svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

ไม่เจตนาฆ่า “ตร.” ยัน “ม.3” ปืนลั่นใส่ “น้องโชค” จริง เตรียมส่งศาลบ่ายวันนี้

16 กันยายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“ตำรวจ” ยัน “นักเรียน ม.3” ปืนลั่นใส่ "ใส่น้องโชค" จริง ไม่มีเจตนาฆ่าเตรียมส่งศาลบ่ายวันนี้ ขณะที่ จนท.พื้นที่การศึกษา ยังไม่ชี้แจงรายละเอียด เผยตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

วันนี้ (16 ก.ย.65) เวลา 09.30 น.  ที่สภ.บางบัวทอง เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2 เดินทางเข้าพบ ผู้กำกับ สภ.บางบัวทอง เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีเด็กชายวัย 15ปี โรงเรียนวัดลาดปลาดุก ทำปืนลั่นใส่เพื่อนเสียชีวิต ตามที่ได้เสนอข่าวมาแล้วนั้น (อ่านข่าว) 

 

 

ไม่เจตนาฆ่า “ตร.” ยัน “ม.3”  ปืนลั่นใส่ “น้องโชค” จริง เตรียมส่งศาลบ่ายวันนี้

 

 

ที่ห้องสืบสวนสภ.บางบัวทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สอบปากคำ นายต้า (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดลาดปลาดุก ที่ได้นำอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด.38 มาที่โรงเรียน และเกิดปืนลั่นใส่ "น้องโชค" อายุ 15 ปี เพื่อนนักเรียนห้องเดียวกัน จนเสียชีวิต  ทั้งนี้ นายต้า ระบุว่า หลังเกิดเหตุ ได้โทรศัพท์หารุ่นพี่ และให้เพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ รวม 6 คน ช่วยเหลือนำอาวุธปืนไปทิ้งในน้ำ 

 

ไม่เจตนาฆ่า “ตร.” ยัน “ม.3”  ปืนลั่นใส่ “น้องโชค” จริง เตรียมส่งศาลบ่ายวันนี้

ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ของสำนักงานพื้นที่การศึกษานนทบุรี 2 (สพฐ.2) ได้เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวน แต่ไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยบอกแต่เพียงว่า มาหาข้อมูลเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปหามาตราการป้องกันเหตุ ก่อนเดินทางกลับ

  

จากนั้นเวลา 10.30 น. พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ได้เดินทางมาที่ สภ.บางบัวทอง พร้อมกับเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคดี ที่ห้องประชุมชั้น 2 ของ สภ.บางบัวทอง โดยใช้เวลาประชุมนานเกือบ 1 ชม. และไม่อนุญาติให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปในห้อง ก่อนจะลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว

 

โดย พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 13.30 น. ของวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ภายในห้องคอมพิวเตอร์ โรงเรียนวัดลาดปลาดุก และจากการสอบปากคำเด็กนักเรียนที่นำปืนมา และเพื่อนนักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์ ร่วมถึงรุ่นพี่ที่มานำอาวุธปืนไปทิ้งในคลอง ทราบว่า ก่อนที่ปืนจะลั่น น้องนักเรียนที่พกปืน ได้นำปืนแอบพันใส่เสื้อกันหนาวเอาไว้ และเข้ามาในห้องเรียน

 

ไม่เจตนาฆ่า “ตร.” ยัน “ม.3”  ปืนลั่นใส่ “น้องโชค” จริง เตรียมส่งศาลบ่ายวันนี้

แต่จังหวะที่กำลังลุกขึ้นยืน และกำลังจะคลี่เสื้อกันหนาวออกมาใส่ ปืนได้เกิดลั่น ทำให้กระสุนพุ่งเข้าไปที่หน้าของน้องนักเรียน ที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะคอมพ์ จนเสียชีวิต  ซึ่งในที่เกิดเหตุ มีเพื่อนอยู่ด้วยกัน 4 คน หลังเกิดเหตุน้องนักเรียนที่พกปืน ก็พยายามจะเข้าไปช่วยเหลือเพื่อน แต่ด้วยความชุลมุน ครูเลยให้นักเรียนออกจากห้องไปก่อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ จากนั้นน้องนักเรียนที่ก่อเหตุ จึงได้โทรศัพท์ไปหารุ่นพี่ ให้เข้ามาที่โรงเรียน เพื่อช่วยนำปืนไปทิ้งในคลอง

 

ไม่เจตนาฆ่า “ตร.” ยัน “ม.3”  ปืนลั่นใส่ “น้องโชค” จริง เตรียมส่งศาลบ่ายวันนี้

 

พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนทั้งสองคน ไม่ได้มีปัญหาทะเลาะกัน แต่เป็นเพื่อนรักที่สนิทกันมาก ไม่ได้เป็นตามข่าวที่ออกไปก่อนหน้านี้ว่า ทั้ง 2 คนไม่ถูกกัน หรือทะเลาะกันแต่อย่างใด แต่ที่น้องนักเรียนที่พกปืนมา ทำไม่ต้องพกปืนมาโรงเรียน เพราะต้องการนำไปข่มขู่คู่อริในโรงเรียนอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยนำปืนเข้ามาโรงเรียนแล้วหลายครั้ง ส่วนปืนดังกล่าวก็เป็นของเพื่อนรุ่นพี่ ที่มีความรู้ทางช่างทำปืนไทยประดิษฐ์ จุด 38 ขึ้นมาเอง

 

เบื้องต้นตอนนี้ เราควบคุมตัว รุ่นพี่ทั้ง 5 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเอาไว้แล้ว โดยรุ่นพี่ที่เป็นเจ้าของปืน ได้แจ้งข้อหากล่าวหา มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และรุ่นพี่ที่เอาปืนไปทิ้งในคลอง แจ้งข้อหากล่าวหามีอาวุธปืนไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หรือทางสาธารณะ ส่วนรุ่นพี่ที่เหลืออีก 4 คน แจ้งข้อกล่าวหา ช่วยกันทำลายหลักฐาน

 

ส่วนน้องนักเรียนที่ทำปืนลั่น ได้แจ้งข้อกล่าวหา คือ กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นภึงแก่ความตาย และมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต  หลังสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว ช่วงบ่ายจะนำตัวไปส่งศาลเยาวชน และครอบครัวจังหวัดนนทบุรี ต่อไป

 

ไม่เจตนาฆ่า “ตร.” ยัน “ม.3”  ปืนลั่นใส่ “น้องโชค” จริง เตรียมส่งศาลบ่ายวันนี้

 

สำหรับประเด็นที่มีการระบุว่า ทำไหมครูให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า "คีย์บอร์ดระเบิด" ในตอนแรกนั้น ก็ต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง เพราะเท่าที่ให้การ ก็เป็นไปได้ว่า พอปืนลั่น เด็กที่อยู่ในห้อง ได้บอกว่า "คีย์บอร์ดระเบิด" ทำให้คุณครูเข้าใจไปแบบนั้น จึงได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างนั้น

    

 

 

logoline