
21 กันยายน 2566 ความคืบหน้าคดีฆ่าฝังดินโบกปูนลูกสาววัย 2 ขวบ ที่มี นายส่องศักดิ์ หรือ เอ็ม เป็นผู้ต้องหา และอาจเชื่อมโยง กับการสังหารลูกของภรรยาอีกคนจำนวน 4 ศพ ซึ่งคดีที่เกิดขึ้น สังคมตั้งคำถาม? ถึงพฤติกรรมสุดโหดเหี้ยมของ นายเอ็ม ว่า มีอาการป่วยทางจิตเวชหรือไม่อย่างไร
เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สน.บางเขน ได้คุมตัว นายเอ็ม ไปตรวจอาการทางจิต ที่โรงพยาบาลตามประวัติที่พบว่า เคยรักษาอาการทางจิต เมื่อปี 56 ช่วงอายุ 36 ปี และปี 58 ช่วงอายุ 38 ปี พบว่า พูดคุยได้ปกติ ไม่มีอาการป่วยจิตเวช
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ ของผู้สื่อข่าวหลายจุด ที่คาดว่า น่าจะเป็นบ้านเกิด และบ้านญาติของนายเอ็ม โดยที่บ้านของบิดาของนายเอ็ม ที่ ต.นาท่ามใต้ อ.เมือง จ.ตรัง ที่อาศัยอยู่กับภรรยาคนปัจจุบัน เป็นจุดแรก แต่ไม่พบใครบ้านปิดล็อกประตูรั้วสนิท
จึงออกเดินทางไปที่บ้านพื้นเพเดิม ของนายจารึก ผู้เป็นบิดาของนายเอ็ม และบ้านเกิดของนายเอ็ม ที่ อ.ห้วยยอด จ. ตรัง พบว่า เป็นบ้านปูสองชั้น ปิดล็อกประตูแน่นสนิท และไม่พบใครผู้ใดอยู่อาศัย เมื่อเรียกแต่ก็ไม่มีใครตอบกลับมา
ขณะที่ผู้สื่อข่าว ได้เดินเข้าไปที่ร้านตัดผม ซึ่งอยู่ห่างกับบ้านหลังดังกล่าวไม่มากนัก ได้สอบถาม นายเชือน สนิทปู่ อายุ 56 ปี น้าชายของเอ็ม เล่าว่า นายเอ็มมีศักดิ์เป็นหลานชายแท้ ๆ และกลับมาบ้านที่ อ.ห้วยยอด ล่าสุดเมื่อช่วงเดือน เม.ย.66 ที่ผ่านมา โดยได้พาลูกสาว คือน้องโมเดล วัย 2 ขวบ ที่ฆ่าโบกปูนกลับมาบ้านด้วย
โดยทุกครั้งที่ นายเอ็ม กลับบมา จะชอบซื้อเหล้าเบียร์ อาหารต่าง ๆ มาเลี้ยงเพื่อนฝูงและญาติพี่น้อง แต่ในจังหวะที่ตนนั่งอยู่ด้วยนั้น เมื่อน้องโมเดลร้อง นายเอ็มจะไม่ชอบเสียงร้องเด็ก ก็จะใช้มือปรี่จะเข้าไปตบ แต่ยังไม่ทันได้ตบ แต่ปรากฏว่าแค่ทำเท่านั้น เด็กกลับกลัวและเงียบทันทีเหมือนกับว่าเด็กกลัวไปแล้วและพูดกับเด็กว่า “มึงเงียบนะ มึงนิ่งนะ เดี๋ยวกูตบตาย”
น้าชายนายเอ็ม เล่าอีกว่า ที่ผ่านมานายเอ็มก็จะทะเลาะกับพ่อบ่อย และเคยใช้มือแทงล้อรถพ่อ และอีกหลาย ๆเรื่องถึงขั้นตัดขาดพ่อลูกกัน ส่วนกลับเพื่อน ๆ หากพูดไม่เข้าหูหรือไม่ถูกใจ ก็จะชวนทะเลาะและใช้กำลัง หลังจากเห็นนายเอ็มเป็นข่าวฆ่าลูก บอกตรง ๆ เลยว่าไม่ชอบ และรับไม่ได้เลย
ด้าน นายวิระศักดิ์ เอี่ยมละม่อม อายุ 48 ปี เพื่อนรุ่นพี่ เล่าว่า นายเอ็มชื่อเดิมคือ นายนพดล ตนรู้จักกับนายเอ็ม และเติบโตเรียนประถมมาด้วยกัน โดยที่นายเอ็มเป็นรุ่นน้องประมาณ 3 ปี ดั่งเดิมนายเอ็มเป็นคน ยังไม่มีอาการอะไรบ่งบอก แต่หลังจากที่ตนจบชั้นประถมมา ปรากฏว่า นายเอ็มซึ่งตอนนั้นยังเรียนประถมอยู่ จะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเพื่อนฝูงในโรงเรียนบ่อยครั้ง และเยอะมาก และบางครั้งเคยทะเลาะเบาะแว้งกับครูอาจารย์ที่สอนด้วย มีการท้าเตะ ท้าต่อยกับครูอาจารย์เสมอ
และภายหลังจากนายเอ็ม อายุประมาณ 16 - 17 ปี ก็ไม่ค่อยจะได้ติดต่อกันเท่าไรนัก เพราะนายเอ็มไปอยู่ข้างนอกแล้ว แต่ทราบข่าวในทางที่ไม่ดีของนายเอ็มตลอด ทั้งทะเลาะกับพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง จนอาศัยอยู่บ้านด้วยกันไม่ได้ นายเอ็มจึงออกไปอยู่ข้างนอก สาเหตุหนึ่งก็เพราะพ่อไล่ออกจากบ้าน จนมาทราบข่าวก็ที่เกิดเหตุล่าสุดนี้
เมื่อมาทราบข่าวว่าเอ็มฆ่าลูก ตนไม่แปลกใจเลย เพราะนิสัยดั้งเดิมของนายเอ็ม เป็นคนก้าวร้าวอยู่แล้ว ยอมรับว่า ตอนเด็ก นายเอ็มก้าวร้าวไม่มากเท่าไร แต่มองว่านิสัยพวกนี้หนักขึ้นเรื่อย ๆ ตามอายุ
ส่วนประเด็นที่ว่า นายเอ็มจะไม่ชอบเด็กผู้ชายผู้หญิงนั้น ตอนเด็ก ๆ ไม่มี อาจจะเป็นหลังจาก นายเอ็มมีลูกแล้ว และอาจจะไม่สบอารมณ์กับเด็ก แม้แต่พ่อก็เอานายเอ็มไม่อยู่ หัวรุนแรง หากโกรธใคร ก็จะอาฆาตแค้น ไม่นึกว่านายเอ็มจะก่อเหตุเช่นนี้ได้
ปกติมนุษย์และสัตว์เขาไม่ทำกัน จิตเกินคนไปแล้ว มองว่าไม่ใช้โรคจิต แต่มาจากสันดาน น่ากลัวมาก อยู่ใกล้ใครก็อันตราย อยากให้ดำเนินคดีให้หนัก เพราะออกมาก็คิดว่ายังคงทำแบบนี้อีก
นายสุชาติ บัวเกิด เพื่อนบ้านที่รู้จักกับแม่ของนายเอ็ม เล่าว่า นายเอ็มถูกเลี้ยงมาแบบนี้ เพราะแม่เป็นคนทำให้เขามี พฤติกรรมก้าวร้าว แม่เลี้ยงแบบทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ไม่สนใจ บางครั้งก็จับนายเอ็มโยน ใช้ความรุนแรงกับลูก คือเอ็มมาตั้งแต่เล็ก ๆ ทั้งการจับโยน
อย่างไรก็ตาม ทราบว่า พ่อของนายเอ็มมีภรรยาจำนวน 2 คน คนแรกคือแม่ของเอ็ม มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน โดยนายเอ็มเป็นลูกคนโต ส่วนพ่อของเอ็มหลังจากที่ภรรยาคนแรก คือแม่ของนายเอ็มเสียชีวิตไป ก็ได้ไปมีภรรยาใหม่อยู่ที่ อ.เมืองตรัง แต่อย่างไรก็ตามชาวบ้านระบุว่า ทั้งพ่อของนายเอ็ม และบรรดาพี่น้องทุกคนเป็นคนดี ชอบช่วยเหลือสังคม ไม่เคยมีปัญหาหรือนิสัยก้าวร้าว ส่วนพ่อจะเป็นคนที่ชอบช่วยเหลืองานสังคมแ ละเป็นจิตอาสาเพื่อสังคมมาโดยตลอด