จุดที่เกิดเหตุมีคนเอาป้ายขนาดใหญ่สองป้ายมีข้อความประท้วงนโยบาย 'โควิดเป็นศูนย์' ของจีนไปแขวนไว้ ก็คือสะพานไซตงที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่ง โดย BBC รายงานว่าป้ายหนึ่งมีข้อความเขียนไว้ว่า
"ไม่เอาโควิดเทสต์, ไม่เอาข้อห้าม, เราต้องการอิสรภาพ,ไม่เอาคำโกหก, เราต้องการศักดิ์ศรี, ไม่เอาปฏิวัติวัฒนธรรม เราต้องการการปฏิรูป ไม่เอาผู้นำ, เราต้องการลงคะแนนเสียง, เราต้องไม่เป็นทาสก่อนจึงจะเป็นประชาชนได้"
ส่วนป้ายอีกอันหนึ่งมีข้อความเชิญชวน บอกให้ทุกคนออกมาสไตร์ก
"หยุดไปโรงเรียนและหยุดไปทำงาน ล้มล้างเผด็จการ และคนทรยศ สี จิ้นผิง"
เขียนข้อความแรงขนาดนี้ แน่นอนว่าตำรวจกรุงปักกิ่งทำงานกันเร็วมาก ตามรายงานบอกว่า แค่แป๊บเดียวตำรวจก็ไปอยู่ในจุดเกิดเหตุและเก็บป้ายลงมาจากสะพานอย่างรวดเร็ว ส่วนใครที่ถ่ายรูปแล้วไปโพสต์ตามโซเชียลมีเดีย เจ้าหน้าที่ก็ตามลบจนหมดเกลี้ยง
ส่วนใครเป็นผู้เอาป้ายไปแขวนไว้บนสะพานและแขวนไว้ตอนไหน ตอนนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัด ซึ่งตำรวจก็ได้หาหลักฐานและเก็บข้อมูลจากคนที่อาศัยหรือเดินผ่านไปผ่านมาในบริเวณนั้น ซึ่งนักข่าวของ AP ที่อยู่ในกรุงปักกิ่งที่ไปทำข่าวตรงนั้น ก็ถูกตำรวจสอบปากคำถึงสามครั้ง แล้วพอนักข่าวพยายามจะถามตำรวจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมตำรวจมาอยู่ตรงนี้กันเยอะแยะ ตำรวจก็ตอบกลับมาว่า "ไม่มีอะไร เป็นแค่การรักษาความปลอดภัยตามปกติ"
ตำรวจปักกิ่งได้คุมเข้มความปลอดภัยทั่วกรุงปักกิ่ง โดยเฉพาะรอบ ๆ สถานที่จัดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งมีการปิดถนน ตรวจสอบไอดีคนที่อยู่บริเวณนั้น ห้ามคนภายนอกเข้ามาใกล้ ๆ เนื่องจากที่ผ่านมาจะมีบุคคลภายนอกที่จะพยายามชูป้ายประท้วงพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยจะหาจุดที่มีคนเยอะ ๆ มีนักข่าว โดยเฉพาะนักข่าวต่างชาติ แล้วเมื่อเจ้าหน้าที่เผลอก็จะชูป้ายประท้วงพร้อม ๆ กัน เพื่อจะให้เป็นข่าวไปทั่วโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางการจีนพยายามป้องกันจะไม่ให้เกิดขึ้น