12 มกราคม 2566 ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ได้สอบสวนดำเนินคดีอาญากับขบวนการหลีกเลี่ยงภาษีอากรรถยนต์ราคาแพง ที่มีการส่งออกจากสหราชอาณาจักร เข้ามายังประเทศไทย จำนวน 1,020 คัน ตามข้อมูล ตามที่ได้รับการทำคำร้องขอความร่วมมือระหว่างประเทศ ในเรื่องทางอาญา (Mutual Legal Assistance Treaty-MLAT) ไปยังสหราชอาณาจักร ซึ่งกรมศุลกากรได้ดำเนินการประเมินราคาและอากรใหม่นั้น
พบหลักฐานว่า มีการเลี่ยงภาษีด้วยการสำแดงราคานำเข้าอันเป็นเท็จ เพื่อให้เกิดฐานราคาในการคำนวณภาษีที่ต่ำลงกว่าความเป็นจริง ทำให้รัฐขาดรายได้จากภาษีประเภทต่าง ๆ ในการนำเข้ารถยนต์เป็นเงินประมาณ 3 พันล้านบาท โดยรับเป็นคดีพิเศษ ในปี พ.ศ.2565 จำนวน 114 คดี โดยมอบหมายให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ เป็นผู้ทำการสืบสวนสอบสวน และมี พันตำรวจโท พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งได้มีการนำเสนอความคืบหน้าของคดีมาเป็นลำดับ
ล่าสุด พันตำรวจโท พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า 1 ปีที่ผ่านมา การสอบสวนคืบหน้าไปมาก และสอบสวนไปแล้ว ดังนี้
รวมเอกสารเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน และธุรกรรมต่างๆ จำนวนมาก สามารถแจ้งข้อกล่าวหากับผู้นำเข้ารถยนต์ฯ ได้จำนวน 133 คน จาก 79 คดี ที่เหลืออยู่ระหว่างติดตามแจ้งข้อกล่าวหาให้ครบทุกคน คาดว่าภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 จะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ครบ กรณีที่ไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ก็จะเสนอศาลเพื่อขอออกหมายจับ พร้อมประกาศสืบจับ และสรุปสำนวนการสอบสวนเสนอไปยังพนักงานอัยการต่อไป
ทั้งนี้ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นคดีสำคัญที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ความสำคัญและมอบนโยบายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เร่งรัดทำการสืบสวนสอบสวนให้เสร็จโดยเร็ว หลังจากการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้นำรถยนต์เข้ามาในราชอาณาจักรโดยเลี่ยงภาษีแล้ว จะขยายผลไปยังตัวการที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มธุรกิจจำหน่ายรถยนต์นำเข้าฯ หรือโชว์รูม ต่อไป