svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ศาลฯ สั่ง "นายก อบจ." และ ส.อบจ.น่าน จากพรรคเพื่อไทย "หยุดปฏิบัติหน้าที่"

04 ตุลาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศาลอุทธรณ์ สั่งนายก อบจ. "นพรัตน์ ถาวงศ์" และ ส.อบจ. "เยี่ยมศักดิ์ เครือทิพย์” หยุดปฏิบัติหน้าที่ หลังศาลฯรับคำฟ้อง กกต. ขอสั่งเพิกถอนสิทธิสมัคร-เลือกตั้งใหม่-ชดใช้ค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง เหตุได้รับเลือกตั้งมาโดยไม่สุจริต

 

เมื่อ 4 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2565 ศาลอุทธรณ์ภาค 5 มีประกาศแจ้งวันนัดตรวจพยานหลักฐานคดีเลือกตั้งหมายเลขดำที่ ลต.อบจ.3/2565 ระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ร้องกับ "นายเยี่ยมศักดิ์ เครือทิพย์" สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ผู้คัดค้านที่ 1 และ "นายนพรัตน์ ถาวงศ์" นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน ผู้คัดค้านที่ 2 เรื่องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้ง  โดยศาลรับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว และนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 20 ตุลาคม 2565 เวลา 09.30 น.

 

ทั้งนี้ กกต. มีมติให้ยื่นคำฟ้องศาลอุทธรณ์พิจารณา จากกรณีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2563 กรณีมีคุณครู 2 ท่าน ซึ่งบุคคลทั้งสองเป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 12 หมู่ที่ 13 ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน

 

โดยครูคนหนึ่งทำหน้าที่มอบบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน และอีกคนทำหน้าที่มอบบัตรเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน ขณะมอบบัตรเลือกตั้งฯ ให้แก่ผู้มาแสดงตนใช้สิทธิเลือกตั้ง ทั้งสองได้พูดชี้นำผู้มาแสดงตนใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นภาษาท้องถิ่นของกลุ่มชาติพันธุ์ลัวะว่า "เปี๊ยะ" ซึ่งหมายถึงเบอร์ 2 อันเป็นหมายเลขประจำตัวผู้สมัครของนายเยี่ยมศักดิ์ เครือทิพย์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ผู้คัดค้านที่ 1 และยังได้พูดชี้นำผู้มาแสดงตนใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นภาษาท้องถิ่นของกลุ่มชาติพันธุ์ลัวะว่า "แพะ" ซึ่งหมายถึงเบอร์ 3 อันเป็นหมายเลขประจำตัวผู้สมัครของ "นายนพรัตน์ ถาวงศ์"  ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่านหมายเลข 3 

 

การกระทำของคุณครูทั้งสองรายดังกล่าวเป็นการจงใจไม่ปฏิบัติตามหน้าที่หรือกระทำการ อันมิชอบด้วยหน้าที่เพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัคร หรือกระทำการหรือละเว้นกระทำการโดยทุจริต หรือประพฤติมิชอบในการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 119 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562

 

ทั้งนี้  ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 226 กำหนดให้กรณี"ศาลอุทธรณ์"มีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว ให้สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ที่ถูกกล่าวหาต้อง"หยุดปฏิบัติหน้าที่" จนกว่า"ศาลอุทธรณ์" จะมีคำพิพากษาว่าผู้นั้นมิได้กระทำความผิด แต่ถ้า"ศาลอุทธรณ์"มีคำพิพากษาว่าผู้นั้นกระทำความผิด ให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นผู้นั้นสิ้นสุดลงนับแต่วันที่"หยุดปฏิบัติหน้าที่"

 

ข่าวโดย  :ไชยรัตน์ รัตสิมวงศ์

 

logoline