"อธ.อัยการคดีพิเศษ" ฟ้องคดีเลี่ยงภาษีรถหรู 39 สำนวน เสียหายกว่า 1,000 ล้าน

2 ตุลาคม 2566 นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 ได้ยื่นฟ้อง บริษัท เบนซ์นครินทร์ ออโต้ กรุ๊ป จำกัด กับพวก รวม 10 คน ในคดีเลี่ยงภาษี รถหรู (ลัมโบร์กินี) รวม 39 สำนวน   

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• คดีรถหรูเลี่ยงภาษีกว่าพันคัน ดำเนินคดีแล้ว 133 คน คาด ก.พ.นี้เอาผิดครบ 100 %
• สืบสวนความจริง ตอน รื้อคดีรถหรู เลี่ยงภาษีหมื่นล้าน
• ดีเอสไอ ร่วม อัยการ เร่งปิดคดีรถหรู 854 คัน คาดได้เงินค่าปรับกว่าหมื่นล้าน

 

ในความผิดฐานร่วมกันนำของ ที่ผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากร โดยเจตนาจะฉ้ออากร ที่ต้องเสียสำหรับของนั้น ๆ ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ นำพยานหลักฐานเท็จมาแสดงหรือยื่นบัญชีหรือเอกสารอันเป็นเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษี และขอริบรถยนต์หรูของกลาง รวม 39 คัน ขอให้จำเลยทั้งหมดจ่ายสินบนนำจับ แก่สายลับ และให้จ่ายรางวัลการจับกุม แก่เจ้าพนักงานตามกฎหมาย   

นายวิรุฬห์ กล่าวต่อว่า เพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็ว ในการสืบพยานและการพิจารณาของศาลพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 ได้รวมฟ้องคดีเดียวกัน เป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ. 2939/2566 โดยศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้องเเละนัดสอบคำให้การจำเลยในวันที่ 15 พ.ย.เวลา 08.30 น. 

 

รายงานว่า สำหรับคดีนี้ สืบเนื่องจาก กรณี กลุ่มเอกชนสำแดงราคานำเข้าจากต่างประเทศ ต่ำกว่าความเป็นจริง หรือคดีรถหรู จำนวน 854 คัน โดยผู้นำเข้ารถยนต์ได้ฉ้อค่าภาษีอากรการนำเข้ารถยนต์ รวมเป็นเงินประมาณ 2,600 ล้านบาท

ซึ่งตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 ผู้กระทำความผิดต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 4 เท่าของค่าอากรที่ต้องเสียเพิ่ม และความผิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย ดังนั้นการดำเนินการในกรณีนี้ อาจทำให้รัฐจะได้ค่าปรับรวมเป็นเงินกว่า 10,000 ล้านบาท 
 

กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้ร่วมกับ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ทำคดี เพื่อดำเนินคดีกับผู้นำเข้ารถยนต์ จำนวน 114 ราย ซึ่งมีในส่วนของการฟ้อง บริษัท เบนซ์นครินทร์ ออโต้ กรุ๊ป จำกัด ร่วมอยู่ด้วย

โดยรถยนต์หรูของ บริษัท เบนซ์นครินทร์ ออโต้ กรุ๊ป จำกัด ส่วนหนึ่งอยู่ในความครอบครอง ของผู้มีชื่อเสียง ดารา ศิลปิน นักธุรกิจ อาทิ 

• รถยนต์ลัมโบร์กินี (LAMBORGHINI รุ่น AVENTADOR LP 700-4 สีส้ม ที่มีนางสาวอารยา กำปั่นแก้ว กรรมการ บริษัท พี.เอส.ซี. สตาร์ช โปรดักส์ จำกัด เป็นผู้ครอบครอง ต่อมาโอนเปลี่ยนมือให้นายสราวุธ เสรีธรณกุล   เป็นผู้ครอบครองอีกทอด (คดีพิเศษที่ 78/2560)
• รถยนต์ของกลางยี่ห้อลัมโบกินี(LOMBORGHINI) รุ่น HURACAN LP 610-4 COUPE นายปกรณ์ ลัม เป็นผู้ครอบครอง (คดีพิเศษที่ 91/2560)
• รถยนต์ของกลางยี่ห้อลัมโบกินี(LOMBORGHINI) รุ่น AVENTADOR LP 700-4 50 ANNVERSARO COUPE พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีต ผกก.โจ้ ถุงดำ เป็นผู้ครองครอง ต่อมาเปลี่ยนมือเป็น นายสุมนต์ เสรีธรณกุล นักธุรกิจ เจ้าของโรงงานค้าแป้งมันสำปะหลัง เครือ บริษัท พี.เอส.ซี. สตาร์ช โปรดักส์ จำกัด (มหาชน)  (คดีพิเศษที่ 199/2560)  

ทั้ง 3 คันนำเข้าโดย บริษัท เบนซ์นครินทร์ ออโต้ กรุ๊ป จำกัด กับพวก


สำหรับ บริษัท เบนซ์นครินทร์ ออโต้ กรุ๊ป จำกัด ถูกตรวจสอบพบ มีการเลี่ยงภาษีอากรรถลัมโบร์กินี 39 คัน มูลค่าความเสียหาย 895,635,247 บาท โดยรถยนต์ที่ยึดไว้มีมูลค่า 397,464,806 บาท โดยภายหลังยื่นฟ้องเเล้ว จำเลยได้รับอนุญาตปล่อยชั่วคราว