
6 ตุลาคม 2566 ผ่านไป 1 เดือนกับคดีปลิดชีพ "สารวัตรแบงค์" ในงานเลี้ยงบ้าน "กำนันนก" กลางดึกของวันที่ 6 กันยายน 2566 เกิดคดีสะเทือนขวัญ สั่นสะเทือนในวงการสีกากี
กลางดึกในงานเลี้ยงของ นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ "กำนันนก" โดย นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ "หน่อง ท่าผา" ลูกน้องคนสนิท ก่อเหตุรัวยิง "สารวัตรแบงค์" พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. เสียชีวิต เป็นข่าวดังที่ประชาชนจำนวนมากจับตา เนื่องจากในงานเลี้ยงดังกล่าวมีข้าราชการตำรวจทั้งระดับสัญญาบัตรและชั้นประทวน สังกัดสำนักงานตำรวจภาค 7 และตำรวจทางหลวง เข้าร่วมงานเลี้ยงจำนวนมาก
ไม่เพียงความสูญเสียสุดช๊อกที่เกิดขึ้น ในทางคดีกลับมาเงื่อนงำ พฤติการณ์แปลกๆของคนวงการสีกากี หลังพบว่ามีตำรวจร่วมกันทำลายสถานที่เกิดเหตุ ทำลายหลักฐาน มีการนำปืนไปฝังดิน นำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปทิ้งคลอง รวมทั้งช่วยเหลือคนร้ายหลบหนี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ย้อนลำดับเหตุการณ์ งานเลี้ยงเลือด "กำนันนก"
เมื่อเวลา 21.10 น. วันที่ 6 ก.ย.66 "สารวัตรแบงค์" พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว และ "รองวศิน" พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. ถูกยิงเข้าที่บริเวณแขนซ้าย ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดในพื้นที่ ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม
หลังเกิดเหตุ "หน่อง" และ "กำนันนก" หลบหนีจากงานทันที ในเช้าวันที่ 7 ก.ย.66 พนักงานสอบสวน ขออนุมัติศาลให้ออกหมายจับ หน่อง ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่า, มีอาวุธปืนและกระสุนไว้ในครอบครอง
ขณะที่ กำนันนก โดนออกหมายจับข้อหา เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพยายามฆ่าผู้อื่น และเข้ามอบตัวในช่วงเย็นวันที่ 7 ก.ย.66
ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 8 ก.ย.66 ตำรวจแกะรอยการหลบหนีจนพบ "หน่อง ท่าผา" บริเวณ ซอยโรงเจ ด้านหลังวนอุทยานพระแท่นดงรัง บ้านดอนตาไล้ ต.อุโลกสี่หมื่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี หน่อง ไม่ยอมให้จับกุม มีการต่อสู้ จนเกิดเหตุวิสามัญฯ
ออกหมายจับ 6 ตำรวจ ร่วมทำลายหลักฐาน พาคนร้ายหนี
จากการสอบสวนขยายผลพบว่า ในงานกินเลี้ยงมีตำรวจร่วมสังสรรค์กว่า 20 คน ส่วนใหญ่เป็นตำรวจภาค 7 และตำรวจทางหลวง แต่เหตุใดปล่อยให้ กำนันนก และ หน่อง มือปืน หนีจากเกิดเหตุ
กระทั่ง กองพิสูจน์หลักฐาน พบร่องรอยการทำลายพยานหลักฐานกล้องวงจรปิด ทำความสะอาดที่เกิดเหตุ เช็ดคราบเลือด ซึ่งพบว่าตำรวจที่ร่วมงานมีส่วนเกี่ยวข้อง
วันที่ 9 ก.ย.66 ศาลได้อนุมัติหมายจับตำรวจ 6 ราย แจ้งข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ช่วยเหลือไม่ให้คนร้ายรับโทษ และซ่อนเร้นพยานหลักฐาน เนื่องจากพบพฤติกรรมให้ลูกน้องกำนันนก เอาปืนไปฝังดิน เอาเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปโยนทิ้งน้ำ หวังทำลายหลักฐาน ทั้ง 6 คน ประกอบด้วย
ด้าน "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตำรวจทั้ง 6 นาย คือชุดที่ปรากฏชัดเจนว่า มีส่วนเกี่ยวกับการซ่อนทั้งปืนและเซิร์ฟเวอร์ พยานหลักฐานชัดเจนเริ่มจากมีการดึงปืนออกจากตัวนายหน่อง พานายหน่องและกำนันนกหลบหนี ถือว่าตำรวจแย่มากทั้ง 20 กว่าคน ซึ่งมีพยานส่วนไหนถึงใครก็ออกหมายจับไปก่อน
ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รรท.ผบก.ทล. ได้ลงนามในคำสั่ง ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงทั้ง 4 นาย ที่ตกเป็นผู้ต้องหา ออกจากราชการไว้ก่อน โดยไม่มีกำหนด เพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย มีผลบังคับตั้งแต่ วันที่ 9 ก.ย. เป็นต้นไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ช็อก ผู้กำกับเบิ้ม ปลิดชีพตัวเอง
วันที่ 11 ก.ย.66 ขณะประกอบพิธีพระราชทางเพลิงศพ "สารวัตรแบงค์" เกิดเหตุช็อกอีกระลอก เมื่อ "ผู้กำกับเบิ้ม" พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2 บก.ทล. ผู้ที่โทรศัพท์ชวนสารวัตรแบงค์มางานเลี้ยง และเป็นหนึ่งในตำรวจที่นำส่งโรงพยาบาล ก่อเหตุใช้อาวุธปืนปลิดชีพตัวเอง ภายในบ้านพักพื้นที่ย่านคูคต จ.ปทุมธานี หลังเกิดอาการเครียดที่เป็นสาเหตุที่ทำให้น้องรักต้องเสียชีวิต
13 กันยายน 2566 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ป.ป.ช. ปปง. ตำรวจสอบสวนกลาง และชุดปฏิบัติการพิเศษ เปิดปฏิบัติทลายเครือข่ายกำนันนก และเครือข่ายผู้มีอิทธิพล เข้าตรวจค้นจุดเป้าหมาย 15 จุด ในพื้นที่ จังหวัดนครปฐม ตรวจยึด ปืน 16 กระบอก พบรถฟอร์จูนเนอร์ สีขาว และรถยนต์ฟอร์ด สีเทา ที่ กำนันนก และนายหน่อง ใช้หลบหนี ถูกดัดแปลงสภาพและจอดซุกซ่อนอยู่ภายในบริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์
พร้อมออกหมายจับและจับกุม ภรรยาเลขานายกฯ อบจ. หลังพบโพยหวย 14 รายการ และ นายโบ๊ท ฐานมีอาวุธปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต
ขณะที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ แถลงพบพิรุธบริษัทกำนันนก ส่อฮั้วประมูล 2 โครงการใหญ่ก่อสร้างถนน 2 เส้นทาง
"บิ๊กโจ๊ก" เร่งสอบสวนและขยายผลอย่างต่อเนื่อง กระทั่ง 15 ก.ย.66 สามารถกู้ไฟล์และเปิดดูภาพจากกล้องวงจรปิดจำนวน 15 ตัว ในบ้านกำนันนกได้ ซึ่งได้มีการตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด เพื่อแจ้งข้อหากับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งพลเรือนและตำรวจ โดยพบว่าตัวละครร่วมงานเลี้ยงบ้านกำนันนก มีตำรวจทั้งหมด 29 นาย และพลเรือน 28 คน รวมทั้งหมด 56 คน
หลังเปิดภาพวงจรปิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ตำรวจที่อยู่ในงานเลี้ยงและให้การช่วยเหลือ สารวัตรแบงค์ มี 6 คน ช่วยเหลือ พ.ต.ท.วศิน พันปี หรือ "รองวศิน" 3 คน ประกอบด้วย
อย่างไรก็ตาม พบว่า ร.ต.อ.จตุรวิทย์ ที่แม้จะให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ แต่ได้ไปให้การช่วยเหลือ กำนันนก ก็จะถูกแจ้งข้อกล่าวหา สำหรับตำรวจในงานเลี้ยงบ้านกำนันนก ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มนี้ คาดว่าจะถูกแจ้งความดำเนินคดีทั้งหมด ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 และบางรายจะถูกแจ้งข้อหาให้การเท็จด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ผ่าฟ้า! โอนคดียิงสารวัตรแบงค์ ให้ สอบสวนกลาง
16 ก.ย.66 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. หรือ บิ๊กก้อง เดินทางกลับถึงประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ถึงคดีว่า แม้ตัวกำนันนก จะถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ แต่แนวทางสืบสวนก็ยังคงดำเนินต่อไป และมั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดได้อย่างแน่นอน
17 ก.ย.66 หลังจากเปิดภาพจากวงจรปิด ทำให้พบว่ามีตำรวจให้การโกหก จึงต้องมีการเรียกสอบปากคำใหม่ทั้งหมด รวมถึงออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีเพิ่มเติม ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน ชุดทำงานบิ๊กโจ๊ก เตรียมแจ้งข้อหา 14 ตำรวจ เข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่และให้การเท็จ โดยมีชื่อ "ผู้กำกับเบิ้ม" และ "ผกก.พญาไท" รวมอยู่ด้วย
ก่อนที่จะมีการแจ้งข้อกล่าวหา "บิ๊กเด่น" พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงนามคำสั่ง ให้โอนสำนวนการสอบสวน คดีที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ไปที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางทั้งหมด เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องกับ คดียิงสารวัตรแบงค์ ขณะคดีเกี่ยวกับการฮั้วประมูลของกำนันนก ยังคงให้ทีมของ บิ๊กโจ๊ก ทำหน้าที่ต่อไป
เมื่อโอนคดีแล้ว การแจ้งข้อกล่าวหา ตำรวจ จะเป็นอำนาจหน้าที่ของ ตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่ง พล.ต.ท.จิรภพ หรือ "บิ๊กก้อง" ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ เป็นหัวหน้าชุด ในการดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาในคดีนี้
เปิดเหตุผลโอนคดี สอบสวนกลางย้ำทำงานเป็นกลาง
18 ก.ย.66 "บิ๊กเด่น" ผบ.ตร. แจงเหตุผลในการโอนคดี "สารวัตรแบงค์" ให้สอบสวนกลางเนื่องจากมีส่วนเกี่ยวโยงผู้มีอิทธิพล ไม่มีปมขัดแย้งกันระหว่างตำรวจ และที่ผ่านมาสอบสวนกลางได้เข้าทำคดีมาโดยตลอด
ขณะที่ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้แถลงข่าว หลังจากร่วมประชุมกับหน่วยงาน 11 หน่วยงาน ภายใต้สังกัด บช.ก. โดยระบุว่า คดีนี้ตำรวจสอบสวนกลาง รับคดีฆาตกรรม สารวัตรแบงค์ และคดี ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 ของตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ มาสอบสวนต่อแล้ว เนื่องจากเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่
การก่อเหตุอุกฉกรรจ์ คดีมีความซับซ้อน หากคดีถึงชั้นอัยการ และศาลในพื้นที่แล้ว อาจจะทำให้มีอิทธิพลของคนในพื้นที่ มากดดันการทำงานได้ พร้อมให้คำยืนยันจะทำคดีอย่างตรงไปตรงมา
ขณะ "บิ๊กโจ๊ก" ระบุไม่น้อยใจกับการโอนคดี ชี้สร้างความมั่นใจให้ประชาชน ไม่ให้มีการวิ่งเต้นคดี ยันเดินหน้าขยายผล "กำนันนก" ประเด็นร่ำรวยผิดปกติ ให้ความจริงปรากฏ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
20 ก.ย.66 กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ สืบสวนสอบสวนขยายผล ตรวจสอบการประกอบธุรกิจ รับเหมาก่อสร้างในพื้นที่ มีการ "ฮั้วประมูล" หรือไม่ โดยดีเอสไอ ได้เรียกสอบ บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่เข้าซื้อซองโครงการต่างๆที่กำนันนกเข้าร่วมประมูล ซึ่งพบ บริษัทฯที่ซื้อซอง 2 โครงการ เข้าข่ายฮั้วประมูล
26 ก.ย.66 .พล.ต.ต.จิรภพ เปิดแถลงคืบหน้าคดี ระบุว่า แบ่งตำรวจที่เข้าร่วมงานเลี้ยง 29 นาย ออกเป็น 4 กลุ่ม
อย่างไรก็ตาม ข้อหาให้การเท็จ ยังไร้หลักฐาน เยื่องจากยังไม่สามารถกู้ภาพวินาทีสำคัญ แต่มั่นใจเอาผิดได้แน่นอน
ส่วนประเด็นการฮั้วประมูลของบริษัทเครือข่ายอดีตกำนันนก จากการตรวจสอบ พบข้อพิรุธหลายประเด็น อาทิ บริษัทเครือข่ายอดีตกำนันนกเปิดดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2540 ได้ร่วมประมูล 1,527 โครงการ ชนะประมูล 1,314 โครงการ หรือคิดเป็นร้อยละ 85 ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่อยู่ในจังหวัดนครปฐม อยู่ระหว่างประสานข้อมูลกับ ดีเอสไอ
28 ก.ย.66 พนักงานสอบสวนชุดคลี่คลาย ได้นัดหมายตำรวจ 15 นาย เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่” หลังปรากฎหลักฐานเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า เจ้าหน้าที่ทั้ง 15 นาย ไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่จับกุมตัวคนร้าย และไม่ยอมให้การช่วยเหลือผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บแต่อย่างใดหลังเกิดเหตุแต่อย่างใด
กลุ่ม ตำรวจ ที่จะถูกดำเนินคดีฐานละเว้นการปฏิบัติหน้า จำนวน 15 นาย ประกอบด้วย
ขณะความคืบหน้าทางคดีงานเลี้องเลือก "กำนันนก" เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการเอาผิดตำรวจที่เกี่ยวข้อง และ การขยายผลความร้ำรวยผิดปรกติ
แต่สุดท้ายใครจะถูกดำเนินคดี การขยายผลจะไปถึงเรื่อง "ส่วย" อย่าง ที่หลายคนสงสัยหรือไม่ เวลาเท่านั้นที่จะเป็นคำตอบ และต้องติดตามคดีนี้อย่างไม่กระพริบตา!!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :