
6 กรกฎาคม 2566 จากกรณีหญิงสาววัย 26 ปี ร้องเรียนนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” ให้ช่วยเหลือ หลังถูกนางสาวโรส เพื่อนสาว บุกทำร้ายร่างกาย โดยใช้ขวดน้ำหอมทุบหน้าหลายครั้ง ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ย่านรัชดาซอย 3 จากปมเรื่องหึงหวงคิดว่าผู้เสียหายแย่งผู้ชาย
ล่าสุด “กัน จอมพลัง” เปิดเผยว่า วันนี้ตนพาผู้เสียหายมาติดตามความคืบหน้าคดี สืบเนื่องจากแจ้งความแล้วคดีไม่คืบหน้า อีกทั้งผู้เสียหายรู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะยังพักอาศัยอยู่ในคอนโดฯเดียวกับผู้ก่อเหตุ มิหนำซ้ำ ผู้ก่อเหตุ ยังข่มขู่ว่าจะให้เพื่อนมาดักทำร้ายที่ทำงาน พร้อมคำท้าทายให้แจ้งความ เพราะมีพี่เป็นตำรวจ
ส่วนตัวยังติดใจ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย(รปภ.) ของคอนโดฯ หลังให้ผู้ก่อเหตุและพวกสามารถเข้าถึงห้องพักผู้เสียหายง่ายเกินไป
“กัน จอมพลัง” กล่าวฝากถึงผู้ก่อเหตุว่า ผู้หญิงด้วยกัน ไม่ควรทำพฤติกรรมแบบนี้ เพราะเมื่อเกิดเรื่องขึ้นมาแล้ว มันทำให้เสียความสัมพันธ์ ทั้งเพื่อนและผู้ชาย อีกทั้งยังมีคดีความติดตัว
ด้านผู้เสียหาย เล่าว่า รู้จักกันหลังทำงานมาด้วยกันได้สักระยะ ที่ผ่านมา คู่กรณีชื่นชอบเรื่องเที่ยวบาร์โฮสต์ อย่างมาก และเคยแนะนำผู้ชายบาร์โฮสต์ให้ตัวเองรู้จักด้วย แต่ก็ไม่ได้คิดเกินเลย ต่อมา ฝ่ายชายที่อยู่บาร์โฮสต์ ซึ่งมีความสนิทสนมกับผู้ก่อเหตุ ส่งข้อความมาชักชวนไปเที่ยว แต่ตัวเองก็ปฏิเสธไป เพราะไม่ชอบ
เมื่อผู้ก่อเหตุทราบเรื่องนี้ จึงเกิดความหึงหวงและบุกมาทำร้าย ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 1 มิถุนายน ขณะนั้น ตัวเองอยู่ระหว่างนอนหลับภายในห้องพัก จู่ๆ รู้สึกมีของแข็งมาฟาดมาที่ใบหน้าและศรีษะหลายครั้ง พอรู้สึกตัว พบว่า ผู้ก่อเหตุ กำลังใช้ขวดน้ำหอมทุบอยู่ ด้วยความตกใจจึงต่อสู้ แต่ถูกเพื่อนของผู้ก่อเหตุ (นางสาวพลอย)ล็อคจากด้านหลัง เมื่อดิ้นหลุดจึงตัดสินใจวิ่งเข้าห้องน้ำ เพื่อหนีตาย แต่ผู้ก่อเหตุยังไม่หยุดอาละวาดยังทำลายสิ่งข้าวของในห้องพักเสียหาย
ผู้เสียหาย ระบุเหตุที่สามารถเข้าถึงห้องพักได้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุ แจ้ง รปภ.ของคอนโดว่า มาหาเพื่อน จึงทำให้เข้ามาอย่างง่ายดาย ยอมรับ รู้สึกหวาดกลัว เนื่องจาก ผู้ก่อเหตุ ได้ข่มขู่จะทำร้ายร่างกาย และรู้จักกับตำรวจ
ผู้เสียหาย ได้เตรียมหลักฐาน เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2566 เวลา 04.23 น. เมื่อนางสาวโรส นางสาวพลอยและแฟนหนุ่มเดินเข้ามายังห้องพัก เคาะประตูแล้วเข้าไปก่อเหตุ จากนั้น เวลา 04.28 น. ทั้ง 3 คน ได้เดินออกมาจากห้องพัก ก่อนลงลิฟท์ไป
อีกหนึ่งหลักฐาน ซึ่งเป็นข้อความสนทนาระหว่างคู่กรณีพูดคุยกับฝ่ายชาย ที่เป็นต้นเหตุ ทำนอง “ฝากไปดูผู้บาดเจ็บด้วยนะ โดนตบตายคาห้องไปแล้ว” พร้อมถ้อยคำลักษณะข่มขู่ให้ฝ่ายชายระวังตัว ซึ่งฝ่ายชายก็ได้ตอบกลับไปว่า “ ไม่ได้เป็นอะไรกัน อย่าเยอะ อย่ามาทำตัวแบบนี้ แฟนกันก็ไม่ใช่"
ขณะที่ อีกหนึ่งหลักฐาน ซึ่งเป็นข้อความสนทนาระหว่างคู่กรณีกับอดีตแฟนหนุ่มของผู้เสียหาย ที่มีข้อความทำนองให้ระวังตัวให้ดี อยากเข้าไปอยู่ในคุกอีกครั้งไหมล่ะ ซึ่งทางอดีตแฟนหนุ่มของคนเจ็บได้ตอบกลับไปว่า “ไม่ได้คุยกันเลยครับ” จากนั้นฝ่ายคู่กรณีได้ข่มขู่ว่า สักวันจะพาตำรวจขึ้นไป บอกมันด้วย ทั้งคู่เลย เพราะพี่ชายเป็นตำรวจ
ด้านการดำเนินคดี พ.ต.อ.สุกฤต มังคละสวัสดิ์ ผกก.สน.ห้วยขวาง ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างออกหมายเรียก กลุ่มคู่กรณี ทั้ง 3 คน ครั้งที่ 2 หลังก่อนหน้านี้เคยออกหมายเรียกแล้ว แต่ทั้งหมดไม่มาพบ ซึ่งจากนี้หากกลุ่มคู่กรณีไม่มารับทราบข้อกล่าวหาก็จะออกหมายจับ ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส / บุกรุกในเวลากลางคืน และทำให้เสียทรัพย์ ต่อไป
“ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ส่วนที่ผู้ก่อเหตุอ้างว่ารู้จักกับตำรวจนั้น ยืนยัน ถ้ามีตำรวจเกี่ยวข้องจริง จะดำเนินคดีไม่ละเว้น” ผกก.สน.ห้วยขวาง