svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"ทนายตั้ม" ยอมรับ เรียกเก็บค่าเเถลงข่าว 3 เเสนจริง อ้าง ป้องกันถูกฟ้อง

27 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทนายตั้ม ยอมรับ เรียกเก็บค่าเเถลงข่าวกับลูกความ 3 เเสนจริง เเต่ไม่ใช่ทุกเคส อ้าง เป็นค่าป้องกันถูกฟ้องในอนาคต ชี้ ทีมงานใช้คำผิด โต้ ใช้ชีวิตหรูหรา หาด้วยน้ำพักน้ำเเรง ไม่ทำธุรกิจสีเทา

27 มีนาคม 2566 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม แถลงโต้กลับพร้อมเปิดเผยหลักฐานกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาพใบเสร็จรับเงิน 3 แสนบาท ในชื่อของบริษัทนายษิทรา โดยระบุว่า เป็นค่าแถลงข่าวออกสื่อ และกล่าวหาว่านายษิทรา เป็นตัวแทนเว็บพนันออนไลน์

"ทนายตั้ม" ยอมรับ เรียกเก็บค่าเเถลงข่าว 3 เเสนจริง อ้าง ป้องกันถูกฟ้อง

นายษิทรา เผยว่า ย้อนกลับไปปี 2547 หลังตนเรียนจบเนติบัณฑิตและเป็นทนายความ ได้ให้คำปรึกษาและให้ความรู้ประชาชนทางกฎหมายโดยไม่เสียเงิน และได้ช่วยเหลือครอบครัวหนึ่งก่อนได้รับคำชมว่า "สมกับเป็นทนายประชาชน"

ก่อนจะนำมาทำเสื้อ และตั้งมูลนิธิคอยให้คำปรึกษาและบรรยายข้อกฎหมาย กระทั่งตนมามีชื่อเสียงจากคดีหวย 30 ล้านบาท และคดีของลุงพล ที่กลายเป็นจุดเปลี่ยน ทำให้ตนไม่มีงานเลยเป็นเวลา 6 เดือน จนครอบครัวต้องลำบาก ก่อนเปลี่ยนแนวคิดหันมาทำธุรกิจเปิดบริษัทษิทรา ลอว์เฟิร์ม เป็นเวลา 1 ปี มีคดีความนับพันคดี

นายษิทรา ยอมรับว่ามีคดีที่ตนเรียกเก็บเงินจริง แต่ไม่ใช่ทุกคดี เว้นแต่เป็นคดีที่ต้องต่อสู้กับผู้มีอิทธิพล ซึ่งลูกความต้องมีกำลังจ่าย และตนจะถูกฟ้องร้องแน่ โดยเงินดังกล่าวจะไปใช้กับทุกคนที่จะถูกฟ้อง ไม่ใช่เพียงตนเท่านั้น ยกตัวอย่างคดีความขัดแย้งในครอบครัวอดีตรองนายกฯ ย. และอีกคดีที่เรียกเก็บเงินคือคดี นักธุรกิจสาวไฮโซ  เป็นเงิน 3 แสนบาท จนตนถูกฟ้องร้องต้องเดินทางไป จ.นครพนม ดังนั้น จึงคิดค่าแถลงข่าวและการติดตามเรื่องโดยทำในรูปแบบของใบเสนอราคา

"ทนายตั้ม" ยอมรับ เรียกเก็บค่าเเถลงข่าว 3 เเสนจริง อ้าง ป้องกันถูกฟ้อง

ภาพดังกล่าวที่นายชูวิทย์ โพสต์เป็นเหตุการณ์วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีนายตี้ ที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันมาปรึกษาตนว่ามีญาติกดโทรศัพท์ตัวเองโอนเงิน 40 ล้านบาท เข้าเว็บพนัน จึงต้องการให้ตนตามเรื่องกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.)

เรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับนายตำรวจใหญ่ ตนจึงเรียกเงินค่าฟ้องร้อง และเก็บเพิ่มอีก 15 เปอร์เซ็นต์ แต่เรื่องนี้ไม่ได้ตกลงกัน และผู้เสียหายจึงไปพบทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ แทน ทำให้ใบเสนอราคากลายเป็นที่มาของการแฉครั้งนี้ ยืนยันตนไม่ได้ไถเงิน ส่วนคดีอื่น ๆ ที่ไม่เก็บเงิน เช่น คดีน้องพอร์ช yes indeed ที่ทำผิดสัญญาค่ายเพลง ซึ่งตนก็ถูกฟ้องแต่ไม่ได้เรียกเก็บเงิน 

นายษิทรา ยอมรับว่าตนเรียกเงินแพงเพราะทุกคนทราบดีว่าตัวเองจริงจังและตามคดีถึงที่สุด ในเมื่อลูกความมาพึ่งตนแล้ว หากโดนฟ้องก็ต้องโดนด้วยกัน ถือเป็นคติของตน  ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนต่าง ๆ ปกติตนคิดเงินค่าโทรศัพท์ปรึกษากับทีมงานเป็นเวลา 20 นาที ราคา 1,000 บาท ปรึกษากับตน 1,500 บาท หากมาพบตนที่สำนักงานครึ่งชั่วโมง 3,000 บาท

ยืนยันว่าโปร่งใส สามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินได้ เพราะเสียภาษีอย่างถูกต้อง ไม่ผิดมรรยาททนายความ เพราะการเรียกรับเงินถือเป็นเรื่องปกติ เพราะตนยังทราบด้วยว่า มีทนายหญิงคนหนึ่งเก็บเงินค่าออกรายการโทรทัศน์ดังถึง 3 แสนบาท

"ทนายตั้ม" ยอมรับ เรียกเก็บค่าเเถลงข่าว 3 เเสนจริง อ้าง ป้องกันถูกฟ้อง

นายษิทรา กล่าวอีกว่า ไม่ได้เงินจากการแฉเรื่องนายชูวิทย์ เรื่องถุงเงิน 6 ล้านบาท เพียงแต่ตนทราบข้อมูลมา ทั้งนี้ยืนยันว่าจะยังเรียกเก็บเงินต่อไป เพียงแต่ต้องเปลี่ยนถ้อยคำจากค่าแถลงข่าวเป็นค่าดำเนินการติดตามเรื่องและเงินสำหรับการฟ้องร้อง และยังยืนยันว่าไม่ได้หลอกใช้สื่อและไม่กลัวว่าสื่อไม่มานำเสนอข่าวให้ตัวเอง เพราะที่ผ่านมาพูดกับลูกความแล้วว่าตนเองจะเป็นผู้รับผิดชอบเองทั้งหมด จึงไม่เคยแจ้งสื่อมาก่อนหน้านี้ และหลังจากนี้เวลาแจ้งหมายข่าวจะระบุด้วยว่าคดีไหนได้รับเงินหรือไม่ ที่ผ่านมามีทั้งคนจนและรวยที่มาปรึกษาแต่ไม่ได้เก็บเงินทั้งหมด

ส่วนเรื่องการเปลี่ยนรูปลักษณ์และรสนิยมการใช้ชีวิตของตัวเองก็เพราะมีฐานะมากขึ้น จึงอยากให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ถือเป็นเรื่องผิดแปลก เพราะตัวเองยืนยันว่าทำธุรกิจโดยสุจริต ยอมรับว่าลูกความเคยมอบของขวัญนอกจากเงินให้เป็นเสื้อราคา 2 หมื่นบาท

ชมคลิป

logoline