ทั้งนี้ในขั้นตอนการแก้ไขทบทวนร่างกฎกระทรวงของคณะกรรมการกฤษฎีการัฐบาลจะรับเอาข้อเสนอทุกอย่างมาพิจารณาถึงความเหมาะสมเพื่อให้กฎกระทรวงที่จะบังคับใช้นี้มีความสมบูรณ์มากที่สุด โดยจะรับข้อเสนอทั้งหมดมาพิจารณาอีกครั้ง ดังนี้
1.จำนวนวงเงินลงทุนจากที่ร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ได้กำหนดไว้ว่าต้องลงทุนในไทยไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ที่มีข้อเสนอให้เพิ่มเงินลงทุนในไทยมากขึ้น
2.การคงระยะเวลาในการลงทุนในไทยจากที่ ครม.เห็นชอบให้คงเงินลงทุนไว้ไม่ต่ำกว่า 3 ปี
3.การเปลี่ยนมือที่มีข้อเสนอไม่ให้ชาวต่างชาติถือครองที่ดินแล้วขายต่อเปลี่ยนมือ
4.การกำหนดเงื่อนไขเพื่อป้องกันการซื้อที่ดินแปลงใกล้กัน ซึ่งจะป้องกันการถือครองที่ดินผืนใหญ่ของต่างชาติด้วย
แจงเหตุผลดึงต่างชาติลงทุน
นายวิษณุ กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายที่มีมาตั้งแต่ปี 2545 โดยเมื่อสถานการณ์ในปัจจุบันเปลี่ยนไปรัฐบาลก็เห็นสมควรว่าจะมีการหยิบกฎหมายขึ้นมาปรับปรุงอีกครั้งเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติในกลุ่มที่มีความสามารถและทักษะสูง
ส่วนปัญหาเรื่องของนอมินีที่มาถือครองที่ดินนั้นมีมาตลอด อาจจะบอกว่ามีตั้งแต่ปี 2470 ซึ่งหากไปดูแล้วการครอบครองที่ดินตั้งแต่มีกฎหมายลักษณะนี้แม้จะบอกว่าที่ครอบครองได้ตามกฎหมาย 1 ไร่นั้นมีเพียง 8 รายเท่านั้น แต่หากไปดูเงื่อนไขอื่น เช่น การเข้ามาครอบครองที่ดินในระดับ 100-200 ตารางวานั้นก็มีหลายรายอยู่แล้ว
“ทุกครั้งที่มีการหยิบยกกฎหมายลักษณะนี้ขึ้นมาพิจารณาก็จะมีข้อกล่าวหาเรื่องการขายชาติมาตลอด ผมเห็นมาตลอดตั้งแต่สมัยอยู่ในรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ที่โดนต่อต้านก็ถอนไป มาสมัยรัฐบาลทักษิณ ทำกฎหมายเรื่องนี้สำเร็จ และมาถึงรัฐบาลนี้หยิบกฎหมายเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาปรับแก้ไข โดยตอนนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนของคณะกรรมการกฤษฎีกาซึ่งทุกอย่างก็ยังแก้ไขได้” นายวิษณุกล่าว
ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธตอบคำถามเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว โดยระบุแค่ว่า “เออๆ” ก่อนจะตัดบทก่อนออกจากวงสัมภาษณ์สื่อมวลชนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไป