รองประธานาธิบดีคริสตินา เฟอร์นานเดซ เด เคิร์ชเนอร์ ถูกผู้พิพากษา 3 คน ของศาลในกรุงบัวโนส ไอเรส ตัดสินว่ามีความผิดฐานรับสินบน 1,000 ล้านดอลลาร์ จากนายลาซาโร แบซ มหาเศรษฐีนักธุรกิจแห่งวงการก่อสร้างอาร์เจนตินา เพื่อแลกกับการมอบสัมปทานโครงการพัฒนาของรัฐหลายโครงการ ในขณะที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งมีโทษจำคุก 6 ปี และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต แต่ยกฟ้องข้อหาบริหารองค์กรอาชญากรรมที่อาจมีโทษจำคุก 12 ปี ศาลตัดสินยกฟ้อง ส่วนนายแบซถูกตัดสินจำคุก 6 ปีเช่นกัน
นับเป็นครั้งแรกที่รองประธานาธิบดีอาร์เจนตินา ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีอาญาขณะดำรงตำแหน่ง แต่ยังไม่มีผลทันทีเพราะเพิ่งเป็นคำพิพากษาของศาลชั้นต้น และยังสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ อีกทั้งกระบวนการอาจต้องใช้เวลาอีกหลายปี และเธอยังมีเอกสิทธิ์คุ้มครองจาการถูกจับกุม ตราบเท่าที่เธอยังได้รับเลือกตั้ง
เคิร์ชเนอร์ เคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีระหว่างปี 2550-2558 โดยเป็นคนที่ 54 ก่อนหน้านี้ ผู้สนับสนุนเธอขู่ว่า จะทำให้ทั่วประเทศเป็นอัมพาต ถ้าเธอถูกตัดสินว่ามีความผิด พวกเขารวมตัวกันในกรุงบัวโนส ไอเรส และเดินขบวนไปที่อาคารที่ทำการศาล ตีกลองและร้องตะโกนขณะพยายามฝ่าแนวป้องกันของตำรวจ
อาร์เจนตินาเป็นประเทศที่เผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจมายาวนาน อัตราเงินเฟ้อกำลังจะแตะระดับ 100% ท่ามกลางความแตกแยกทางการเมืองระหว่างฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา
อิทธิพลของเคิร์ชเนอร์ ยังบดบังรัฐบาลของประธานาธิบดีอัลแบร์โต เฟอร์นันเดซ ซึ่งกำลังเผชิญกับการต่อสู้ที่ยากลำบาก เพื่อป้องกันความท้าทายจากฝ่ายค้านหัวอนุรักษ์นิยม ในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในปีหน้า
เคิร์ชเนอร์ เพิ่งรอดชีวิตจากการถูกลอบสังหารมาได้อย่างหวุดหวิด เมื่อเดือนกันยายน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในขณะที่เธอจะจับมือทักทายผู้สนับสนุน และคนร้ายได้จ่อมือห่างจากใบหน้าของเธอแค่ไม่กี่นิ้ว แต่โชคดีที่ปืนขัดลำกล้อง ซึ่งทราบภายหลังว่า คนร้ายเป็นชายชาวบราซิลที่มีอาชีพขายของข้างทางและอาศัยอยู่ในอาร์เจนตินา ตั้งแต่ปี 2541 เขาไม่มีประวัติอาชญากรรมและไม่มีการเปิดเผยแรงจูงใจในการลงมือ