24 มีนาคม 2566 ยังเป็นประเด็นร้อนให้สังคมได้ติดตาม กรณีวิวาทะ ระหว่าง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง กับ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ปมการแฉเงิน 6 ล้านบาท ที่นายชูวิทย์ รับมาจากเว็บพนัน ซึ่งวันนี้ นายชูวิทย์ ได้ตั้งโต๊ะแถลงโต้ "ทนายตั้ม" ว่าเป็นการรับงานมาโจมตีตน รวมถึงมีการพาดพิงบุคคลต่าง ๆ อีกหลายคน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ล่าสุด นายชูวิทย์ ได้โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ถึงประเด็นร้อนครั้งนี้เพิ่มเติม โดยระบุว่า
คนสีเทา
.
ผมนั้นเป็นคนสีเทา และไม่เคยเปลี่ยน หรืออันที่จริงแก่เกินไปที่จะเปลี่ยน
.
ผมไม่ใช่คนดี หรือเป็นสุจริตชนแต่อย่างใด
.
แต่เมื่อบ้านเมืองเป็นสีเทา การใช้คนสีเทาอย่างผมจัดการเรื่องเทาๆ แล้วมันก็มีคนใช้วิธีการสีเทาคิดจะจัดการผม
.
ยอมรับตรงๆ เหมาะสมดี ชอบครับ
.
ผมไม่มีต้นทุน หรือติดลบด้วยซ้ำ คนรบกับผมต้องเหนื่อยหน่อย
.
อย่างทนายตั้ม หรือนายสันธนะที่ออกมาในจังหวะกำลังร้อนแรง ผมชอบแลก เพราะไม่มีอะไรเสีย ผมไปสุดเสมอ
.
เมื่อแรงมาก็แรงกลับ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน
.
หากจะเรียกผมว่า “โจร” คงผิด ต้องเรียกผมว่า “มหาโจร”
.
เป็นโจร ย่อมรู้ใจโจร ชั้นเชิงเล่ห์เหลี่ยมต้องทันโจร
.
บางเรื่องผมก็ไม่สามารถเปิดเผยได้ เรื่องคงตายไปกับผม เพราะผมก็มี “จรรยาโจร”
.
ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่โจรอย่างผม แต่อยู่ที่คนแกล้งทำตัวขาว แสร้งทำดี ดูเหมือนคนดี แต่แท้จริงแล้วมันคนเลวหลบใน
.
ผมไม่เล่นเกม “โปลิสจับขโมย” กับ เด็กวานซืน อย่างตั้ม ที่ไปนั่งตอบทีละนิด โต้ทีละหน่อย เพื่อลากกระแสสื่อไปวัน ๆ โดยไม่มีอะไรที่เป็นประโยชน์
.
จะทำอะไรกับคนอย่างผมได้?
.
สังคมไทย “ฮีโร่” ตายไปหมดแล้วครับ
.
ตอนนี้มีแต่โจรอย่างผมนี่แหละครับ ที่จะยังเปิดหน้าสู้อยู่
.
ขึ้นต้นเป็น “ทนายประชาชน” แต่ลงท้ายอย่าเป็น “ทนายโจร” ก็แล้วกัน
.
หรือหากอยากเป็นโจร ก็ยอมรับแบบผมเลยว่าเป็นโจร
.
ล่าสุด ปปง. จะตรวจสอบผม ชอบครับ
.
เพราะก็คนในนี้ล่ะครับ ไม่ได้ไกลที่ไหนเลย ห่างกันแค่ไม่กี่โต๊ะ
ซึ่งภายหลังที่โพสต์ถูกเผยแพร่ ได้มีชาวเน็ตจำนวนมาก เข้ามาแสดงความคิดเห็น หนึ่งในนั้นคือ ทนายตั้ม ที่ระบุว่า...
เด็กวานซืนเปิดทีละนิดอย่างผม ทำคนแก่ประสบการณ์สูง ติดหล่มยิ่งกว่าลิงแก้แหได้ แบบนี้พี่จะเรียกผมว่า ทนายโจร ผมก็พร้อมน้อมรับครับ