
6 เมษายน 2566 ความคืบหน้ากรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม รับมอบอำนาจจาก พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้ อดีตผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบฯ เพื่อแจ้งความเอาผิด อดีตนายตำรวจยศ พล.ต.ต. ท่านหนึ่ง พร้อมพวก โดยอ้างว่า กลุ่มคนเหล่านี้ร่วมกันปลอมเอกสารลักรถยนต์หรูของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ไปขายจำนวน 13 คัน โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ล่าสุด มีรายงานว่า ทางพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐาน โดยจะต้องพิจารณาพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่ นายอัจฉริยะ นำมามอบให้ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยจะมีการนัดหมายให้ นายอัจฉริยะ มาเข้าให้ปากคำเพื่อซักถามอย่างละเอียดอีกครั้ง ในวันพรุ่งนี้ (7 เม.ย.) นี้
รอง เลขาฯ ป.ป.ง. ยันทนาย-แฟน ผกก.โจ้ ขอให้ช่วยขายรถเอาเงินไปสู้คดี
ขณะที่ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ป.ป.ง. ชี้แจงในเรื่องดังกล่าวว่า ทางทนายความ และแฟนสาวของ ผกก.โจ้ ได้นำเอกสารมา และบอกว่า ให้ช่วยขายรถให้ เพื่อนำเงินไปใช้ในเรื่องของคดี ตนก็ช่วยเหลือขายรถให้บางส่วน แต่อีกส่วนหนึ่งเป็นรถที่ติดไฟแนนซ์ ค้างค่างวด 3 งวดแล้ว หมดสัญญา จึงได้ส่งรถคืนให้ไฟแนนซ์
ส่วนกรณีเรื่องการปลอมแปลงเอกสารนั้น ตนไม่ทราบ เพราะอีกฝ่ายเป็นทนายความ และแฟนสาวของ ผกก.โจ้ นำเอกสารมาให้ ตนก็เชื่อว่า เป็นเอกสารที่ถูกต้อง และดำเนินการตามที่อีกฝ่ายร้องขอ
ทั้งนี้ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ชี้แจงว่า ในเรื่องการคืนรถให้ทาง ผกก.โจ้นั้น เมื่อรถถูกขายไปแล้ว แต่เมื่อมีคำสั่งจาก ป.ป.ช. ให้อายัด ก็ได้ใช้เงินส่วนตัว ในการจ่ายคืนให้ผู้ซื้อรถคันนั้นไป จากนั้นเมื่อได้รถกลับมา ก็นำไปคืนให้ ซึ่งลูกชายก็ติดต่อกับฝ่าย ผกก.โจ้ ให้มารับรถ ซึ่งก็ได้มีการส่งคนมารับรถไปแล้ว 1 - 2 คัน โดยที่ผ่านมา ก็มีการประสานกับน้องสาวของ ผกก.โจ้ มาโดยตลอด เพื่อแจ้งให้ทราบว่า รถแต่ละคันมีปัญหาอะไรบ้าง ซึ่งอีกฝ่ายก็ทราบมาตลอดอยู่แล้ว
ดังนั้นรถที่ทาง ป.ป.ช. และ ศาล มีคำสั่งให้ยึดไว้ จึงได้เอาเงินไปจ่าย และนำรถกลับมา หลังจากนี้ต้องรอคำสั่งศาลอีกครั้งว่า จะดำเนินการอย่างไร แต่ในกรณีที่รถคันนั้นติดไฟแนนซ์ และหมดสัญญา ตนได้ส่งคืนไปให้กับทางไฟแนนซ์แล้วนั้น จะอย่างไรตนก็ไม่ทราบ
พล.ต.ต.เอกรักษ์ ชี้แจงอีกว่า ในกรณีที่ นายอัจฉริยะ อ้างถึงภรรยาตนว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ ตนยืนยันว่า ภรรยาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด พร้อมให้ตรวจสอบได้ รวมถึงหลังจากนี้ได้ให้ทนายความรวบรวมพยานหลักฐาน และดูข้อกฎหมายว่า จะดำเนินคดีได้อย่างไรบ้าง เป็นการปกป้องสิทธิตามกฎหมาย