"อัจฉริยะ" แฉ "เมฆ รามา" ติดต่อ "นายพล.จ" เพื่อเคลียร์คดีก่อนถูกรวบ

30 มีนาคม 2566 ความคืบหน้ากรณี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. นำกำลังตำรวจ บก.สอท.1 และชุดปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด นำหมายค้นศาลอาญา เข้าปิดล้อมตรวจค้น 10 จุด ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล เพื่อค้นหาหลักฐานดำเนินคดี กับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ โดยจุดสำคัญคือการเข้าตรวจค้นบ้านหรูของ "เมฆ รามา" สามี นักแสดงสาว "หยาดทิพย์ ราชปาล" ภายในซอยโยธินพัฒนา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• เปิดห้องลับ เมฆ รามา เจอตู้เซฟยักษ์เก็บทรัพย์สิน ตร.จ่อแถลงยึดอายัด 1 พันล้าน
• รอง ผบ.ตร. เตรียมเชิญภรรยา "เมฆ รามา" เข้าให้ปากคำ สอบปมรู้เห็นหรือไม่
• "เมฆ รามา" ถูกจับตามหมาย จัดให้เล่นพนัน-ฟอกเงิน ตร.ไซเบอร์ เร่งสอบสวนขยายผล
• ตำรวจไซเบอร์ บุกค้นบ้าน "เมฆ รามา" สามีหยาดทิพย์ ราชปาล 

ล่าสุด นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยว่า ก่อนที่ตำรวจจะปฏิบัติการจับ “เมฆ รามา”  พบหลักฐานการสนทนาโทรศัพท์ มีการโทรเข้าออกกับ "นายพล จ." นอกจากนั้นยังมีแชทข้อความพูดคุยกับ นายตำรวจชื่อ "เด่น" ดำรงตำแหน่งผู้กำกับการ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 โดยมีแชทสนทนาชัดเจนว่า “เดี๋ยวเด่นเคลียร์ให้”

นายอัจฉริยะ อ้างว่า "นายเด่น" เป็นผู้ที่คอยรับเคลียร์ ให้กับเจ้าของเว็บพนันหลายเว็บทั่วประเทศ ผ่านการสั่งงานของ "นายพล จ." อีกทั้งยังมีข้อมูลว่า เป็นหุ้นส่วนกับเว็บพนันออนไลน์ทางภาคเหนืออีกด้วย
 

ทั้งนี้ จากการตรวจค้นสภาพภายในบ้านพัก "นายเมฆ รามา" พบ โฉนดที่ดินจังหวัดภูเก็ต 72 ฉบับ เอกสารการเล่นหุ้น ตู้เซฟ พระเครื่อง มูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันก็มีข้อมูลว่า ลักษณะข้าวของ เครื่องใช้ในบ้าน มีจำนวนไม่มากนัก คล้ายกับถูกขนย้ายออกไปก่อนหน้านี้ และนายเมฆก็มีลักษณะ เหมือนกำลังเตรียมตัวหลบหนี อีกทั้งพบทนายความอยู่ที่บ้าน คอยให้คำปรึกษากับนายเมฆอย่างใกล้ชิดด้วย 

 

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ส่วนของการสืบสวน และพยานหลักฐานต่าง ๆ มองว่า ยังไม่เชื่อมโยงไปถึงนักแสดงสาว "หยาดทิพย์ ราชปาล" ที่เป็นภรรยา แต่เชื่อว่า รู้ว่าสามีทำเว็บพนัน หลังจากแต่งานกันแล้ว และมองว่า นักแสดงสาวไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน แต่แค่อยากมีสามีรวย

นอกจากนี้ นายอัจฉริยะได้ พูดเรื่องหลักฐานต่าง ๆ ที่เคยมอบให้ตำรวจว่า ไม่ไว้ใจการทำงานของจเรตำรวจ เนื่องจากหลักฐานที่เคยมอบให้กับจเรตำรวจก่อนหน้านี้ ถูกนำสำนวนไปเปิดเผยต่อคู่กรณี จนนำไปสู่การต่อสู้คดีในชั้นศาล