ้าน ช่วยจับตัวส่ง แต่ยังไร้วี่แวว ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• พระหื่น! ออกอุบายจ้างสาว 17 ปี ซักจีวร ก่อนใช้ค้อนทุบหัวลากเข้ากุฏิ
• ชาวบ้านแฉพระทุบหัวสาว 17 ปีเมืองอุบลฯ ติดหนี้ทั่วหมู่บ้าน

ล่าสุด พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ ศรีบุตตะ ผกก.สภ.พิบูลมังสาหาร ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบศพนายอุทิศ ผูกคอตายใต้ต้นตะแบก กลางป่าทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ของบ้านนาแก ห่างจากวัดประมาณ 2 กม. จึงรุดเข้าตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 

ที่เกิดเหตุพบศพนายอุทิศ ที่ยังใส่อังสะทับเสื้อไหมพรมแขนยาว สวมสบง และหมวกไหมพรม ใช้เชือกทำจากผ้า โยงกับกิ่งต้นตะแบก แล้วผูกกับคอตัวเอง คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน ตามตัวไม่มีบาดแผลถูกทำร้าย และศพอยู่ในสภาพขึ้นอืดแล้ว

จากการตรวจสอบอย่างละเอียด ห่างจากจุดที่พบศพ ไปทางหนองน้ำประมาณ 400 เมตร พบรองของผู้ตายข้างหนึ่ง อยู่ริมหนองน้ำ ส่วนอีกข้างลอยอยู่ในน้ำ จึงลงงมดู ก็พบรถ จยย. ของ น.ส.เอ๋ ที่นายอุทิศเอาไปหลังก่อเหตุ จึงนำขึ้นจากน้ำ มาประกอบหลักฐานการพบศพ


 

นายเหรียญ เครือเนตร เจ้าของนาใกล้ที่พบศพ เล่าว่า วันนี้ตนเอาวัวมาล่ามเลี้ยง ใกล้ป่าที่เกิดเหตุตั้งแต่เช้า กระทั่งบ่ายจะเดิมข้ามทุ่งนา ไปเกี่ยวหญ้ามาให้วัวกิน ทำให้ได้กลิ่นเหม็น ตอนแรกนึกว่า เป็นกลิ่นหนูตาย แต่พอสุนัขที่เลี้ยงไว้ วิ่งเข้าไปตรงจุดที่มีกลิ่น ก็เห็นกลุ่มแมลงวันบินแตกออกมา จึงมองเห็นเป็นศพนายอุทิศ และรีบโทรศัพท์แจ้งผู้ใหญ่บ้าน 

นายนพรัตน์ แสนทวีสุข ผู้ใหญ่บ้าน และน้องเขยที่เป็นญาติของนายอุทิศ ยืนยันศพว่า เป็นนายอุทิศจริง และญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต คาดว่า หลังนายอุทิศก่อเหตุ คงกลัวความผิด และได้ประกาศไว้ตั้งแต่วันก่อเหตุว่า จะไปฆ่าตัวตาย ทำให้เชื่อว่า นายอุทิศฆ่าตัวเอง ไม่มีใครทำให้ตาย จึงขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลเย็นวันนี้ และจะทำการเผาในป่าช้าของหมู่บ้าน ช่วงดึกคืนวันนี้เลย
 

ด้าน ด.ต.ยุทธพล ศรีสมพงษ์ หรือ จอนนี่ กองปราบ กล่าวว่า ต้องขอบคุณกลุ่มโซเซียล ที่ให้เบาะแสความสัมพันธ์และเรื่องราวของนายอุทิศ จนเจ้าหน้าที่สืบสวนใช้เป็นข้อมูล ในการสืบสาวราวเรื่องจนกระจ่าง และรู้ที่มาที่ไปของความสัมพันธ์ระหว่างนายอุทิศกับญาติผู้ใหญ่ของ น.ส.เอ๋ โดยไม่หลงประเด็นเข้าใจว่า การทำร้ายครั้งนี้ เกิดจากความหึงหวงกับเด็กสาวที่ถูกทำร้าย

ขณะที่ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ ศรีบุตตะ ผกก.สภ.พิบูลมังสาหาร กล่าวว่า ในส่วนผลทางคดีอาญา เมื่อผู้ทำผิดเสียชีวิตแล้ว ก็มีอันระงับไป แต่หากผู้เสียชีวิตมีทายาทที่ได้รับประโยชน์ ผู้เสียหายต้องการจะไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง ก็สามารถทำได้

นายกรณ์ (นามสมมุติ) พ่อของนางสาวเอ๋ เปิดเผยว่า ตนทราบเรื่องที่นายอุทิศ ผูกคอหนีความผิดแล้ว คิดว่านายอุทิศน่าจะได้รับโทษก่อน แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ให้เป็นไปตามกรรม ตนขอให้ลูกสาวอาการดีขึ้น และหายเป็นปกติก็ดีใจ เรื่องอโหสิกรรม ตนขออโหสิกรรมให้ เพื่อไม่ให้เป็นบาปต่อกัน นายอุทิศก็คงต้องไปรับกรรม ในโลกหลังความตายต่อไป

ส่วนอาการล่าสุดของ น.ส.เอ๋ ดีขึ้นมาก แพทย์ที่ดูแลได้ถอดเครื่องช่วยหายใจ และกำลังหัดให้ดื่มน้ำทานอาหารอ่อน แต่ยังให้พักรักษาตัวในห้องไอซียูต่อไป จนกว่าจะมีอาการดีขึ้นกว่านี้
 

ข่าว : เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงค์ จ.อุบลราชธานี