ฝนจากมรสุมที่ก่อให้เกิดน้ำท่วมหนักในปากีสถาน ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชาชนมากกว่า 30 ล้านคนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จนถูกเรียกว่าเป็น “มหาภัยพิบัติด้านมนุษยธรรมที่เกิดจากสภาพภูมิอากาศ” ส่งผลให่บ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง ไปจนถึงถนนและทางรถไฟ ถูกกระแสน้ำพัดพังทลาย ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยประสบปัญหาในการเดินทางเข้าไปช่วยเหลือ
ด้านนายชาห์บาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรีปากีสถาน ได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อ "หายนะครั้งใหญ่" ในจังหวัดสินธะทางตอนใต้ พร้อมเดินทางลงพื้นที่โดยเฮลิคอปเตอร์เพื่อถ่ายภาพทางอากาศบริเวณที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด ขณะที่กองกำลังทหารถูกส่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนในด้านเสบียงอาหารและสิ่งของจำเป็น
เขายังระบุว่า หากเปรียบเทียบกับเหตุอุทกภัยที่เคยเกิดขึ้นในปี 2010 ตอนนั้นถือเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่มากในประวัติศาสตร์ของปากีสถาน แต่น้ำท่วมครั้งนี้ทำให้เกิดความหายนะมากขึ้น สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงเป็นบริเวณกว้าง และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 900 คน
ชารีฟยังได้เข้าพบกับเอกอัครราชทูตและนักการทูตอาวุโสอื่น ๆ ในกรุงอิสลามาบัดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการระดมทรัพยากรทั้งหมดในการให้ความช่วยเหลือประชาชน และเรียกร้องขอให้ประชาคมระหว่างประเทศช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด