3 มีนาคม 2566 เวลา 11.30 น.ที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รอง ผบก.สอท.1 ร่วมกันจับกุมนายดูริยะ เจ๊ะและ อายุ 42 ปี ภูมิลำเนา จ.ปัตตานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.597/2566 ลงวันที่ 1 มีนาคม 2566 ความผิดฐาน “โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง , ปลอมเอกสารสิทธิ , ใช้หรืออ้างเอกสารปลอม และฉ้อโกง” โดนจับได้ที่สภ.ปัตตานี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
สืบเนื่องจาก ผู้ต้องหาติดต่อขอซื้อมะม่วงจากกลุ่มเกษตรผู้ปลูก ใน จ.ฉะเชิงเทรา ผ่านเพจเฟซบุ๊ค “เกษตรกรกลุ่มแปลงใหญ่มะม่วงอำเภอบางคล้า" จำนวน 2 ครั้ง
ครั้งแรก สั่งซื้อจำนวน 5 กิโลกรัม ราคา 449 บาท
ครั้งที่สอง สั่งซื้อจำนวน 9 กิโลกรัม ราคา 729 บาท
รวมเป็นเงิน 1,178 บาท
จากนั้น ผู้ต้องหาโอนเงินจากธนาคารกรุงเทพ พร้อมส่งรูปสลิปมาให้ผู้เสียหาย หลังจากนั้น มีการแจ้งขอยกเลิกออเดอร์มะม่วง 9 กก. โดยอ้างว่าเพื่อนไม่สะดวกรับและขอให้โอนเงินคืนไปยังบัญชีชื่อผู้ต้องหา เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงโอนเงินกลับไปให้ ส่วนออเดอร์ 5 กก. ให้จัดส่งไปยังที่อยู่ตามที่ผู้ต้องหา ระบุไว้ คือ ต.รุสะมีแล อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี
แต่ต่อมา เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ผู้ต้องหาขอยกเลิกการสั่งมะม่วงจำนวน 5 กก.ที่เหลืออยู่ โดยอ้างว่าจะเดินทางไปต่างประเทศ ไม่สะดวกรับสินค้าและขอให้โอนเงินคืน ผู้เสียหายจึงโอนเงินดังกล่าวไป
ซึ่งต่อมาผู้เสียหาย เริ่มรู้สึกแปลกใจกับการยกเลิกออเดอร์ดังกล่าว จึงได้เช็ค QR Code ในสลิปโอนเงิน ที่ลงวันที่ 13 ก.พ. จำนวนเงิน 1,178 บาท พบว่าในระบบขึ้นเป็นสลิปโอนเงินจำนวน 0.01 บาท
ผู้เสียหายจึงแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ www.thaipoliceonline.com ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเดินทางเข้าให้ปากคำต่อ พนักงานสอบสวน บก.สอท.1 กระทั่ง พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออนุมัติออกหมายจับและติดตามจับกุมตัวได้
หลังการจับกุม นายดูริยะ รับสารภาพว่า ตนเองมีอาชีพขายเสื้อผ้าตามตลาดนัด ที่ผ่านมา เคยแก้ไขสลิปเพื่อเติมเงินเล่นเกมส์ออนไลน์ แต่ก็ไม่เคยได้เพราะถูกจับได้ตลอด จึงหันมาหลอกร้านค้าออนไลน์แทน โดนทำแบบนี้มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกร้านเสื้อแต่เขาจับได้เลยไม่ได้เงิน ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 โดยตนเองจะนำสลิปของไอแบบค์กิ้งมาปรับแต่งยอดเงินและชื่อผู้รับโอน ซึ่งตนจะเน้นเฉพาะของธนาคารกรุงเทพเพราะพื้นหลังจะไม่มีลาย แต่ธนาคารอื่นมีลายจึงทำให้แก้ไขยาก
ด้านนางเทวารักษ์ ฉิมไทย อายุ 42 ปี เจ้าของเพจ “เกษตรกรกลุ่มแปลงใหญ่มะม่วงอำเภอบางคล้า” กล่าวว่า เพจของตนเป็นการรวมกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกมะม่วงใน อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อเป็นช่องทางในการขายสินค้าในโซเชียล ช่วงโควิดจนถึงปัจจุบัน ที่ผ่านมาเคยถูกมิจฉาชีพ เข้ามาหลอกสมาชิกผู้ค้าในลักษณะนี้มาแล้วครั้งนึง แล้วก็เงียบหายไป จนมีคนร้ายรายนี้เข้ามาก่อเหตุ
ผมยอมรับว่าตนเองผิดพลาดทึ่ไม่ได้เช็คการโอนเงินก่อน แต่ด้วยเราไม่คิดว่าเขาจะส่งสลิปปลอม อีกทั้งเราเองก็ต้องการรักษาลูกค้าไว้ จึงไม่ตรวจสอบก่อน ฝากไปยังผู้ประกอบการให้ตรวจสอบการโอนเงินว่ามีการโอนมาจริงมั้ย ก่อนส่งสินค้าหรือคืนเงิน หรือถ้าให้ดีสมัครการแจ้งเตือนเบินเข้ากับธนาคาร เพื่อลดช่องว่างของมิจฉาชีพที่จะมาหลอก
พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่า คนร้ายตั้งใจใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการหลอกลวงประชาชน โดยการใช้เอกสารสลิปโอนเงินปลอม ส่งมาทางบัญชีเฟซบุ๊ค เป็นการทำลายความเชื่อมั่นของประชาชน เกิดความระแวงไม่ไว้ใจในการทำธุรกรรมใดๆ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ
ปัจจุบัน มิจฉาชีพที่มีพฤติกรรมที่ตั้งใจจะหลอกลวง ฉ้อโกงประชาชน มีอยู่เป็นจำนวนมาก ทุกรูปแบบ อาทิ สั่งซื้อของไม่ได้ของ สั่งซื้อของแล้วไม่ได้ตามปก หลอกชักชวนให้ลงทุนต่างๆ ฯลฯ ซึ่งมีผู้เสียหายจำนวนมาก โดยผู้เสียหายได้มีการแจ้งความผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ www.thaipoliceonline.com ทำให้ประชาชนเกิดความสะดวกในการแจ้งความร้องทุกข์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้โดยรวดเร็ว