31 ตุลาคม 2565 มติครม. ต่างชาติถือครองที่ดินได้ ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานจากเชียงใหม่ แจ้งว่า เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา พระครูอมรธรรมทัต เจ้าอาวาสวัดพันอ้น อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยคณะศรัทธา ศิษยานุศิษย์ และ กลุ่มผู้ค้า ถนนคนเดินท่าแพ ร่วมกันถือป้ายไวนิลขนาดยาว 7 เมตร โดยมีข้อความว่า..
" ชาวเชียงใหม่คัดค้านมติครม. เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 65 เรื่องอนุมัติให้ต่างชาติซื้อยึดครองกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ อนาคตลูกหลานไทย ต้องไปขอเช่าที่ทำกินจากนายทุนต่างชาติหรือ ? "
โดยมีประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักท่องเที่ยวได้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนกว่า 50คน เพื่อคัดค้าน ค้านมติ ครม.เรื่องการอนุมัติให้ต่างชาติซื้อยึดถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน ในประเทศไทยตามเงื่อนไข
พระครูอมรธรรมทัต เจ้าอาวาสวัดพันอ้น อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 คณะรัฐมนตรี โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติให้ต่างชาติเข้ามาซื้อยึดถือกรรมสิทธิ์ที่ดินในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา เขตเทศบาล หรืออยู่ภายในบริเวณที่กำหนดเป็นเขตที่อยู่อาศัยตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง โดยมีเงื่อนไขว่าต้องนำเงินทุนมาลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท และลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี แต่ต่างชาติสามารถยึดถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ตลอดไปชั่วลูกชั่วหลาน
" จังหวัดเชียงใหม่ก็มีกฎหมายเขตผังเมืองอยู่ กลุ่มทุนต่างชาติก็มีสิทธิ์มาซื้อที่ดินในจังหวัดเชียงใหม่ได้ พอถึงกำหนดครบเขาก็ถอนเงินทุนคืนกลับไป แต่ที่ดินตกเป็นของต่างชาติไปแล้ว แบบนี้คนไทยไม่ได้ประโยชน์อะไร "
ด้วยเงื่อนไขดังกล่าว จะทำให้กลุ่มต่างชาติเข้ามาซื้อยึดถือกรรมสิทธิ์ที่ดินจำนวนมาก เมื่อต่างชาติ ต่างภาษา ต่างศาสนา ต่างวัฒนธรรม เข้ามาอยู่ในประเทศไทยก็จะสร้างความเดือดร้อนวุ่นวายให้เกิดขึ้นกับประชาชนคนไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต่อไปความเป็นไทยเอกลักษณ์ไทยก็จะสูญหายไป
ลักษณะแบบนี้จะไม่เป็นการขายชาติ ขายแผ่นดินหรือ อาตมาอายุ 66 ปีแล้ว อีกไม่กี่ปีก็มรณะภาพ แต่ห่วงลูกหลาน คนรุ่นหลังต่อไปในภายหน้าจะไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง แต่จะเป็นของนายทุนชาวต่างชาติ 20 - 30 ปีข้างหน้า เขาจะอยู่จะกินอย่างไร ต่อไปจะต้องไปขอเช่าพื้นที่ของคนต่างชาติอย่างนั้นหรือ ทั้งที่คนไทยเป็นเจ้าของประเทศ
ถ้ากลุ่มอาหรับเข้ามา ทั้งภาษา ศาสนา วัฒนธรรมเปลี่ยนไป ถามว่าคนไทยเรารับได้ไหม ในส่วนของอาตมภาพรับไม่ได้ ซึ่งอาตมภาพไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ที่ออกมาเรียกร้อง คัดค้านในครั้งนี้เพราะไม่เห็นด้วยกับมติ ครม. จึงขอแจ้งไปถึงรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอให้ยกเลิกมติดังกล่าว ถ้าไม่ยกเลิกมติดังกล่าวปัญหาความเดือดร้อน ความวุ่นวายเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ประชาชนทั้งประเทศจะลุกขึ้นมาประท้วงและขับไล่ท่าน โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่เป็นผู้เสนอโครงการนี้นำเรื่องที่ประชาชนได้ส่งเสียงสะท้อน นำไปปรึกษารัฐมนตรี และคณะมติ ครม. เพื่อยกเลิกมติดังกล่าว
ส่วนที่หลายคนมองว่าทำไมไม่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฆราวาส เพราะท่านเป็นพระสงฆ์ ในเรื่องนี้ พระสงฆ์เป็นประชาชนหรือไม่ ซึ่งเป็นแน่นอน เพราะอยู่ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกัน และยังอยู่ภายใต้กฎพระธรรมวินัย และกฎพระมหาเถระสมาคมด้วย และพระสงฆ์จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมายุ่งเกี่ยว เพราะพระสงฆ์เป็นผู้นำชาวบ้าน เป็นผู้นำจิตวิญญาณของชาวบ้าน อะไรก็แล้วแต่ที่จะก่อความเดือดร้อนให้กับประเทศชาติบ้านเมือง พุทธศาสนา พระสงฆ์ต้องออกมานำไม่ใช่ชาวบ้านนำ พระสงฆ์ถ้านอนหลับ แล้วบอกว่าช่างเถอะ ไม่ใช่พระสงฆ์ กิจของสงฆ์ที่แท้จริงคือทำเพื่อความถูกต้อง
เมื่อมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่กระทำไม่ถูกต้องพระสงฆ์ต้องกล้าที่จะออกมาชี้แจง แล้วอย่ากลัว นี่คือกิจของสงฆ์อย่างแท้จริง มาชี้ผิดชี้ถูกอะไรควรไม่ควร ในอดีตที่ผ่านมาก็เป็นแบบนี้ เมื่อชาวบ้านเดือดร้อนไม่สบาย ก็มาหาพระสงฆ์ ฝนไม่ตกตามฤดูกาลก็มาขอพระสงฆ์ทำพิธีให้ รวมถึงงานทำบุญต่างๆ ก็นิมนต์พระสงฆ์ทำพิธีให้ นั่นคือพระสงฆ์เป็นผู้นำจิตวิญญาณที่ถูกที่ควรให้กับประชาชน
ข่าวและภาพ : วสันต์ ปัญญาเรือน
สำนักข่าวเนชั่น จ.เชียงใหม่