หนังสือพิมพ์ "The Telegraph" รายงานอ้างแหล่งข่าวระดับสูงในกองทัพอินเดียว่า กองเรือตะวันตกของพวกเขา ได้เคลื่อนตัวเข้าใกล้ทะเลอาหรับตอนเหนือมากขึ้น ซึ่งหมายความว่า ปัจจุบันกองเรืออยู่ในระยะโจมตีที่เหมาะสมที่สุด ต่อท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของปากีสถาน
ซึ่งแหล่งข่าวย้ำว่า "เราตื่นตัวและพร้อมที่จะตอบโต้ภัยคุกคามใดๆ จากฝ่ายตรงข้าม การเคลื่อนไหวของเครื่องบินรบและทรัพยากรทางทะเลอื่นๆ มีไว้เพื่อสังเกตการณ์และป้องปราม"
เชื่อว่า การเคลื่อนไหวของกองเรือรบอินเดีย เริ่มต้นเมื่อ 8 วันก่อน ซึ่งเท่ากับว่าขณะนี้ เรือเหล่านี้ ที่ประกอบด้วยเรือบรรทุกเครื่องบิน เรือพิฆาต เรือฟรีเกตและเรือต่อต้านเรือดำน้ำ อยู่ในน่านน้ำสากลแล้ว และมีแนวโน้มว่าจะปักหลักในระยะยาว
ทั้งยังพบว่า บนเรือยังบรรทุกขีปนาวุธบรามอส (BrahMos missile) ที่พัฒนาโดยรัสเซีย และสามารถเดินทางด้วยความเร็วสูง 2,300 ไมล์ต่อชั่วโมง (3,700 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) และโจมตีเป้าหมายที่อยู่ห่างออกไป 500 ไมล์ (805 กิโลเมตร)
การกระทำของอินเดียถือเป็นการข่มขวัญปากีสถาน เนื่องจากท่าเรือการาจี ครองสัดส่วนการค้าประมาณ 60% ของประเทศ รวมถึงฐานทัพเรือด้วย ซึ่งเหตุการณ์นี้ ยังเกิดขึ้นหลังจากทหารอินเดียกับปากีสถาน ระดมยิงข้ามพรมแดนใส่กันในแคชเมียร์ ทำให้หลายพื้นที่ที่อยู่ในเขตปกครองของอินเดีย รวมทั้ง จัมมู กาธัว ซัมบา อุธัมปุระ ราชูรี และปูนช์ ตกอยู่ในความมืดเพราะไฟดับ
ส่วนทางฝั่งปากีสถาน มีรายงานพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน บาดเจ็บ 12 คน กองทัพอินเดีย ระบุด้วยว่า ปากีสถานส่งโดรน 300-400 ลำ ละเมิดน่านฟ้าเข้าไปโจมตีเป้าหมายทางทหารในพื้นที่บริเวณพรมแดนทางตะวันตก มากกว่า 30 แห่ง
แต่อินเดียก็สามารถสกัดกั้นและทำลายโดรนเหล่านี้ ได้เกือบทั้งหมด ทั้งยังสั่งปิดปิดโรงเรียนและสถาบันการศึกษาอื่นๆ ในรัฐทางตอนเหนือและตะวันตก รวมถึงปัญจาบ ราชสถาน และแคชเมียร์ที่อินเดียควบคุมอยู่เป็นเวลา 2 วัน
ความขัดแย้งยังลุกลามไปถึงวงการกีฬา เมื่อการแข่งขันคริกเก็ตในประเทศที่ใหญ่ที่สุดของอินเดียอย่าง "Indian Premier League" ถูกระงับเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ส่วนปากีสถานย้ายการแข่งขันไปที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ด้านแพลตฟอร์มโซเชียล มีเดีย "X" ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี (8 พฤษภาคม) ว่า รัฐบาลอินเดียสั่งให้ปิดกั้นผู้ใช้ในประเทศ ไม่ให้เข้าถึงบัญชีมากกว่า 8,000 บัญชี รวมถึงองค์กรข่าวต่างประเทศ และผู้ใช้ที่มีชื่อเสียงอื่นๆ เป็นจำนวนมาก เท่ากับเป็นการเซ็นเซอร์เนื้อหาที่มีอยู่และในอนาคต และขัดต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของเสรีภาพในการพูด