svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"ชูวิทย์" มั่นใจ "ตู้ห่าว" หลุดคดี พร้อมสาวไส้วงการสีกากีช่วยกลุ่มทุนจีน

14 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ชูวิทย์" ชำแหละวงการสีกากีช่วย “ตู้ห่าว” หลุดคดี ชี้เป็นตัวการสำคัญมีเอี่ยวทุกเรื่อง พร้อมแฉกลวิธีกลุ่มทุนจีนสีเทา มอบรถฉุกเฉินให้ศูนย์ส่งกลับ รพ.ตร. - อุ้มท้องซื้อพ่อไทย เอาสัญชาติเพื่อเข้ามาทำธุรกิจ เสนอตัวขอเป็นพยานชี้เบาะแสคดี

14 ธันวาคม 2565 เมื่อเวลา 15.00 น. ที่โรงแรมเดอะเดวิส คอนเนอร์วิง สุขุมวิท 24 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง แถลงการเปิดโปงขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ที่มีความเชื่อมโยงกับ "นายตู้ห่าว" นักธุรกิจทุนจีนสีเทา พร้อมนำถังใส่น้ำยาฟอกขาวมาด้วย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

 

นายชูวิทย์ ระบุว่า งานนี้จะเป็นสงครามสุดท้าย ที่ตนจะทำในฐานะของประชาชน จึงต้องล้มกระดานให้ได้ หากใครจะฟ้องร้องก็ให้ทำไปเลย ยืนยัน "นายตู้ห่าว" มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งทางตรงและทางอ้อม กับความผิดทั้งในและนอกราชอาณาจักร โดยกลุ่มจีนเทา เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งในรูปแบบมูลนิธิเถื่อน และการขนส่งยาเสพติด รวมถึงผับจินหลิง

คดีนี้ตำรวจดำเนินคดี "นายตู้ห่าว" ไปแล้ว 3 ข้อหา เป็นความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เว้นแต่คดีฟอกเงิน ซึ่งจะทำให้ทราบเส้นทางการเงิน แต่จากการสอบถามกับตำรวจระบุว่า สาเหตุที่ไม่แจ้งข้อหาฟอกเงิน เพราะคดียาเสพติดมีโทษหนักกว่า ตนจึงมั่นใจว่า นายตู้ห่าวจะหลุดคดีแน่นอน เพราะมีการทำลายพยานหลักฐานต่าง ๆ ไปแล้ว  

 

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง

 

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง
 

นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึงการบุกจับผับจินหลิงว่า วันเกิดเหตุที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบผับจินหลิงนั้น พบชาวจีนกว่า 265 คน พร้อมยาเสพติดจำนวนมาก รวมถึงยังมีพนักงานเสิร์ฟ และ รปภ.ชาวไทย แต่เหตุใดผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จึงไม่เรียกสอบปากคำผู้ใด ทั้งที่พบผู้มีปัสสาวะสีม่วง และยังจับกุมผู้ดูแลสถานบริการดังกล่าว

ซึ่งแท้จริงแล้ว เป็นเพียง รปภ. เท่านั้น ก่อนจะปล่อยตัวภายหลัง ทำให้พยานแปดเปื้อน และคำให้การต่อศาลไม่อาจเชื่อถือได้ นอกจากนี้ เหตุใดจึงไม่ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ ของนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งอาจมีหลักฐานการแชตพูดคุย เพราะยาเสพติดที่ประเทศจีน มีราคาแพงและมีอัตราโทษสูง หากใครต้องการเสพยา จึงจะมุ่งมาที่ประเทศไทย 

นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ รองผู้กำกับการสอบสวน สน.ยานนาวา ยังขี่จักรยานยนต์พาได้ "นายเดวิด ฮอว์" ซึ่งเป็นตัวการคนสำคัญ ในการนำยาเสพติดมาขาย ไปส่งศาลฝากขังก่อน นายเดวิด จะยื่นขอประกันตัว แต่แทนที่ รอง ผกก.นายนี้ จะพาไปส่งที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เพื่อฝากขังตามขั้นตอน กลับพาไปปล่อยกลางทาง ทำให้เจ้าตัวขึ้นเครื่องบิน หลบหนีออกนอกประเทศ พร้อมหลาน "นายตู้ห่าว" ขณะที่รองผู้กำกับการจราจร สน.ลาดพร้าว และลูกน้อง ก็ให้การช่วยเหลือครั้งนี้เช่นกัน 

 

นายตู้ห่าว นักธุรกิจทุนจีนสีเทา
 

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ยังมีข้อมูลจากบันทึกการจับกุม ที่ปรากฎชื่อ รอง ผบก.น.6 นายหนึ่ง ที่อ้างว่า ไม่สามารถเปิดรถยนต์ที่ตำรวจเข้าตรวจยึด จากการขยายผลจับกุมเครือข่ายผับจินหลิงได้ โดยอ้างว่า ไม่มีกุญแจรถ ซึ่งภายในรถทั้งหมด 4 คัน มีทั้งยาเสพติดและเงินสดอยู่ เช่นเดียวกับเครื่องบินส่วนตัว ที่ใช้ขนยาเสพติด ที่ตรวจสอบล่าช้า จนไม่เหลืออะไรบนเครื่องบิน

การกระทำดังกล่าว จึงมีลักษณะเป็นขบวนการ โดยการฟอกเงินของทุนจีนสีเทา ยังใช้วิธีการถือหุ้นไทย ซื้อรถหรู นาฬิกา ซื้อบ้านและคอนโดมิเนียม ซึ่งสามารถนำไปขายต่อได้ และยังมอบรถฉุกเฉินสำหรับศูนย์ส่งกลับ รพ.ตำรวจ มูลค่าเกือบ 1 ล้านบาท อีกด้วย 

นอกจากนี้ยังมีขบวนการอุ้มท้องซื้อพ่อ กรณีสามีภรรยาเป็นชาวจีน ก็จะซื้อสัญชาติจากพ่อชาวไทย ที่เป็นนอมินีเพื่อฝากครรภ์ที่ รพ.เอกชน เพื่อให้เด็กเกิดมาได้สัญชาติไทย จากนั้นเมื่ออายุครบ 7 ปี เด็กก็จะทำบัตรประชาชน เพื่อที่พ่อแม่ชาวจีนจะซื้อบ้านและทรัพย์สินต่าง ๆ โดยอ้างเป็นการซื้อให้ลูกได้ จากนั้นเมื่ออายุ 13 ปี สามารถจัดตั้งบริษัท ถือหุ้นบริษัทได้ 51% ซื้อที่ดินและได้กรรมสิทธิ์อื่น ๆ ที่บริษัทต่างชาติทำไม่ได้ ถือเป็นการวางแผนระยะยาว ยิ่งกว่าการซื้อหุ้นไทย

นายชูวิทย์ กล่าวว่า จากนี้ตนจะร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบนายตำรวจ ที่เกี่ยวข้องกับการให้ความช่วยเหลือ ขบวนการทุรจีนสีเทา พร้อมจะขอเสนอตนเอง ต่อ ผบ.ตร. เพื่อเป็นพยานชี้เบาะแสในคดีนี้ทั้งหมด 

 

ภาพการบุกจับผับจินหลิงของตำรวจนครบาล

 

ยาเสพติดที่พบในผับจินหลิง

logoline