svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

โต้! “ชูวิทย์” “ปลัดอาวุโสเชียงแสน” ยัน ไม่พบขบวนการ "อุ้มท้องซื้อพ่อ"

16 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“ปลัดอาวุโสเชียงแสน” โต้ปม “ชูวิทย์” แฉ! ขบวนการจีนสีเทา "อุ้มท้องซื้อพ่อ" ยืนยัน ไม่เคยพบในพื้นที่ ย้ำ คนที่เกิดในไทยมีสิทธิ์แจ้งเกิดทุกคน

16 ธันวาคม 2565 จากกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ออกมาให้ข้อมูลว่ามี "ขบวนการจีนเทา" ใช้วิธีให้สามีภรรยาชาวจีนที่กำลังอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ ให้เข้า มาในพื้นที่ประเทศไทย และใช้เงินว่าจ้างชายไทยให้รับเป็นพ่อของเด็ก เพื่อต้องการให้ลูกที่เกิดมาได้สิทธิ์เป็นคนไทยโดยกำเนิด และเด็กที่เกิดมาสามารถมีบัตรประชนเมื่ออายุ 7 ขวบ และเมื่ออายุ 13 ปี สามารถทำธุรกรรมทางกฏหมายได้ โดยนายชูวิทย์ได้เรียกขบวนการดังกล่าวว่า "อุ้มท้องซื้อพ่อ" โดยชี้เป้าว่ามีการทำกรณีดังกล่าวเยอะในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย อ.เชียงแสน 

โต้! “ชูวิทย์” “ปลัดอาวุโสเชียงแสน” ยัน ไม่พบขบวนการ \"อุ้มท้องซื้อพ่อ\"

ล่าสุด นายประเสริฐ แก้วขาว ปลัดอาวุโส อ.เชียงแสน จ.เชียงราย กล่าวว่า กรณีข่าวที่นายชูวิทย์ ได้ออกมาแฉว่ามีขบวนการจีนสีเทาได้เข้ามาซื้อตัวชายไทย เพื่อให้รับเป็นพ่อของเด็กชาวจีนที่จะเข้ามาคลอดในฝั่งไทยนั้น ตั้งแต่ช่วงที่ตนเข้ามาทำงานที่ อ.เชียงแสน ยังไม่เคยพบเจอกรณีดังกล่าวมาก่อน แต่ในกระบวนการแจ้งเกิดนั้น ทางสำนักงานทะเบียนอำเภอ มีหน้าที่รับแจ้งเกิดให้กับทุกคนที่เกิดในประเทศไทย

นายประเสริฐ แก้วขาว

ไม่ได้มีข้อห้ามว่าต้องรับแจ้งเกิดแค่คนไทยเท่านั้น ทุกคนที่เกิดในประเทศไทยมีสิทธิ์ที่จะแจ้งเกิดหมดทุกคน เช่น ถ้ากรณีที่มีเอกสารรับรองการเกิด หรือ ทร.1/1 ที่ทาง โรงพยาบาลเป็นผู้ออกให้ มีชื่อมารดาเป็นชาวต่างด้าว แต่มีชื่อบิดาเป็นชาวไทย เด็กคนนั้นก็ต้องมีสัญชาติไทยโดยกำเนิด แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าชื่อบิดาตามเอกสาร ทร.1/1 ที่ โรงพยาบาลออกให้นั้นเป็นบิดาจริงหรือไม่

ซึ่งก็ต้องอยู่ที่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจะต้องตรวจพิสูจน์ว่ามีเอกสารครบไหม และมีความน่าเชื่อถือว่าเป็นบุคคลตามที่อ้างอิงตามเอกสารหรือไม่ ส่วนเราจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าเป็นพ่อจริงหรือไม่นั้น อันนี้เป็นเรื่องที่ยากจะพิสูจน์ เพราะเขามีการแจ้งมาตั้งแต่ โรงพยาบาลแล้ว ว่าบุคคลตามเอกสารเป็นบิดา เว้นแต่ว่า เจ้าหน้าที่จะมีเหตุผิดปกติชวนสงสัยว่าจะเป็นการแจ้งเท็จ ถ้าตรวจสอบพบเราจะไม่รับแจ้งการเกิด ในกระบวนการทำงานอาจจะมีการผิดพลาดในการตรวจสอบและหลุดรอดการตรวจสอบบ้าง แต่ที่สำนักงานทะเบียน อ.เชียงแสน ไม่เคยมีเหตุการณ์ที่มีการออกมาแฉแต่อย่างได

ทั้งนี้การได้สัญชาติไทยโดยการเกิด มี 2 กรณีใหญ่ๆได้แก่

-กรณีที่ 1 คือการได้รับสัญชาติตามสายโลหิต  คือเด็กที่เกิดมีพ่อหรือแม่เป็นคนไทย ไม่ว่าเด็กจะเกิดที่ไหนในโลก เขาก็จะได้รับสัญชาติไทยตามหลักสายโลหิต

-กรณีที่ 2 คือการได้รับสัญชาติไทยตามหลักดินแดน คือคนที่เกิดในประเทศไทยทุกคนก็จะได้สัญชาติไทยเช่นกัน แต่การที่จะได้ก็ต้องดูว่าพ่อแม่ของเด็กเป็นใคร เช่น พ่อแม่เป็นแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย และมาคลอดลูกในระหว่างที่มาทำงานในไทย เด็กคนนั้นก็จะได้รับการแจ้งเกิด แต่ยังไม่ได้รับสัญชาติไทยจนกว่าเด็กคนนั้นจะจบการศึกษาระดับปริญญาตรี จึงจะสามารถยื่นขอสัญชาติไทยได้ตามมาตรา 7 (ทวิ) กรณีนี้พ่อและแม่ไม่ได้สัญชาติไทย แต่เด็กที่เกิดมาจะได้สัญชาติไทยตามหลักดินแดน

โต้! “ชูวิทย์” “ปลัดอาวุโสเชียงแสน” ยัน ไม่พบขบวนการ \"อุ้มท้องซื้อพ่อ\" โต้! “ชูวิทย์” “ปลัดอาวุโสเชียงแสน” ยัน ไม่พบขบวนการ \"อุ้มท้องซื้อพ่อ\"
สำหรับประเด็นที่บอกว่ามีการอุ้มท้องมาซื้อพ่อ คิดว่าเป็นกรณีที่ผู้หญิงอุ้มท้องมาเกิดในประเทศไทย โดยมาว่าจ้างให้คนไทยรับเป็นพ่อในกระบวนการแจ้งเกิด ซึ่งตามหลักฐานการแจ้งเกิดจะระบุว่าบิดาเป็นคนไทย แสดงว่าเด็กที่เกิดจะได้สัญชาติไทยตามหลักสายโลหิต"

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

นางจันทร์ออน กับปะหะ

ด้านนางจันทร์ออน กับปะหะ ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายทะเบียนราษฎร อ.เชียงแสน เผยว่า ตั้งแต่มาปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่สำนักทะเบียน อ.เชียงแสน ยังไม่เคยได้รับแจ้งว่ามีกรณีที่ผู้หญิงชาวจีนมาแจ้งเกิด โดยมีบิดาของเด็กเป็นชาวไทย ส่วนใหญ่จะพบในกรณีหญิงสัญชาติลาวที่มีสามีชาวไทย ซึ่งมีการอยู่กินเป็นสามีภรรยากันจริง หรือคู่สามีภรรยาที่ฝ่ายหนึ่งเป็นต่างด้าวหรือถือบัตรหัว 0 ก็จะพบได้มากเช่นกัน

logoline