เปิดใจแม่ "น้องโชค" สงสัยปืนลั่นหรือตั้งใจมายิง เผยเตรียมทนายสู้ถึงที่สุด

วันนี้  (16 ก.ย.65) เวลา 10.00 น.  จากกรณีเหตุนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดลาดปลาดุก ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ถูกอาวุธปืนของเพื่อนลั่น จนเสียชีวิต เหตุเกิดภายในห้องเรียนคอมพิวเตอร์ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่านข่าว) 

ทั้งนี้ สำหรับบรรยากาศหน้าห้องนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ นางสาวปวีณา งามสุด ผู้เป็นแม่ ได้เดินทางมาติดต่อขอรับศพ "น้องโชค" หรือ ด.ช.นพศิลป์ งามสุด อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3/2 โรงเรียนวัดลาดปลาดุก ที่เสียชีวิตจากอาวุธปืนลั่น โดยทางครอบครัว จะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดราษฎร์ประคองธรรม ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ นนทบุรี

นางสาวปวีณา เปิดเผยว่า ขณะนี้ต้องรอดำเนินการจัดงานศพลูกชาย ให้เสร็จสิ้นก่อน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ได้โทรศัพท์มาหาตนเลย และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ยังคาใจอยู่ว่า ปืนมันจะลั่นเองเลยเหรอ และก็อยากหาความจริงให้กับลูก เพราะบาดแผลมีหมด ว่ากระสุนเข้าตรงไหน ออกตรงไหน ถ้ามันลั่นจริงก็คงไม่เป็นแบบนี้ ซึ่งตนเองก็สงสัยว่า ปืนลั่น หรือตั้งใจมายิง ซึ่งคำให้การครั้งแรกของมือปืนนั้น ตั้งใจมายิง พอมาเปลี่ยนเป็นปืนลั่น ก็ต้องให้ตำรวจช่วยดูหลักฐานอีกครั้งหนึ่ง ว่าอะไรกันแน่ ความจริงก็คือความจริง

ถามว่าติดใจการทำงานของตำรวจไหม คือตำรวจ เขาก็ทำงานเต็มที่ เยาวชนทำความผิด แต่ก็ต้องให้ความยุติธรรมกับลูกตนเองด้วย เพราะลูกหนูไม่ใช่เด็กเกเร มันก็ไม่สมควรที่จะเกิดขึ้นในโรงเรียน ไม่ว่าจะกลับใครทั้งนั้น ซึ่งก็อาจจะเป็นคราวเคราะห์ของลูกหนูเอง ซึ่งถ้าเป็นการเอาความเป็นจริงแล้ว ลูกหนูไม่เคยระวังตัวอะไรเลย มีเพื่อนสนิทอยู่ไม่กี่คน กลับบ้านเองยังไม่เป็นเลย ซึ่งตนเองก็ไม่เคยเห็นเพื่อนลูกคนนี้ และลูกไม่เคยมีปัญหากับใคร ซึ่งถ้าเป็นการแก้แค้น ตนเองคิดว่า มันรุนแรงเกินไป แค่ชกต่อย หรือกระทืบก็พอแล้ว และ "น้องโชค" ไม่เอาเรื่องแน่นอน

ส่วนกรณี "น้องโชค" เคยมีปากเสียงกับคู่กรณี หรือไม่นั้น ตนเองก็ไม่รู้ ซึ่งแม่ไม่เชื่อว่าเป็นปืนลั่นอย่างแน่นอน ถ้าชันสูตรออกมาแล้วเป็นการยิง ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และอยากจะถามคนก่อเหตุเหตุว่า มาทำลูกชายของตนเองทำไม และยังไม่ได้คุยกับทางโรงเรียน ซึ่งทางโรงเรียนอยู่ในระหว่างตั้งคณะกรรมการสอบสวน "น้องโชค" เวลาไปไหนจะขอทางบ้านตลอด ลูกชายฝันว่า จะเป็นโปรแกรมเมอร์ และกำลังจะเรียนจบ ชั้น ม.3 ลูกชายก็บอกว่า อยากไปสอบทหาร

นางสาวปวีณา กล่าวอีกว่า ลูกเสียชีวิตคาที่ ตั้งแต่อยู่ในห้องแล้ว ซึ่งตนเองไม่เชื่อว่า "แป้นคีย์บอร์ดระเบิด" อย่างแน่นอน เพราะตนเองก็ทำงานอยู่กับคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการโทรบอกเพื่อนให้มาเอาปืนด้วยในห้อง น่าจะมีนักเรียนประมาณ 10 กว่าคน ส่วนคนก่อเหตุนั่งติดกับลูกชายหรือไม่นั้น ตนเองไม่แน่ใจ เด็กสมัยนี้ไม่สามารถรู้ใจได้ และทางโรงเรียนก็น่าจะมีการตรวจสอบอาวุธปืน และตนเองก็มีลูกชายคน ขนาดยิงลูกตนเองตายได้นี่ จิตใจเขาก็ไม่ธรรมดาแล้วน่ะ

ทางด้าน นายประเสริฐ  แก้วมณี ผู้เป็นตา เปิดเผยว่า ทางครอบครัวมีการประสานทนายความเอาไว้แล้ว เพื่อเตรียมดำเนินคดีกับคู่กรณีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด