ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวต่อที่ประชุมผู้นำกลุ่มจี7 ที่จัดขึ้นผ่านระบบวิดีโอเมื่อวันอังคาร โดยเรียกร้องให้จัดหาระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศให้ยูเครนเพิ่มเติม พร้อมกับระบุว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธร่อนกว่า 100 ลูกถล่มหลายเมืองในยูเครนตั้งแต่วันจันทร์ต่อเนื่องถึงวันอังคาร และทุก 10 นาที เขาได้รับรายงานว่า รัสเซียใช้โดรน “ชาเฮด” ของอิหร่านโจมตี เขาอ้างด้วยว่า รัสเซียสั่งซื้อโดรน “ชาเฮด” มากถึง 2,400 ลำจากอิหร่าน
เขายังย้ำข้อเรียกร้องให้จี7 ประกาศว่า รัสเซียเป็นรัฐก่อการร้าย และเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรระลอกใหม่ต่อรัสเซีย โดยพุ่งเป้าสกัดรายได้จากการส่งออกน้ำมันและก๊าซ รวมทั้งย้ำว่า จะไม่มีการเจรจาใด ๆ กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน
เขายังอ้างว่า รัสเซียพยายามลากเบลารุสเข้าร่วมสงครามที่ยืดเยื้อกว่า 7 เดือน และเสนอให้จัดส่งผู้สังเกตการณ์นานาชาติไปประจำการบริเวณพรมแดนยูเครนและเบลารุสเพื่อสอดส่องสถานการณ์ความมั่นคง
และผู้นำจี7 ออกแถลงการณ์ร่วมว่า จะทำให้ประธานาธิบดีปูติน และผู้เกี่ยวข้องรับผิดชอบต่อการโจมตียูเครนล่าสุด รวมทั้งยืนยันจะให้การสนับสนุนต่อยูเครนทั้งทางการเงิน มนุษยธรรม การทหาร การทูต และกฎหมายอย่างยาวนานเท่าที่ต้องการ
ถ้อยแถลงของผู้นำยูเครนและจี7 มีขึ้นในขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ยืนยันว่า ยังคงปฏิบัติการโจมตีครั้งใหญ่ด้วยขีปนาวุธที่ยิงจากอากาศและทะเล และมีความแม่นยำสูงต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและการทหารของยูเครน
กองทัพอากาศยูเครน รายงานว่า ในวันที่ 11 ต.ค.จนถึงเวลา 13.30 น. มีขีปนาวุธร่อน 20 ลูก และโดรนอีก 13 ลำถูกยิงใส่ยูเครน แต่กองทัพอากาศสกัดไว้ได้หมด และก่อนหน้านั้นสำนักงานบรรเทาภัยฉุกเฉิน เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 รายและผู้บาดเจ็บ 105 คนจากการโจมตีของรัสเซียตลอดวันจันทร์