
17 กรกฎาคม 2566 นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ เปิดเผยหลังจากที่ไลฟ์สดวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ว. ที่ไม่โหวตรับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี แต่กลับถูก ส.ว.ร้องทุกข์กล่าวโทษกับ ศาลตลิ่งชัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
จากการตรวจสอบขณะนี้ยังไม่ปรากฏว่า มีการดำเนินคดีตามที่กลุ่ม ส.ว.แถลง โดยตนเองในฐานะประชาชน มีสิทธิที่สามารถวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เป็นบุคคลสาธารณะ จึงไม่กังวลกับการดำเนินคดี เพราะที่ผ่านมาในคดีหมิ่นประมาทศาลฎีกา มีการยกคำร้องเป็นจำนวนมาก และมองว่าเป็นเจตนาบริสุทธิ์ที่ประชาชนสามารถทำได้ แต่ ส.ว.ก็สามารถแจ้งความเอาผิดกับประชาชนที่มีความผิดชัดเจนได้ โดยต้องมีหลักฐานชัดเจน และคำด่า ดูถูก เหยียดหยาม จะต้องเข้าข่ายหมิ่นประมาท
ยืนยันว่าคำต่างๆ ที่ตนได้พูดในไลฟ์สดยังไม่เข้าข่าย เช่น ค. ขยะ ขี้โกง หรือ คำที่ตนบอกว่า จงใจจะกลั่นแกล้งนายพิธาจริง หรือไม่
ขณะเดียวกัน มองว่า การที่ ส.ว. จงใจฟ้องตนเองนั้น เพื่อเป็นการปิดปาก และให้สังคมเกิดความหวาดกลัว ประกอบกับการให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงเช้า ส.ว.มีการใช้ถ้อยคำที่ดูถูกประชาชน เช่นคำว่า โง่ ตนจึงได้ถอดคำพูดการแถลงข่าวทั้งหมด และเตรียมจะฟ้องร้องส.ว. ที่ร่วมแถลงข่าวทั้งหมดในวันพรุ่งนี้
ส่วนที่ ส.ว.จะฟ้องร้องชาวโซเชียล ที่มีการคุกคามทางธุรกิจ และครอบครัว ทนายเดชามองว่า เหตุการณ์เหล่านี้ อาจจะเป็นการสร้างเรื่องขึ้นมา เพื่อให้มองว่า ส.ว.ถูกรังแก เรื่องดังกล่าวควรจะต้องมีการตรวจสอบชัดเจน ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ซึ่งการฟ้องร้องประชาชน ถือว่าเป็นการข่มขู่ และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ที่จะต้องเดินทางไปขึ้นศาลนอกภูมิลำเนา
สุดท้ายอยากจะฝากไปถึง ส.ว.ว่าให้นึกถึงประชาชนที่เสียภาษี เป็นเงินเดือนให้ ส่วนการสำนึกบุญคุณผู้ที่เลือกมา พวกคุณตอบแทนมาหลายปีแล้ว